วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

จ.หนองคาย จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย กิจกรรมพัฒนาสิ่งแวดล้อมและบำเพ็ญสาธารณประโยชน์สถานที่ท่องเที่ยววิถีชุมชน

วันที่ 24 ก.พ. 64 เวลา 11.30 น. ที่ จุดบริการนักท่องเที่ยวชมวิวทะเลหมอกภูห้วยอีสันและล่องเรือชมพันโชคแสนไคร้บ้านม่วง หมู่ 2 ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีการจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาในวันสำคัญของชาติไทย เนื่องในวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย 24 กุมภาพันธ์ 2564 กิจกรรมพัฒนาสิ่งแวดล้อมและบำเพ็ญสาธารณประโยชน์สถานที่ท่องเที่ยววิถีชุมชน เพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้ร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล มีจิตอาสาพระราชทานจากส่วนราชการต่าง ๆ ทั้งพลเรือน ทหาร  ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักเรียน และประชาชนจิตอาสาทุกภาคส่วนเข้าร่วมกิจกรรม ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด




ซึ่งภายหลังประกอบพิธีเปิดแล้ว ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ จิตอาสาพระราชทานและประชาชนจิตอาสาได้แยกย้ายกันทำกิจกรรมตามพื้นที่ โดยร่วมกันปลูกต้นไม้จำนวน 350 ต้น แยกเป็นต้นพญาเสือโคร่ง 50 ต้น, อินทนิล 100 ต้น, ตะแบก 100 ต้น และยางนา 100 ต้น รวมทั้งปรับภูมิทัศน์ทำความสะอาดบริเวณจุดจอดรถพานักท่องเที่ยวขึ้นชมภูห้วยอีสัน, ทำคอกใส่เศษและวัชพืชใบไม้สำหรับทำปุ๋ยหมัก, ปรับภูมิทัศน์ทำความสะอาดบนภูห้วยอีสัน และทาสีศาลาพระพุทธรูปตรงจุดจอดรถพานักท่องเที่ยวขึ้นชมทะเลหมอกภูห้วยอีสัน





สำหรับภูห้วยอีสันและพันโชคแสนไคร้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดหนองคาย และเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัด รวมถึงชาวต่างชาติเป็นอย่างดี โดยทั่วไปแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าว จะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าชมในห้วงไฮซีซั่น หรือช่วงหน้าหนาว ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวพากันเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสภาพอากาศมีความหนาวเย็นสบาย ไม่ร้อน มีทะเลหมอกและมองเห็นทิวทัศน์ธรรมชาติสองฝั่งโขงที่สวยงาม











วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ครบรอบ 459 ปีนมัสการหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ ปีนี้วัดศรีชมภูองค์ตื้อ งดจัดมหรสพตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ยังเปิดให้ประชาชนเข้ากราบไหว้ตามปกติ เพื่อรักษาไว้ซึ่งประเพณีบุญเดือนสี่

วันที่ 22 ก.พ. 64 ที่วัดศรีชมภูองค์ตื้อ ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ซึ่งวันนี้เป็นวันจัดงานสืบสานประเพณีบุญเดือนสี่ นมัสการหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ ครบรอบ 459 ปี แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปีนี้ทางวัดได้งดงานจัดมหรสพและคอนเสิร์ตเพื่อป้องกันเชื้อดังกล่าว แต่ยังเปิดให้ประชาชนเข้ากราบไหว้หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อตามปกติ เพื่อรักษาไว้ซึ่งประเพณีบุญเดือนสี่ โดยทางวัดได้จัดมาตรการตามประกาศของกระทรวงวัฒนธรรม เรื่องแนวทางการปฎิบัติเทศกาลประเพณี พิธีทางศาสนา และพิธีการต่างๆ กรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทางวัดได้จัดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ให้เว้นระยะห่าง และการลงทะเบียนผู้ที่มาทำบุญภายในวัดตามมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด ซึ่งทุกคนจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยด้วยเช่นกัน



ในส่วนพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเดินเวียนเทียนช่วงเวลากลางคืนรอบวิหารหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ ได้จัดมี 2 วัน คือวันบวงสรวงพระเจดีย์นกยูง 21 กุมภาพันธ์ 2564 และวันสุดท้ายของงาน 26 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งเป็นวันมาฆบูชาเท่านั้น ในส่วนกิจกรรมนันทนาการอื่นๆ เช่น การถวายจตุปัจจัยไทยทาน การถวายสังฆทาน และการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในวัดยังคงให้พุทธศาสนิกชนเข้ามาทำบุญตามปกติ ภายใต้มาตรการการคัดกรองที่ทุกคนจะต้องปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด




สำหรับวัดศรีชมภูองค์ตื้อ เป็นวัดสำคัญและเก่าแก่ของจังหวัดหนองคาย สิ่งสำคัญที่สุดในวัดนี้ก็คือ "หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ" เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงเคารพนับถือกันมาก เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ หล่อด้วยทอง  ฝีมือของช่างฝ่ายเหนือและช่างล้านช้าง มีพุทธลักษณะงดงามมาก นั่งขัดสมาธิปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 3.29 เมตร สูง 4 เมตร จากหลักฐานศิลาจารึกกล่าวว่า "พระเจ้าองค์ตื้อ" สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2105 โดยพระไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์นครเวียงจันทน์ พร้อมด้วยพระโอรส พระธิดา และบริวารช่วยกันหล่อโดยใช้ทองคำ ทองเหลือง และเงินผสมกัน รวมน้ำหนักได้ 1 ตื้อ ซึ่งเป็นมาตรโบราณของอีสานจึงได้นามว่า "องค์ตื้อ" (มาตราโบราณภาคอีสานถือว่า 10 ชั่ง เป็นหมื่น, 10 หมื่น เป็นแสน, 10 แสน เป็นล้าน, 10 ล้าน เป็นโกฏิ, 10 โกฏิ เป็นหนึ่งกือ, 10 กือ เป็นหนึ่งตื้อ)




ภายในบริเวณวัดศรีชมพองค์ตื้อนี้ มีสิ่งก่อสร้างเก่าแก่ที่น่าชมหลายอย่าง เช่น พระเจดีย์ พระอุโบสถ และสิ่งก่อสร้างอื่นๆ สภาพโดยทั่วไปสงบ ร่มรื่น ด้วยหมู่แมกไม้ที่มีขนาดสูงใหญ่ด้วยกาลเวลา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสงบ ทุกปีทางวัดจะจัดงานนมัสการพระเจ้าองค์ตื้อเป็นประจำในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4














วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

เก๋งกระบะชนสนั่นบนถนนชนบท หน้าพังยับเยิน ตายคาซาก 5 เจ็บ 9 สลดมีทารก 3 เดือนและ 6 เดือนด้วย ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

วันที่ 20 ก.พ.64 เวลาประมาณ 19.50 น. พ.ต.ท.อัมพร ปลัดพรมมา สารวัตร (สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ รับแจ้งอุบัติเหตุมีรถยนต์กระบะชนกับรถยนต์เก๋งมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตบนถนนชนบทสายน้ำโมง-บ้านทุ่ม หมู่ 1 ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมอาสาสมัครกู้ภัยในพื้นที่ แพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ

ที่เกิดเหตุเป็นถนนทางตรง 2 ช่องทางเดินรถ พบรถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแม๊ค สีดำ ทะเบียน ถง 5100 กรุงเทพมหานคร กระเด็นไปอยู่ข้างทาง สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ในห้องโดยสารพบเสียชีวิตเป็นผู้ขับขี่ทราบชื่อ น.ส.มลิวัลย์  คำภีระเกษ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 8 ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย และผู้โดยสารทราบชื่อนางเงิน เกียรตินอก อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 1 ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตากฯ และนางวันเพ็ญ คำภรีระเกษ  อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176 หมู่ 1 ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตากฯ ห่างกันเล็กน้อยบริเวณกลางถนนพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฟอร์ด โพกัส ทะเบียน ขข 5249 อุดรธานี สภาพด้านหน้าพังยับเยินเช่นกันในห้องโดยสารพบผู้เสียชีวิตเป็นผู้ขับขี่ ทราบชื่อนายธนชัย  จันทะชาด อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 234 หมู่ 1 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย และผู้โดยสารทราบชื่อนายชัยณรงค์  กุลแสนเต่า อายุ 37 ปี อยู่ที่ 31 หมู่ 10 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อฯ จนท.กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 5 คนออกมา



นอกจากนี้ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่โดยสารมากับรถยนต์กระบะอีซูซุฯ อีก 9 คน มี 1. ด.ช.มนแคน ทองแจ้ง อายุ 6 ขวบ , 2. ด.ญ.นฤมล แสนนอก อายุ 3 เดือน , 3. ด.ญ.กมลชนก  อุดแว่น อายุ 9 ปี , 4. ด.ญ.ณัฐชา คำภีระเกษ อายุ 10 ปี, 5. นายนัทธพงศ์  คำภีระเกษ อายุ 28 ปี , 6.นางวงค์จันทร์  ขาวดี อายุ 46 ปี , 7. น.ส.นัทธมน  คำภีระเกษ  อายุ 28 ปี , 8. ด.ช.นฤเบศวร์  คำภีระเกษ อายุ  6 เดือน , 9. น.ส.บัวพัน  เกียรตินอก อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นทราบว่ารถยนต์กระบะขับมุ่งหน้าจาก อ.ท่าบ่อฯไปทางบ้านทุ่มฯ พอมาถึงที่เกิดเหตุจึงเฉี่ยวชนกับรถยนต์เก๋งคันคู่กรณีที่ขับสวนทางมา สันนิฐานว่ารถยนต์เก๋งน่าจะแซงรถคันที่อยู่ด้านหน้าแต่แซงไม่พ้น จึงมาเฉี่ยวชนกับรถยนต์กระบะคันคู่กรณีที่ขับสวนทางมาจนมีผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวน 9 ราย  สาเหตุการเจ็บ/ตายอยู่ระหว่างสอบสวน ส่วนผู้เสียชีวิต จนท.กู้ภัยนำไปส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ เพื่อรอญาตมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป                                    






จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...