วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ชาวบ้านในอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย รวมกลุ่มเลี้ยง“จิ้งหรีดสมุนไพร” เป็นอาชีพเสริมจากงานเกษตร เลี้ยง 45 วัน เก็บขายสร้างรายได้ตลอดทั้งปี

ที่ฟาร์มเพาะเลี้ยง"จิ้งหรีดสมุนไพร" ในพื้นที่บ้านเทวี หมู่ 7 ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย 7 ราย ต่างใช้เวลาว่างหลังเลิกงาน หรือว่างเว้นจากงานเกษตร ทำไร่ทำนา พากันรวมกลุ่มเพาะเลี้ยงจิ้งหรีดสมุนไพร ส่งขายให้พ่อค้าแม่ค้าและขายตามชุมชน นับเป็นการสร้างรายได้เสริมอย่างงาม ถือเป็นแหล่งผลิตจิ้งหรีดสมุนไพร ที่ใหญ่เป็นอันดับต้นของอำเภอท่าบ่อก็ว่าได้ เพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย บรรดาแม่ค้าพ่อค้าจะเดินทางมารับซื้อถึงที่ จนเพาะเลี้ยงจิ้งหรีดไม่ทันต่อความต้องการ




นางสาวปัญญา ราชหุ่น เลขานุการกลุ่มเพาะเลี้ยงจิ้งหรีดสมุนไพรบ้านเทวี กล่าวว่า ในหมู่บ้านจะมีหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มจักสาน, กลุ่มเพาะเห็ด และกลุ่มเพาะเลี้ยงจิ้งหรีดสมุนไพร โดยต่างคิดกันว่าหลังจากทำไร่ทำนาก็ว่างงาน ไม่มีอะไรทำ ชาวบ้านในพื้นที่จึงชักชวนกันมารวมตัวกันเป็นกลุ่มดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มเลี้ยงจิ้งหรีดสมุนไพร เพราะเป็นการเลี้ยงอยู่กับบ้าน และก็สะดวกสะบายในการดูแลฟาร์มจิ้งหรีด  ซึ่งวิธีการเลี้ยงก็ไม่ยุ่งยาก คือสถานที่เลี้ยง ต้องป้องกันแสงแดด และสายฝนได้ ควรมีอากาศถ่ายเทสะดวก ในแต่ละวันต้องให้อาหาร และน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยให้อาหารหลัก คือ พืชผักชนิดต่างๆ เช่น ใบมันสำปะหลัง ใบตำลึง ใบและผลฟักทอง ใบและผลมะละกอดิบ ใบเตย ใบกระเพา หยวกกล้วย เป็นอาหารหลัก ที่สำคัญต้องปลอดสารพิษ ซึ่งทางกลุ่มฯส่วนใหญ่จะปลูกไว้เอง เพื่อลดต้นทุน




ส่วนอาหารรองจะใช้อาหารไก่เล็กผสมกับแกลบอ่อนควบคู่กัน เมื่อเลี้ยงจิ้งหรีด พออายุได้ประมาณ 40-45 วัน ก็จะสามารถจับขายได้ ราคากิโลกรัมละ 100 บาท โดยจะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงที่ มีเท่าไหร่ก็รับซื้อหมด สมาชิกกลุ่มคนไหนเลี้ยงจำนวนมาก ก็จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท/เดือน ที่สำคัญเราต้องดูแลรักษาเอาใจใส่บ่อเลี้ยงจิ้งหรีด ต้องสะอาดที่สุด ในปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 7 คน มีฟาร์มเพาะเลี้ยงจิ้งหรีดสมุนไพร จำนวน 6 ฟาร์ม แต่ละฟาร์มต้องเลี้ยงจิ้งหรีด 3 รุ่น ไม่งั้นจะไม่ทันกับพ่อค้าแม่ค้า ที่มาติดต่อขอรับซื้อกันเป็นประจำ และบางส่วนก็จะนำไปขายตามท้องตลาดในชุมชน สร้างรายได้ให้กับสมาชิกตลอดทั้งปี ซึ่งหากท่านใดสนใจสั่งซื้อ หรืออยากเพาะเลี้ยงสร้างรายได้เสริม ก็สามารถติดต่อมาได้ที่ กลุ่มเลี้ยงจิ้งหรีดสมุนไพรบ้านเทวี เบอร์โทร 065-404-6039 "นางสาวปัญญา เลขานุการกลุ่มฯ"










วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2564

"ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านทุ่งศิลป์ครูแดง" รับรางวัลชมเชยระดับจังหวัด ตามโครงการ 1 จังหวัด 1 ศูนย์เรียนรู้ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต้นแบบ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564

นายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์ หรือครูแดง บ้านศิลป์ไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา ศูณย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านทุ่งศิลป์ ครูแดง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้รับเกียรติจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ มอบเกียรติบัตรรางวัลชมเชยระดับจังหวัด ตามโครงการ 1 จังหวัด 1 ศูนย์เรียนรู้ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต้นแบบประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ให้กัย"ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านทุ่งศิลป์ครูแดง" ณ หอประชุมประจักษศิลปาคม ศาลากลางจังหวัดหนองคาย โดยมีนายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อ ร่วมแสดงความยินดีในพิธีมอบรางวัลฯ ครั้งนี้ด้วย



โดยนายเฉลิมศักดิ์ ธรรม เรืองฤทธิ์ หรือครูแดง บ้านศิลป์ไทย เจ้าของศูนย์เรียนรู้ฯผู้ได้รับรางวัลฯ กล่าวว่า ตนเองได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงดำริไว้มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและได้นำมาถ่ายทอดให้กับชุมชนและเด็กๆโดยการสอดแทรกงานศิลปะผนวกกับการเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิตของชุมชนให้รู้จักการดำเนินชีวิตหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ อำเภอท่าบ่อจึงได้ดำเนินการจัดตั้งให้เป็นศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ฯประจำอำเภอ



ซึ่งบ้านศิลป์ไทย หรือบ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ตั้งอยู่บ้านเลขที่124 หมู่ 3 บ.ทุ่ม ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เกิดจากความตั้งใจของนายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์ (ครูแดง บ้านศิลป์)ที่อยากจะถ่ายทอดงานศิลปะให้กับเด็กและเยาวชนภายใต้ชื่อ"ชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 จนถึงปัจจุบัน ชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย ตั้งอยู่ภายในบริเวณบ้านทุ่งศิลป์ครูแดง บนพื้นที่ 19 ไร่เศษ เป็นสถานที่เรียนรู้ทัศนศึกษา ศึกษาดูงานของผู้สนใจทุกหน่วยงาน ทุกเพศทุกวัยเกี่ยวกับศิลปะ วัฒนธรรมท้องถิ่น และแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 



สำหรับ"หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" ตามความเข้าใจของครูแดง  คือ "การบริหารจัดการรายจ่ายให้น้อยกว่ารายรับอย่างมีความสุข" เงินคือความสุขของคนส่วนใหญ่ แต่บางคนไม่มีเงินก็มีความสุขได้ มีเงินหรือไม่มีเงินไม่สำคัญถ้าเรามีแหล่งอาหาร มีน้ำมีอากาศในการดำรงชีวิตอย่างไรก็ตามเงินก็ยังจำเป็นในการแลกเปลี่ยนอาหารและสิ่งที่เราต้องการ หากเราบริหารจัดการรายจ่ายให้น้อยกว่ารายรับ อย่างมีความสุข เราก็จะมีเงินฝาก เงินเก็บ เงินออม หนี้ก็จะเป็นศูนย์ แต่ถ้าเรามีรายได้น้อย ต้องปลูกพืชปลูกผัก ยึดหลัก"ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง"ตามรอยพ่อ ร.9  ชีวิตเราจะมีความสุข

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดหนองคาย จับแก๊งค้ายาเสพติด 15 คน ยึดยาบ้า 62,682 เม็ด ไอซ์ 750 กรัม อาวุธปืนพร้อมกระสุน และอุปกรณ์ผลิตปืนใช้เอง

วันที่ 25 มิ.ย.2564 ที่ หน้ากองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผบก.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.อ.สุรกิจ ค้วนเครือ ผกก.สส.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.ท.เหรียญชัย ศรีเชียงสา สว.กก.สส.ภ.จ.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาแก๊งค้ายาเสพติดในพื้นที่ จำนวน 15 คน อายุระหว่าง 18-30 ปี ซึ่งทังหมดเป็นชาวจังหวัดหนองคาย พร้อมของกลาง ยาบ้า 62,682 เม็ด, ไอซ์ 750 กรัม, รถจักรยานยนต์คาวาซากิ นินจา 400 ซีซี สีเขียว 1 คัน, อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 5 กระบอก, กระสุนปืนจำนวนหนึ่ง พร้อมอุปกรณ์การผลิตปืน เช่น สว่าน เครื่องกลึงขนาดเล็ก แท่งเหล็กสำหรับทำลำกล้อง เป็นต้น



ในการจับกุมแก็งค้ายาเสพติด 15 คนครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวนฯ ได้จับแก๊งค้ากัญชาออนไลน์ในพื้นที่ จากการสอบสวนทราบว่ามีการพัวพันกับแก๊งค้ายาบ้าในพื้นที่ ต.ปะโค เขต สภ.เวียงคุก และ ต.หนองกอมเกาะ เขต สภ.เมืองหนองคาย จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.สุรกิจ ค้วนเครือ ผกก.สส.ภ.จ.หนองคาย นำเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบและจับกุม เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้ต้องหารายสำคัญ คือ นายธนพล ธรรมรัตน์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 หมู่ 3 ต.ปะโค อ.เมืองหนองคาย เป็นผู้ครอบครองยาบ้า ซุกซ่อนในกระเป๋าสะพาย 52,970 เม็ด ไอซ์ 570 กรัม ซึ่งนายธนพล จะเป็นรายใหญ่ในการกระจายยาบ้าให้กับวัยรุ่นและเพื่อนร่วมแก๊งค้ายาบ้า


ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ มียาบ้าในครอบครอง รวมแล้วได้ยาบ้าทั้งหมด 62,682 เม็ด ตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดทุกคน ส่วนอาวุธปืนที่พบอ้างว่าเอาไว้ป้องกันตัว และยังพบว่ามีสมาชิกในแก๊งนี้หลบหนีได้ 1 คน ซึ่งเป็นคนผลิตปืน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีด้วยเช่นกัน



เบื้องต้นทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยฝ่าฝืนกฎหมาย จากนั้นคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย และ สภ.เวียงคุก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป





วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2564

กองบังคับการตำรวจภูธร จ.หนองคาย มอบเครื่องอุปโภค/บริโภค ช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด - 19 กิจกรรมจิตอาสาฯ “มีแล้วแบ่งปัน” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

วันที่ 24 มิ.ย. 2564 เวลา 09.00 น. พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผบก.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.อ.อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ รอง ผบก.ภ.จ.หนองคาย พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจจิตอาสาในสังกัด ได้จัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ “มีแล้วแบ่งปัน” มอบเครื่องอุปโภค/บริโภค ให้ประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)


ทั้งนี้เพิ่อให้เป็นไปตามที่สำนักงานเลขานุการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ 0001.42/2268 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 และหนังสือสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีหนังสือที่ นร 0109/ว 603 ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 เรื่อง การจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2564


กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย จึงได้จัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ “มีแล้วแบ่งปัน” ครั้งนี้ขึ้น  โดยเป็นการนำเครื่องอุปโภค/บริโภค  ประกอบด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น ไปมอบให้กับผู้ป่วยติดเตียง ติดบ้าน ในพื้นที่เทศบาลตำบลหาดคำ อำเภอเมืองหนองคาย ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด - 19 จำนวน 7 ราย เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2564





จ.หนองคาย ยังคุมเข้มผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่ควบคุมสูงสุด ต้องรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ พร้อมผ่อนคลายร้านอาหาร ให้นั่งทานอาหารในร้านได้ไม่เกิน 23.00 น. แต่ห้ามดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน ฝ่าฝืนมีโทษหนัก!


นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้ลงนามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย ที่ 19/2564 เรื่อง ข้อกำหนดการปฏิบัติตามมาตรการสำคัญเพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในจังหวัดหนองคาย ให้มีผลบังคับใช้ เริ่มตั้งแต่ 22 มิ.ย. 2564 ถึงจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยมีลายระเอียดสำคัญดังต่อไปนี้

.

#การปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่

1.การปฏิบัติการของพนักงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชายแดน

☆ให้หน่วยงานความมั่นคงในจังหวัดหนองคาย ประกอบด้วย กอ.รมน.หนองคาย,  หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตหนองคาย (นรข.), กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 245  ให้เข้มงวดควบคุมการลักลอบเข้าประเทศ และการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างต้าว เพิ่มการลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังและสกัดกั้นป้องกันมิให้มีการลักลอบเดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย "หากพบการลักลอบเข้าประเทศ ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด"

2. การปฏิบัติการของพนักงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย

☆ให้ตำรวจฎธรจังหวัดหนองตาย ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, เจ้าหน้าที่สาธารณสุข รวมทั้งเจ้าหน้าที่ศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการคัดกรองบุคคลและรถขนส่งสินค้าตามแนวชายแดน กำหนดจุดรับส่งสินค้าให้อยู่ในพื้นที่ และระยะเวลาที่กำหนด "โดยถือปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด"

.


#การสกัดกั้นการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่

1.ประชาชนที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดหนองคายจากพื้นที่ ที่กำหนดให้เป็น

☆พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงาค รวม 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, จังหวัดนนทบุรี, ปทุมธานี และสมุทรปราการ

☆พื้นที่ควบคุมสูงสุด รวม 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ตรัง, นครปฐม, ปัตตานี, เพชรบุรี, สงขลา, สมุทรสาคร, สระบุรี, ยะลา และนราธิวาส ต้องรายงานตัวต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.)ในพื้นที่  "โดยต้องกักกันตัวที่บ้านหรือที่พักอาศัย (Home Quarantine) อย่างเคร่งครัดและเข้มข้นเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน"โดยการแยกห้องพัก ห้องสุขา อุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัว ฯลฯ เว้นแต่เป็นบุคคล ได้แก่  1.ผู้ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบ 2 เข็มมาแล้วระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน และมีใบรับรองการฉีดวัคซีน (Vaccine Certificate : VC) ฉบับจริงแสดงแก่พนักงานเจ้าหน้าที่  หรือ 2. มีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่แสดงว่าไม่พบเชื้อด้วยวิธี RT-PCR หรือ Rapid test ในเวลาภายใน 72 ชั่วโมง ทั้งนี้ยังคงต้องเฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง ปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางในการป้องกันควบคุมโรคอย่างเข้มงวดและเคร่งครัด(Self-Quarantine) อีกเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน

2 บุคคลใดเดินทางมาจากพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตรายและพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยมิชอบด้วยกฎหมาย "รวมถึงผู้สัมผัสและผู้อยู่ใกล้ชิดในเหตุการณ์" มีหน้าที่ต้องแจ้งข้อมูลกับพนักงานเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อเข้ารับการตรวจคัดกรองและคุมไว้สังกต ตามกณฑ์ที่กำหนดเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการตังกล่าว มีความผิดตามคำสั่งนี้ ทั้งนี้กรณีเป็นบุคคลต่างด้าว ซึ่งกฎหมายว่าด้วยการตรวจคนเข้าเมืองกำหนดให้ผลักตันได้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องพิจารณา ดำเนินการผลักดันตามอำนาจหน้าที่่และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

.


#การห้ามดำเนินการหรือจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่จังหวัดหนองคาย

1.ห้ามจัดกิจกรรม ซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมมากกว่า 50 คน เว้นแต่การจัดกิจกรรมจำนวนรวมเกิน 50 คนแต่ไม่เกิน 100 คน ให้ขออนุญาตต่อนายอำเภอท้องที่ เพื่อพิจารณานำเสนอต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย ต่อไป หรือเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐ  แต่ยังคงต้องดำเนินการตตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเหมาะสมเคร่งครัดและเข้มข้น เช่น มาตรการ D-M-H-T-T-A ของกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ D-Distancing การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร, M - Mask Wearing การสวมใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย เมื่อออกจากที่พักอาศัยหรือเข้าไปในที่ชุมชน, H-Hand Washing การล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ให้สะอาดอยู่เสมอ, T-Temperature Checked กรวัดอุณหภูมิก่อนเข้าไปในสถานที่, T-Testing การดรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19และ A- Application การมีและใช้แอพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องในการป้องกันโรคโควิด-19 เป็นต้น

2.ห้ามมิให้มีการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการติดและแพร่เชื้อโรคได้ เช่น การรวมตัวเล่นการพนันทุกชนิด เป็นด้น

.


#การควบคุมการแพร่กระจายโรค จำแนกตามพื้นที่สถานการณ์

1.ให้ร้านอาหารสามารถบริการจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม โดยให้บริโภคในร้านใด้ แต่ไม่เกินเวลา 23.00 นาฬิกา

2.ให้ร้านอาหารหรือสถานที่จำหน่ายสุรา สามารถให้บริการจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้ แต่ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน

3.ให้ห้างสรรพสินค้า, ศูนย์การค้า,  คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน สามารถเปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ โดยให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ และงดเว้นกิจกรรมส่งเสริมการขาย

4.ให้ผู้จัดการถ่ายทำภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ ที่ใช้สถานที่ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย สามารถดำเนินการได้ ภายใต้มาตรการที่ประกาศและกำหนดตามแนวปฏิบัติที่ได้รับการอนุมัติจาก ศบค. เช่น การจำกัดจำนวนบุคคลที่เข้าร่วมการถ่ายทำ การยกเว้นไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในบางกรณี หรือบางช่วงเวลาของการถ่ายทำ เป็นต้น

5.ให้ผู้บังคับบัญชามีดุลยพินิจ และพิจารณาอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ในสังกัด ที่มีประวัติการเดินทางเข้าไปในและกลับจากพื้นที่ที่จัดให้เป็น "พื้นที่เสี่ยงและมีการระบาดของโรค " หรือมีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 สามารถปฏิบัติงานในลักษณะการปฏิบัติงานนอกที่ตั้ง (Work From Home) อย่างเต็มขีดความสามารถ ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพและความต่อเนื่องในการปฏิบัติงานเป็นสำคัญ  ไม่ส่งผลเสียต่อภารกิจของหน่วยงานและประชาชน

.


#การปิดและการปฏิบัติในสถานที่ที่มีโอกาสสุ่มเสี่ยงต่อการติดและแพร่เชื้อโรค ดังนี้

1.สนามมวย สนามชนไก่ สนามซ้อมไก่ สนามกัดปลา

2.สนามกีฬาที่อยู่ในความรับผิดชอบของทั้งภาครัฐและเอกชน ให้เปิดและมีได้เฉพาะกิจกรรมการออกกำลังกายเล่นกีฬาประเภทนั้น ๆ เท่านั้น  ห้ามมิให้มีการรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม หรือกระทำกิจกรรมอื่นใดในลักษณะเข้าข่ายการรวมกลุ่ม หรือการสังสรรค์อย่างเด็ดขาด

3.ให้ปิดสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ, สถานบันเทิง, ผับ, บาร์, คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน

.


#การป้องกันการติดเชื้อและแพร่กระจายโรคส่วนบุคคล

☆ให้ประชาชนทุกคน ต้องสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี เมื่อจำเป็นต้องออกจากเคหสถานหรือสถานที่ทำงาน เพื่อติดต่อธุระหรือกระทำการอื่นใค รวมทั้งเมื่อมีเหตุอันควรต้องสวมใส่ เช่น เมื่อต้องปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่ทำงานการอยู่ในสถานที่สุ่มเสี่ยงจะแพร่หรือได้รับเชื้อโรค การอยู่รวมกันกับคนหมู่มาก เป็นต้น อันเป็นการปฏิบัติตามสุขอนามัยในการป้องกันโรคต่อตัวบุคคล และประชาชนทั่วไป

.


#การปฏิบัติสำหรับผู้ขนส่งที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทย

1.มาตรการก่อนการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย

☆ให้ผู้ขนส่งสินค้าแสดงเอกสารที่ใช้ในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ได้แก่ หนังสือแสดงการขนส่งสินค้า ซึ่งระบุเวลาที่จะเข้ามาและออกจากราชอาณาจักรไทย ระบุชนิดและจำนวนสินค้า ชื่อสกุลและสถานที่ที่สามารถติดต่อของผู้ขนส่งสินค้า ผู้ส่งสินค้าและผู้รับสินค้า

2.มาตรการเมื่อเดินทางถึง/ระหว่างอยู่ในราชอาณาจักร์ไทย

☆ให้ผู้ขนส่งสินค้าปฏิบัติการกิจในการขนส่งสินค้าในราชอาณาจักรไทยเท่าที่จำเป็น เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้กลับไปโดยเร็ว

☆ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองอาการทางเดินหายใจ และวัดไข้ผู้ขนส่งสินค้า ณ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร (Entry Screening)

☆ให้ผู้ขนส่งสินค้านำยานพาหนะไปจอดและขนส่งสินค้า ณ จุดที่กำหนด คือศูนย์ควบคุมทางศุลกากร ด่านศุลกากรหนองคาย เท่านั้น เว้นแต่ ผู้ขนส่งสินค้าจะมีหนังสือรับรองการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ว่ามีผลเป็นลบ (Covid-Free) ซึ่งตรวจมาแล้วไม่เกิน 72 ชั่วโมง สามารถนำมาใช้ได้ภายใน 7 วัน (ถ้าเกินต้องตรวจใหม่) แสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่  โดยผู้ขนส่งสินค้าสามารถเข้ามาขนถ่ายสินค้าได้ในเขตพื้นที่เขตอำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย รวมทั้งให้ใช้ระบบติดตามหรือแอปพลิเคชัน เพื่อการติดตามป้องกันโรคโควิด-19 ตามที่ทางราชการกำหนด

.

อนึ่ง ข้อกำหนดประกาศคำสั่ง หรือการกระทำที่อาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตามคำสั่งนี้ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองตามมาตรา 16 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 คู่กรณีไม่อาจใช้สิทธิโต้แย้งคำสั่งนี้ได้

.

หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ มีความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท มาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง







จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...