วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2565

น้ำป่าจากอำเภอบ้านผือ จ.อุดรธานี และอำเภอสุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ไหลตามลำห้วยโมงเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกว่า 10,000 ไร่ โรงผลิตน้ำดิบ 2 แห่ง ในเขตพื้นที่ตำบลนาข่า อำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย ชาวบ้านนำกระสอบทรายต้านกระแสน้ำสำนักสงฆ์ยังเอาไม่อยู่ รถยนต์กระบะของชาวบ้านยังถูกน้ำซัดจม ทหารกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 ช่วยกู้ขึ้นบกสำเร็จ

วันที่ 5 ต.ค. 2565 พันโท พีรพัฒน์ พันสาง ผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3  ค่ายยุทธศิลป์ประสิทธิ์ จ.อุดรธานี นำกำลังพลในสังกัด 20 นาย เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนกู้รถยนต์กระบะที่ถูกน้ำซัดจมข้างถนน ซึ่งเป็นถนนระหว่างหมู่บ้าน สองข้างทางเป็นนาข้าวที่ถูกน้ำท่วมจนมิด ระดับน้ำสูงตั้งแต่ 30-100 เซนติเมตร หลังได้รับการประสานจาก อบต.นาข่า และหน่วยงานในพื้นที่ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง สามารถกู้ขึ้นบกได้ 



นายจิรวัฒน์ ธรรมา เจ้าของรถ เล่าว่า เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา รถยนต์กระบะคันดังกล่าว ได้มีชาวบ้านยืมไปช่วยขนกระสอบทรายทำพนังกันน้ำให้กับสำนักสงฆ์วังวารี ที่อยู่ริมลำห้วยซีด บ้านพฤษาหาร หมู่ 5 ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ซึ่งรถกระบะได้ฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวกรากถูกน้ำพัดจม อีกทั้งน้ำป่าจากอำเภอบ้านผือ จ.อุดรธานี และอำเภอสุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ไหลตามลำห้วยโมงและลำห้วยซีดในปริมาณมาก มาบรรจบที่ลำห้วยโมงบ้านพฤกษาหาร ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ ส่งผลให้เอ่อล้นลำห้วยเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรกว่า 10,000 ไร่ 




นอกจากนี้ปริมาณน้ำจากลำห้วยซีดได้เพิ่มอย่างรวดเร็ว จนเป็นเหตุให้กระสอบทรายที่ทางชาวบ้านได้ดำเนินการทำเป็นพนังกั้นน้ำให้กับสำนักสงฆ์วังวารี พังทลาย ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมสำนักสงฆ์ฯ ที่มีพระจำพรรษาอยู่ 5 รูป ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ รพ.สต. ต้องใช้เรือท้องแบนนำยารักษาโรคและอาหารไปถวาย ซึ่งน้ำป่ายังไหลหลากท่วมถนนสายบ้านพฤกษาหาร ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย – บ้านโนนตาแสง ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ รวมทั้งน้ำยังไหลหลากเข้าบ้านประชาชนอีก 1 หลัง ทำให้เครื่องมือการเกษตร รถยนต์กระบะที่หนีน้ำไม่ทัน ต้องจมอยู่ใต้น้ำ




ขณะเดียวกันนายชาญชัย บุญญานาม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาข่า สังการให้เจ้าหน้าที่เร่งเคลื่อนย้ายมอเตอร์ปั้มน้ำในโรงผลิตน้ำดิบ 2 แห่ง ซึ่งเป็นสถานีผลิตน้ำประปาของอบต.นาข่า ที่ตอนนี้ได้ถูกน้ำท่วมขัง ไม่สามารถผลิตน้ำประปาได้  อบต.นาข่าได้ประสานขอความช่วยเหลือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ค้างเคียง 3 แห่ง ได้แก่ อบต.น้ำโมง อบต.โคกคอน และอบต.บ้านว่าน ระดมรถบรรทุกน้ำขนาด 6,000 ลิตรในพื้นที่ มาแจกจ่ายให้กับประชาชนถึงหน้าบ้านแห่งละ 4 เที่ยวต่อวัน ไปจนกว่าสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่สภาวะปกติ













วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2565

รองผู้ว่าฯหนองคาย รุดตรวจหลังฝนกระหน่ำหลายวัน น้ำป่าจากลำห้วยทอนไหลซัดถนนบ้านสาวแลขาดซ้ำที่เดิมในรอบ 3 ปี ชาวบ้านกว่า 100 ครัวเรือนต้องใช้เส้นทางเลี่ยงในการสัญจรไปไร่ไปสวน ขณะที่ท้องถิ่นเตรียมสร้างเป็นบล็อกคอนเวิร์สมาทดแทนการใช้ท่อกลม เพื่อแก้ไขปัญหา

วันที่ 4 ต.ค. 2565 นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยนายสมพร สีดา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองคาย , นายยรรยง พรมศร นายอำเภอโพธิ์ตาก, นายสมคิด ลังกา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ตาก และเจ้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่จุดถนนทางหลวงชนบทขาด ช่วงทางเข้าบ้านสาวแล หมู่ที่ 4 ต.โพธิ์ตาก อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย หลังจากมีฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายวันก่อนหน้านี้ ทำให้น้ำป่าไหลทะลักลงมาจนถึงลำห้วยทอนมีจำนวนมาก ความแรงของกระแสน้ำจึงกระแทกและกัดเซาะถนนจนขาด ชาวบ้านในหมู่ 4 หมู่ 5 และหมู่ 6 ต.โพธิ์ตาก กว่า 100 หลังคาเรือนต่างได้รับความเดือดร้อน ต้องอ้อมไปใช้ถนนสายรองในการสัญจรไปไร่ไปสวน และไปติดต่อราชการ ณ ที่ว่าการอำเภอโพธิ์ตาก รวมทั้งเดินทางไปบ้านศูนย์กลาง ต. ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก เป็นการชั่วคราว 



ทั้งนี้จุดที่ถูกน้ำป่ากระแทกและกัดเซาะถนนจนขาด เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ทำให้ถนนขาดเป็นระยะทางกว่า 10 เมตร ลึกประมาณ 3 เมตร แต่ครั้งนี้หนักกว่าเดิม ถูกน้ำกัดเซาะพัดถนนขาดเป็นระยะทางกว่า 17 เมตร ลึกประมาณ 3 เมตร และมวลน้ำยังไหลเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกว่า 1,000 ไร่ รวม 7 หมู่บ้าน



เบื่องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่ได้รับความเสียหาย พบว่าน้ำได้เริ่มลดระดับลง และปภ.หนองคาย จะได้ประสานไปยังศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 14 อุดรธานี เร่งนำสะพานแบริ่งมาติดตั้งให้กับชาวบ้านได้ใช้สัญจรไปมาชั่วคราว  ซึ่งถนนทางหลวงชนบทดังกล่าว ได้ยกให้กับท้องถิ่นรับผิดชอบดูแลแล้ว โดย อบต.โพธิ์ตาก จะมีการปรึกษาปภ.หนองคาย ในการออกแบบสร้างบล็อกคอนเวิร์สมาทดแทนการใช้ท่อกลม เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้หมดไป










วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2565

ชาวพุทธสืบสานบุญมหาสังฆทานในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2565 มีผู้ใจบุญแจกทานครั้งใหญ่ ตามประเพณีของภาคอีสาน

วันที่ 1 ต.ค.2565 ที่ ศาลาการเปรียญวัดแก้วพิจิตร บ้านท่าบ่อ หมู่ 9 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย คณะกรรมการชุมชนวัดแก้วพิจิตร ร่วมกับประชาชนในพื้นที่ รวมถึงผู้มีจิตศรัทธา และชุมชนโดยรอบ ร่วมทำบุญใหญ่ "พิธีถวายมหาสังฆทานในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา" ประจำปี 2565 มีกิจกรรมเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร และถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ โดยมีพระครูรัตนสราภิรม เจ้าคณะตำบลท่าบ่อ เจ้าอาวาสวัดสระแก้ว ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ รับมหาสังฆทาน




สำหรับงานบุญถวายมหาสังฆทานในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ถือเป็นการบำรุงพุทธศาสนาที่ได้ส่งเสริมให้ทุกคนได้ปฏิบัติหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนที่ดี อีกทั้งยังเป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ตลอดทั้งยังได้รักษาจารีตประเพณีในระยะที่พระสงฆ์อยู่จำพรรษานี้ จะจัดมหาสังฆทานกันขึ้นตามประเพณีของภาคอีสาน ซึ่งได้บุญได้กุศลและสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนที่มาร่วมบุญ ทั้งได้รับของแจกทาน และยังได้บริจาคปัจจัยถวายวัดแก้วพิจิตร เพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุให้อยู่สวยสง่างามตลอดไป
















จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...