วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2564

โรงเรียนฮั่วเคียวกงฮัก นำเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทัศนศึกษาศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

 

วันที่ 30 มี.ค.64 ที่ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นางโยวดี ชาวพรอน ผู้อำนวยการโรงเรียนฮั่วเคียวกงฮัก อ.เมืองหนองคาย ได้มอบหมายให้หัวหน้าโครงการ นายอนุรุทร วันมะโน และคณะครูประจำชั้น นำเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 163 คน เข้าศึกษาเรียนรู้ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านทุ่งศิลย์ครูแดง ตามโครงการศึกษานอกสถานที่ ระดับประถมศึกษาเรียนฟรี 15 ปี ประจำปีการศึกษา 2563 โดยครูเบิ้ม เติมศิลป์ ให้การต้อนรับ พร้อมพาเดินเยี่ยมชมพืช ผัก ผลไม้ ภายในศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่ 19 ไร่ จากนั้นครูแดงและครูเบิ้มพานักเรียนนำสิ่งที่ได้พบเห็นมาวาดภาพระบายสี  เพื่อฝึกใช้ความคิดสร้างสรรค์ศิลปะ ให้เด็กได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และฝึกสมาธิ โดยเริ่มหัดวาดสิ่งต่างๆรอบตัว จะได้รู้จักกับรูปร่างและรูปทรงต่างๆ  เพื่อเป็นพื้นฐานในการวาดรูป  พร้อมทั้งวิธีระบายสีและองค์ประกอบของภาพให้เกิดความสวยงาม พร้อมมอบของที่ระลึกให้คณะครูและนักเรียน









โรงเรียนฮั่วเคียวกงฮัก ได้ดำเนินโครงการศึกษานอกสถานที่ระดับประถมศึกษา เนื่องจากการศึกษาปัจจุบันได้มุ่งเน้นให้ผู้เรียน ได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ตามสภาพแวดล้อมที่เป็นสิ่งจากประสบการณ์ตรง  โดยประสมประสานความรู้ต่างๆ อย่างสมดุล มุ่งเน้นในเรื่องของความรู้คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้และบูรณาการความรู้ต่างๆ ตามความเหมาะสม รวมทั้งจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง  โดยประสมประสานสาระความรู้ในด้านต่าง ๆ อย่างได้สัดส่วนและสมดุล  การศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่ จึงเป็นกิจกรรมการเรียนการสอนที่สำคัญอย่างมาก ที่จะช่วยให้ผู้เรียนได้มี โอกาสเรียนรู้ตนเอง ทำให้ได้รับความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องที่ศึกษาอย่างแท้จริง ทั้งยังเสริมสร้างประสบการณ์แก่ผู้เรียนอย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เพราะการพาผู้เรียนไปทัศนศึกษานอกสถานที่ ถือว่าเป็นวิธีการที่ทำให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการเรียนรู้  และสามารถพัฒนาผู้เรียนในด้านร่าง อารมณ์ สังคม และสติปัญญา อีกทั้งยังเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มพูนและสงเสริมสมรรถภาพของผู้เรียนให้ดียิ่งขึ้น



















วันอังคารที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2564

หนุ่มลาวหึงโหด คว้ามีดตัดหญ้าฟันนายจ้าง เมียตัวเอง และชาวบ้านตายสยอง 3 ศพ บาดเจ็บ 1 จนท.ระดมกำลังตามจับนานข้ามคืนจึงรวบตัวได้

วันที่ 30 มี.ค.64 ที่ สถานีตำรวจภูธรศรีเชียงใหม่ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผบก.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.อ.สันติ บุญชู ผกก.สภ.ศรีเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีเชียงใหม่, ตำรวจน้ำศรีเชียงใหม่, ฝ่ายปกครองอำเภอศรีเชียงใหม่ และสถานีเรือศรีเชียงใหม่ นรข.เขตหนองคาย แถลงข่าวในการจับกุมนายรอน หรือบังรอน วันเสนา อายุ 40 ปี สัญชาติลาว อาศัยอยู่ที่คุ้มด่านปลาฝา บ้านสะพานพุทธ หมู่ 2 ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ผู้ต้องหาคดีฆ่า 3 ศพ ก่อเหตุใช้มีดตัดหญ้าฟันนายจ้าง คือนายสงกรานต์ ลุนภูเขียว อายุ 47 ปี ที่อยู่ 30 บ้านสะพานพุทธ หมู่ 2 ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย พร้อมภรรยาของตัวเอง คือ น.ส.จารุวรรณ โสกาวิน อายุ 45 ปี ที่อยู่ 211 หมู่ 12 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย และนายสรวิทย์ ปกครอง อายุ 43 ปี ที่อยู่ 28 หมู่ 2 ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย และผู้บาดเจ็บอีก 1 คน เป็นหลานชายของนายสรวิทย์ฯ คือนายอนุชิน ปกครอง อายุ 32 ปี ที่อยู่ 54 หมู่ 2 ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย โดยเหตุเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 17.30 น. ของวันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องบูรณาการฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ระดมกำลังออกตามหา จนกระทั้งเวลาประมาณ 07.40 น. ของวันที่ 30 มี.ค. 64 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบผู้ต้องสงสัยกำลังเดินอยู่บนถนนลูกรังเส้นบ้านปุดดู่-บ้านน้ำทอนใต้ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังไปตรวจสอบ และสามารถควบคุมตัวไว้ได้




จากนั้นได้ควบคุมตัวบังรอนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งสาเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้ ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าเกิดจากความหึงหวง เนื่องจากนายสงกรานต์ ซึ่งเป็นนายจ้างของตน ชอบมาหยอกล้อภรรยาตน คือน.ส.จารุวรรณฯ และทั้งสองคนมีความสนิทชิดเชื้อเป็นที่น่าผิดสังเกตุ กระทั้งวันก่อเหตุนายสงกรานต์ฯ ได้ว่าจ้างตนกับภรรยามาตัดหญ้าที่สวนของนายสงกรานต์ ขณะที่ตนกำลังตัดหญ้าอยู่แอบเห็นนายสงกรานต์กำลังพูดคุยหยอกล้อกับภรรยาตน จึงเกิดอาการหึงหวงใช้มีดตัดหญ้าฟันนายสงกรานต์ไปหลายครั้ง แล้วก็ใช้มีดเล่มเดียวกันหันไปฟันภรรยาตน ภรรยาตนได้วิ่งหนีแล้วตะโกนให้คนช่วย ตนจึงวิ่งไร่ตามไช้มีดฟันไปหลายครั้งจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุก็เดินออกจากชายป่า จนถึงสวนยางพาราพบกับนายสรวิทย์ฯพร้อมกับหลานชาย สอบถามตนว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นมีคนร้องขอความช่วยเหลือ ตนกลัวว่าจะถูกจับ จึงใช้มีดฟันไปที่นายสรวิทย์ฯหลายครั้ง นายอนุชินฯหลานชายนายสรวิทย์ กระโดดเข้ามาช่วยลุง จึงเกิดการชกต่อยยื้อแย่งมีดพร้ากัน ทำให้มีดฟันที่ข้อมือของหลานชายของนายสรวิทย์ฯจนได้รับบาดเจ็บ มีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์จะเข้ามาช่วย ตนจึงวิ่งหนีไปหลบอยู่ที่กระท่อมนาของชาวบ้าน หลังจากนั้นตนก็เดินหลบหนีไปเลื่อยๆ จนมาถูกจับได้ในที่สุด  เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่น, พกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีเชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.











วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2564

"หนุ่ย" กิตติศักดิ์ คว้าเก้าอี้นายกเมืองท่าบ่อ ทิ้งคู่แข่ง 50 คะแนน พร้อมจูงมือทีม สท.กลุ่มรักท่าบ่อน้ำโมงก้าวหน้า มานั่งในสภา 8 ที่นั่ง

วันที่ 28 มี.ค.64 บรรยากาศการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลในพื้นที่ จ. หนองคาย ซึ่งมีการจัดการเลือกตั้งทั้งหมด 19 เทศบาลใน 9 อำเภอ โดยภาพรวมของการเลือกตั้งตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น โดยหลังปิดหีบเลือกตั้งในเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งได้ทำการนับคะแนนเสียง โดยมีประชาชนติดตามผลการนับคะแนนอย่างใกล้ชิด ถึงแม้จะมีฝนตกลงมาช่วงหัวค่ำก็ตาม

ผลการแข่งขันในครั้งนี้มีหลายเทศบาลที่ผลการแข่งขันเป็นที่ได้รับคัดเลือกจากประชาชนทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่หลายสนาม โดยเฉพาะสนามเลือกตั้งเทศบาลเมืองท่าบ่อ มีผู้ชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีฯ ถึง 3 คน 3 กลุ่ม ประกอบด้วย เบอร์ 1 นายอมรวิทย์ เปียผ่อง หัวหน้ากลุ่มเพื่ออนาคตท่าบ่อน้ำโมง และเป็นอดีตรองนายกฯ, เบอร์ 2 นายกิตติศักดิ์ วรรณวิเชษฐ์ หัวหน้ากลุ่มรักท่าบ่อน้ำโมงก้าวหน้า และเบอร์ 3 นายชาคริตชัย จอมแจ้ง หัวหน้ากลุ่มพลังใหม่ ร่วมใจพัฒนา ท่าบ่อ-น้ำโมง 



โดยประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ (อย่างไม่เป็นทางการ) นั้นปรากฏว่าคนรุ่นใหม่และหน้าใหม่ นายกิตติศักดิ์ วรรณวิเชษฐ์ ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 1 สามารถคว้าเก้าอี้นายกเทศมนตรีฯมาครอง โดยได้คะแนนเสียง 3,813 โดยชนะคู่แข่งถึง 50 คะแนน คือเบอร์ 1 นายอมรวิทย์ เปียผ่อง ที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 2 ได้ 3,763 ส่วนเบอร์ 3 นายชาคริตชัย จอมแจ้ง ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 3 ได้ 568


ซึ่งการเลือกตั้งฯในครั้งนี้ นายกิตติศักดิ์ วรรณวิเชษฐ์ ยังพาลูกทีมเข้ามานั่งในสภาฯ เป็นสมาชิกสภาเทศบาลฯถึง 8 คน ประกอบด้วย ว่าที่ร้อยตรีสงวนศักดิ์ ใจดี, นายมะนูญ อิสิ, นายนารถ ศรีอ้วน, นางชุติมา ชัยเวช, นายครุฑ ใจดี, ร.ต.ต.สุนทร กรมธรรมมา, นายพิเชษฐ์ อรรคทัย และนายสมบูรณ์ ภูมิสวัสดิ์

โดยประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ (อย่างไม่เป็นทางการ) ดังนี้

เขตเลือกตั้งที่ 1

1.ว่าที่ร้อยตรีสงวนศักดิ์ ใจดี เบอร์ 12 ได้ 1605

2.นายบุญทับ หมอยา เบอร์ 4 ได้ 1222

3.นางพวง โคตรชมภู เบอร์ 2 ได้ 1173

4.นายแทนธงชัย เทียมทะนงค์ เบอร์ 6 ได้ 1081

5.นายมะนูญ อิสิ เบอร์ 11 ได้ 1033

6.นายนารถ ศรีอ้วน เบอร์ 7 ได้ 1009


เขตเลือกตั้งที่ 2

1.นางชุติมา ชัยเวช เบอร์ 11 ได้ 1187

2.นายครุฑ ใจดี เบอร์ 9 ได้ 1057

3.นายศุภมิตร คชมิตร เบอร์ 7 ได้ 1026

4.นายพรชัย พรพิรุณโรจน์ เบอร์ 1 ได้ 1001

5.ร.ต.ต.สุนทร กรมธรรมมา เบอร์ 14 ได้ 983

6.นายสมคิด นครภักดี เบอร์ 8 ได้ 931 


เขตเลือกตั้งที่ 3

1.นายไพฑูรย์ ทับภูตา เบอร์ 2 ได้ 1362 

2.นายพิเชษฐ์ อรรคทัย เบอร์ 7 ได้ 1180 

3.นายมานะขาย เจริญสุข เบอร์ 1 ได้ 1158 

4.นายสมบูรณ์ ภูมิสวัสดิ์ เบอร์ 11 ได้ 1079 

5.นายพิเชษฐ บัณฑิตย์ เบอร์ 5 ได้ 936

6.นายสมศักดิ์ พุทธา เบอร์ 6 ได้ 910





วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2564

โควิดซา น้ำโขงลด ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เข้าจองพื้นที่หาดทรายริมโขง เปิดร้านอาหารรับนักท่องเที่ยวเล่นน้ำคลายร้อน หวังสร้างรายได้ช่วงวิกฤตโควิด-19 ต่อเนื่องถึงเทศกาลสงกรานต์

วันที่ 26 มี.ค. 64 ที่ หาดทรายริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านหัวทราย หมู่ 12 ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย มีชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันพัฒนาปรับปรุงเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อน จัดทำซุ้มร้านอาหาร ไว้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวเล่นน้ำคลายร้อน หลังจากปีที่ผ่านมาต้องปิดให้บริการ เพราะเหตุการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19



มาปีนี้น้ำโขงลดอย่างต่อเนื่อง จนเกิดชายหาดเป็นบริเวณกว้าง ชาวบ้านในพื้นที่จึงพากันไปจับจองพื้นที่หาดทรายริมโขง ที่เรียกกันว่า"หาดทรายทอง" พัฒนาปรับปรุงเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนอีกครั้ง หวังสร้างรายได้ช่วงวิกฤตโควิด-19 หน้าร้อนต่อเนื่องถึงเทศกาลสงกรานต์ นี้



สำหรับหาดทรายทองบ้านหัวทราย ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของอำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย มีลักษณะเป็นชายหาดยื่นออกไปกลางแม่น้ำโขงคล้ายทะเล โดยพบว่าในปีนี้น้ำในแม่น้ำโขงลดลงเร็วกว่าทุกปี เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้ง ทำให้มีบรรยากาศเหมาะแก่การท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมองเห็นทัศนียภาพสองฝั่งโขงที่สวยงาม และมองเห็นชายฝั่งของนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว อย่างใกล้ชิดอีกด้วย












จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...