วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2564

จิตอาสาฯตำบลบ้านหม้อ ทำกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาวัดสักการาม เพื่อให้วัดเกิดความสะอาดเรียบร้อยสวยงาม

วันที่ 26 มี.ค.64 ที่ วัดสักการาม บ้านป่าสักเหนือ หมู่ที่ 3 ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายพิทยา ชำนาญเนียม ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริการปกครอง, นายสมโภช ภูจอมดา กำนันตำบลบ้านหม้อ พร้อมด้วยจิตอาสาพระราชทาน และประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ ร่วมกิจกรรม “จิตอาสาพัฒนา วัดสักการาม” เพื่อร่วมกันทำความสะอาด ปรับภูมิทัศน์บริเวณรอบวัด อุโบสถ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบ เรียบร้อย สะอาด สวยงาม และสร้างความประทับใจแก่ประชาชนที่มาประกอบศาสนกิจ 



โดยการทำความสะอาดปรับปรุงภูมิทัศน์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ทำนุบำรุงศาสนสถานอันเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพุทธให้สะอาด ร่มรื่นสวยงาม ตลอดจนยังเป็นการแสดงถึงความสามัคคี ความร่วมมือร่วมใจ ในการพัฒนาสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ของชุมชน อันจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนสืบไป














วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2564

ทหาร กกล.สุรศักดิ์มนตรี ตำรวจ และฝ่ายปกครอง จับแก๊งลักรอบพาชาวจีน ลอบเข้าไทย สารภาพได้ค่านำพาหัวละ 15,000 บาท ยังไม่รวมค่าส่งต้นทาง

วันที่ 25 มี.ค. 64 เจ้าที่ทหารหมวดเคลื่อนที่เร็วที่ 1 กองร้อยเคลื่อนที่เร็ว ที่ 2 กองบังคับการควบคุมที่ 2 (ร.13) กกล.สุรศักดิ์มนตรี ร่วมกับตำรวจ สภ.สังคม, ตำรวจภูธรภาค 4 และฝ่ายปกครองตำบลผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย โดยการอำนวยการของ พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผบก.ภ.จังหวัดหนองคาย, พ.อ.มงคล หอทอง ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี, พ.อ.ศิวดล ยาคล้าย รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี, นายนพดล จอมเพชร นายอำเภอสังคม และ พ.ต.อ.ณรงค์ ตันดี ผกก.สภ.สังคม ร่วมกันออกตรวจลาดตระเวนในพื้นที่ล่อแหลมตามแนวชายแดนเขตอำเภอสังคม จ.หนองคาย เพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานผิดกฎหมายเข้าเมือง



แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังซุ่มเฝ้าระวังอยู่ริมถนนสาย 211 เส้นสังคม-ศรีเชียงใหม่ กระทั่งเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 25 มีนาคม 2564 เห็นกลุ่มคนต้องสงใสเดินขึ้นมาจากริมฝั่งแม่น้ำโขง เขตรอยต่อบ้านผาตั้ง ต.ผาตั้ง อ.สังคม กับบ้านห้วยช้างเผือก ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ พบมีรถยนต์กระบะจอดรอรับอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบ เมื่อกลุ่มคนดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ ต่างพากันวิ่งหนีขึ้นไปบนภูผีปอบ บ้านห้วยช้างเผือก ต.พระพุทธบาท แล้วก็พากันเข้าไปหลบอยู่ในเตาเผาถ่านของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่จึงออกติดตามและสามารถจับกุมไว้ได้ เป็นชาวไทย 2 คน ชื่อ นายธวัชชัย(ทัด) นาเจริญ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 52 หมู่ 9 บ้านนามน ต.เซิม อ.โพนพิสัย จ. หนองคาย, นายรามิน(มิน) ไชยา อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 87 หมู่ 9 บ้านนามน ต.เซิม อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย และชาวต่างด้าว(ชาวจีน) จำนวน 8 คน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้จับสายของขบวนการลักรอบนำต่างด้าวเข้าเมืองได้อีก 1 คน ชื่อนาย ถิรคุณ(แต้) บุญอภัย  อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 81  บ้านผาตั้ง หมู่ 1 ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย และยึดรถยนต์กระบะ นิสสัน นาวารา ทะเบียน ผธ 3152 อุดรธานี จำนวน 1 คัน เรือกีบเพรายาว จำนวน 2 ลำ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว 3 ชาวไทยและชาวจีนทั้ง 8 คน ส่งตัวไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลสังคม พร้อมนำตัวไปสอบสวนขยายผลอย่างละเอียด



จากการสอบสวนหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการนำพาคนต่างด้าวที่ถูกจับกุมให้การเบื้องต้นว่า ตนได้รับค่าจ้างให้ขนชาวจีนกลุ่มดังกล่าวข้ามมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านหัวละ 15,000 บาท ใช้เรือ 2 ลำลักรอบเข้ามาเที่ยวละ 4 คน จะมีผู้ร่วมขบวนการรวมทั้งสิ้น 12 คน โดย 2 คนจะเป็นพาชาวต่างด้าวนำส่งยังต้นทาง ส่วนอีก 10 คนจะเป็นสายคอยสอดส่องการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ ซึ่ง 10 คนนี้จะได้ค่าหัว 500 - 1,000 บาท ใครนั่งสอดแนมเจ้าหน้าที่จะได้ 500 บาท แต่ท่าใครขับขี่รถจักรยานยนต์สอดแนมเจ้าหน้าที่จะได้ 1,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำผู้ต้องหาพร้อมชาวจีนที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังคม ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฏหมายต่อไป ส่วนผู้ร่วมขบวนการที่เหลือเจ้าหน้าที่รู้ตัวหมดทุกคนแล้ว โดยจะออกหมายจับมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป




โรงเรียนฮั่วเคียวกงฮัก นำเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 3 เข้าค่ายศิลปะเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยเท้าพ่อรัชกาลที่ 9 ณ ศูนย์เรียนรู้ตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริระดับอำเภอ บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง

วันที่ 24 มี.ค.64 ที่ ศูนย์เรียนรู้ตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริระดับอำเภอ บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นางโยวดี ชาวพรอน ผู้อำนวยการโรงเรียนฮั่วเคียวกงฮัก อ.เมืองหนองคาย ได้มอบหมายให้หัวหน้าโครงการนางสาวชฎาพร ขจร และคณะครูประจำชั้น นำเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 3 จำนวน 112 คน เข้าค่ายศิลปะเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยเท้าพ่อรัชกาลที่ 9 ตามโครงการศึกษานอกสถานที่ระดับปฐมวัยเรียนฟรี 15 ปีประจำปีการศึกษา 2563 โดยมีนายศราวุฒิ จำหงษ์ ปลัดอำเภอท่าบ่อ, ครูแดง บ้านศิลป์ไทย และครูเบิ้ม เติมศิลป์ ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมพาเดินเยี่ยมชมพืช ผัก ผลไม้ ภายในศูนย์เรียนรู้ตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริระดับอำเภอฯ ก่อนร่วมกันทำกิจกรรมวาดภาพระบายสี




โรงเรียนฮั่วเคียวกงฮัก ได้ดำเนินโครงการศึกษานอกสถานที่ระดับปฐมวัย  เนื่องจากการศึกษาปัจจุบันได้มุ่งเน้นให้ผู้เรียน  ได้เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ ตามสภาพแวดล้อมที่เป็นสิ่งจากประสบการณ์ตรง  โดยประสมประสานความรู้ต่าง ๆ อย่างสมดุล มุ่งเน้นในเรื่องของความรู้คุณธรรม  กระบวนการเรียนรู้และบูรณาการความรู้ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม  รวมทั้งจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง  โดยประสมประสานสาระความรู้ในด้านต่าง ๆ อย่างได้สัดส่วนและสมดุล  การศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่ จึงเป็นกิจกรรมการเรียนการสอนที่สำคัญอย่างมาก ที่จะช่วยให้ผู้เรียนได้มี โอกาสเรียนรู้ตนเอง ทำให้ได้รับความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องที่ศึกษาอย่างแท้จริง ทั้งยังเสริมสร้างประสบการณ์แก่ผู้เรียนอย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เพราะการพาผู้เรียนไปทัศนศึกษานอกสถานที่ ถือว่าเป็นวิธีการที่ทำให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ตรง ในการเรียนรู้และสามารถพัฒนาผู้เรียนในด้านร่าง อารมณ์ สังคม และสติปัญญา อีกทั้งยังสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มพูลและสงเสริมสมรรถภาพของผู้เรียนให้ดียิ่งขึ้น














รองผู้ว่าฯหนองคาย ร่วมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนชาวตำบลน้ำโมง อ.ท่าบ่อ ร่วมกับคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนบน)

วันที่ 24 มี.ค.64 ที่ ศาลาการเปรียญวัดโคกสว่าง บ้านหนองแวง หมู่ 7 ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ร่วมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ร่วมกับคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนบน) นำโดย พลโท จเรศักดิ์ อานุภาพ ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม สมาชิกวุฒิสภา และคณะกรรมการสมาชิกวุฒิสภา เดินทางมารับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ตำบลน้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ที่ใช้น้ำจากลำน้ำห้วยโมง ห้วยลาน และหนองหวาย ในการเกษตร การอุปโภค บริโภค และปศุสัตว์ โดยเฉพาะห้วยลานและหนองหวายที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำน้อย ภัยแล้ง โดยมีนายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนร่วมให้การต้อนรับ



ซึ่งการเดินทางลงพื้นที่ของสมาชิกวุฒิสภาในครั้งนี้ เพื่อชี้แจง บทบาทหน้าที่ และอำนาจของสมาชิกวุฒิสภาในการปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ และการติดตามการบังคับใช้กฎหมาย ในประเด็นแผนปฏิบัติราชการของจังหวัดหนองคาย ที่สอดคล้องกับแผนปฏิรูปประเทศ และยุทธศาสตร์ชาติ ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคกับการบริหารงานของจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะที่เกี่ยวข้องกับประชาชนในด้านต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มประชาชนที่มีที่อยู่อาศัยติดกับลำน้ำห้วยโมง และลำน้ำสาขา ในการเกษตรโดยเฉพาะการทำนาปรัง การอุปโภค บริโภค และปศุสัตว์ เป็นต้น เพื่อนำข้อมูลไปมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ต่อไป




สำหรับอำเภอทำบ่อ มีพื้นที่ในการเกษตร 104,070 ไร่ โดยประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีอาชีพหลัก ได้แก่ การทำนา 74 %, พืชไร่ เช่น อ้อย ยาสูบ มันสำปะหลัง 12 %, พืชผัก เช่น พริก ผักบุ้งจีน ผักกาดหอม 4 % และอาชีพรอง ได้แก่ การเลี้ยงปลา ,การเลี้ยงสัตว์ เช่น โค กระบือ สุกร ไก่ไข่ ซึ่งประซากรมีรายได้เฉลี่ยคนละประมาณ 78,000 บาทต่อปี อำเภอท่าบ่อมีแหล่งน้ำธรรมชาติที่สำคัญ คือ แม่น้ำโขง ห้วยโมง หัวยลาน และอ่างเก็บน้ำห้วยบังพวน










จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...