พายุฤดูร้อนพัดถล่มฟาร์มเมล่อน ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เสียหายกว่า 6 หมื่นบาท

วันที่ 24 มี.ค. 2565  พายฤดูร้อนพัดถล่ม อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ในช่วงเวลาประมาณ 18.45 น. ของวันที่ 23 มี.ค. 2565 ที่ผ่านมา ทำให้ฟาร์มปลูกเมล่อนของเกษตรกร ชื่อว่า "แสงพศิน เมล่อนฟาร์ม" อยู่ที่บ้านหนองปลาปาก หมู่ 1 ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ จ. หนองคาย ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มได้รับความเสียหาย โดยมีพายุฤดูร้อนและลมกรรโชกแรง ได้พัดเอาโรงเรือนปลูกเมล่อน ได้รับความเสียหาย จำนวน 4 โรง จาก 7 โรง โครงไม้ไผ่ที่สร้างเป็นโรงปลูกเมล่อน, องุ่น , ฝักทองญี่ปุ่น และมะเขือเทศช็อกโกแลต พังเสียหาย ส่งผลทำให้ผลผลิตที่กำลังจะเจริญเติบโต ได้รับความเสียหายทั้งหมด

นายนาวิน ลิ้มมณีประเสริฐ อายุ 49 ปี เจ้าของฟาร์มเมล่อนบอกว่า ตนเองได้ลงทุนสร้างโรงเรือนปลูกเมล่อน รวมทั้งผลไม้อื่นๆ เป็นเงิน โรงละ 16,000 บาท โดยผลผลิตที่กำลังจะได้เก็บส่งขาย ได้รับความเสียหาย ซึ่งพายุฤดูร้อนพัดเอาโรงเรือน และ ผลผลิตเมล่อนและผลไม้ชนิดอื่นที่ปลูกในโรงเรือน ได้รับความเสียหายเป็นเงินกว่า 60,000 บาท นับว่าพายุฤดูร้อนฝนตกหนักได้ส่งผลกระทบกับฟาร์มเมล่อนของตนเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้แรงพายุุยังพัดต้นไม้หักโค่นทับบ้านเลขที่ 125 บ้านจำปาทอง หมู่ 9 ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ของนางสาวหนูพลอย จำปาเป้า อายุ 54 ปี จากการตรวจสอบพบต้นไม้ขนาดใหญ่ สูงประมาณ 20 เมตร จำนวน 1 ต้น หักโค่นทับบ้านพัก บริเวณห้องครัวหลังบ้านได้รับความเสีย ในขณะที่เจ้าของบ้านและคนที่อาศัยอยู่ในบ้านรวม 5 คน กำลังนั่งรับประทานอาหารเย็นกันอยู่ในตัวบ้าน เคราะห์ดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

ล่าสุดทางฝ่ายปกครองอำเภอศรีเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลหนองปลาปาก เร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือ  ในเบื้องต้นยังไม่พบสิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายเพิ่มเติม ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะรายงานให้กับทางจังหวัดทราบ เพื่อได้ให้การช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการต่อไป

ชาวบ้านในตำบลน้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ร่วมแห่บั้งไฟจิ๋วถวาย "หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ" ในวันสุดท้ายประเพณีบุญเดือน 4 เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนจุดบั้งไฟบูชาบวงสรวงหลวงพ่อ และเสี่ยงทายเจ้าแม่ย่าง่าม ที่วัดถ้ำย่าง่าม ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 4 ตามประเพณีความเชื่อของคนพื้นถิ่นชาวตำบลน้ำโมง ที่มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ

วันที่ 17 มี.ค. 2565  ที่ วัดศรีบุญเรือง บ้านน้ำโมง หมู่ 1 ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย บรรดาร่างทรงที่เรียกว่า "นางเทียม" ในชุดเสื้อผ้าหลากสี ผ้าโพกศีรษะหลากสีเช่นกัน มือสองข้างถือมีดดาบเหมือนนักรบโบราณ พร้อมทั้งชาวบ้านในตำบลน้ำโมง ทั้ง 10 หมู่บ้าน ร่วมกันแห่บั้งไฟจิ๋วจากวัดศรีบุญเรือง  ไปยังวัดศรีชมภูองค์ดื้อ ระยะทางประมาณ 300 เมตร เพื่อนำบั้งไฟถวายบูชา "หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ" พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงเคารพนับถือกันมาก โดยการแห่บั้งไฟถวายหลวงพ่อฯ ถือเป็นการบวงสรวงในวันสุดท้ายของงานประเพณีบุญเดือน 4 ในวันขึ้น 15 ค่ำ ตามประเพณีความเชื่อของคนพื้นถิ่นชาวตำบลน้ำโมง ที่มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการจัดงาน โดยยังพบว่ามีประชาชนเดินมาทำบุญกราบนมัสการและปิดทองหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ อย่างต่อเนื่อง 

หลังจากบรรดานางเทียมและชาวบ้านแห่บั้งไฟจิ๋วมาถึงวัด ก็เริ่มแห่รอบวิหาร 3 รอบ ก่อนนำบั้งไฟและผ้าป่าสามัคคีนำเข้าถวาย หลังจากนั้นอีก 1 วัน คือวันแรม 1 ค่ำ เดือน 4 บรรดานางเทียมและชาวบ้าน ก็จะแห่บั้งไฟไปวัดถ้ำย่างาม (โคกถ้ำ) ตั้งอยู่บ้านน้ำโมง หมู่ 2 ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เพื่อจุดบั้งไฟบูชาบวงสรวงถวายหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ และเสี่ยงทายเจ้าแม่ย่างาม ณ บริเวณหน้าหอแม่ย่างามข้างเจดีย์ โดยจะมีการรำถวายของนางเทียม ซึ่ง ถือว่าเป็นวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านตามฮีต 12 คอง 14 เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ทั้งนี้เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนที่จะจุดบั้งไฟเสี่ยงทายขึ้นบนฟ้า

สำหรับพิธีกรรมดังกล่าว ชาวบ้านในตำบลน้ำโมงจะจัดให้มีขึ้นทุกปี หลังเสร็จงานประเพณีบุญเดือน 4 นมัสการหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ  โดยชาวบ้านมีความเชื่อว่าการถวายบั้งไฟให้กับหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ และทำการจุดบั้งไฟของแม่ย่างาม ที่เป็นบั้งไฟสำหรับเสี่ยงทายนั้น เพื่อให้ช่วยคุ้มครองดูแลรักษาบ้านเมืองให้ปลอดภัย ร่มเย็นเป็นสุข มีน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ และยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ ความเป็นสิริมงคลแก่ผู้เข้าร่วมงาน และเป็นการเสี่ยงทายฝนด้วย

รร.บ้านนาช้างน้ำ นำนักเรียนชั้น ป.1-ป.6 เข้า "ค่ายศิลปะ" ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

วันที่ 16 มี.ค. 2565 ที่ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายกิตติ จำปีพรหม ผอ.โรงเรียนบ้านนาช้างน้ำ  เป็นประธานเปิดโครงการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สู่โรงเรียนบ้านนาช้างน้ำ ตามแผนงานบริหารวิชาการของโรงเรียนฯ ประจำปีการศึกษา 2565 ด้วยการจัด"ค่ายศิลปะ" ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง โดยมี ครูแดง บ้านศิลป์ไทย เป็นวิทยากรในการสอนวาดภาพระบายสี

สำหรับการจัดโครงการฯดังกล่าว เพื่อให้นักเรียนได้รับประสบการณ์โดยตรงจากแหล่งเรียนรู้ทางด้านศิลปะ  เพื่อส่งเสริมให้คณะครู นักเรียน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ตรง พร้อมพัฒนาการเรียนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเป้าหมายในการดำเนินโครงการฯ  นักเรียนชั้น ป.1-ป.6 จำนวน 58 คน ได้รับความรู้และทักษะพื้นฐานด้านศิลปะ เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ และมีเจตคติที่ดีต่องานศิลปะ และเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนที่มีความสามารถด้านศิลปะ ได้แสดงออก