ชาวบ้านในหลายหมู่บ้านของจังหวัดหนองคาย ปรับพื้นดินข้างบ้านปลูกผักหน้าหนาว สร้างรายได้ให้กับครอบครัว

ขณะนี้สภาพอากาศที่จังหวัดหนองคาย เริ่มหนาวเย็นลง และมีหมอกหนาในยามเช้าโดยอุณภูมิวัดได้ 24 องศาเซลเซียส ซึ่งจากสภาพอากาศหนาวเย็นในขนะนี้ ส่งผลดีต่อชาวบ้านในหลายหมู่บ้าน โดยเฉพาะที่บ้านโนนสง่า  ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกผักหน้าหนาวหลายชนิดขายในตลาดสดเทศเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ และตลาดนัดในพื้นที่ ได้เฉลี่ยวันละ  300-400 บาท

นางสาวสุภาวดี ภูเงินอ่อน อายุ 56 ปี เกษตรกรชาวบ้านโนนสง่า หมู่ 15 ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย กล่าวว่า ในช่วงเดือนตุลาคมจนถึงเดือนธันวาคม ย่างเข้าสู่หน้าหนาวชาวบ้านในพื้นที่หลายครัวเรือน หลังเสร็จสิ้นฤดูทำนา ก็จะใช้พื้นที่ดินข้างบ้านตีแปลง ลงมือปลูกผักฤดูหนาวกัน เช่น ผักสลัด ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง ผักบุ้งจีน ซึ่งให้ผลผลิตได้ดีในฤดูหนาว ปลูกเพียง 2 เดือนเก็บขายได้กิโลกรัมละ 15-20 บาท ซึ่งจะปลูกเป็นรุ่นที่สามารถเก็บผลผลิตขายได้ทุกวัน โดยผักแต่ละชนิดตนกับสามีที่ลงมือปลูก มีทั้งหมด 25 แปลงบนพื้นที่ 3 งาน ผลผลิตจะนำไปขายในตลาดสดฯและตลาดนัดทุกวัน มีรายได้ประมาณ 300-400 บาทต่อวัน บางวันก็จะแม่ค้าในตลาดสดจะนำไปขายต่อกินกำไรอีกทอดหนึ่ง และผักที่ปลูกเป็นผักใบอายุสั้น สามารถเจริญเติบโตได้ดีในลักษณะอากาศที่หนาวเย็นและใช้น้ำน้อย สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้เป็นอย่างดี

ยึดล็อตใหญ๋! ศุลกากรหนองคายรวบคนขับรถบรรทุกน้ำมัน พร้อมยาบ้า-ไอซ์ -ยาอีซุกถังน้ำมัน มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท สารภาพได้ค่าจ้างครึ่งแสน

วันที่  23 พ.ย. 2565  ที่ สำนักงานศุลกากรหนองคาย อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย  นายพร้อมชาย  สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ,นายวุฒิ เร่งประดุงทอง นายด่านศุลกกากรหนองคาย, นายภาคิน  เทียบคำ  หัวหน้าฝ่ายบริการศุลกากรที่ 1 สำนักงานศุลกากรหนองคาย หัวหน้าด่านพรมแดนหนองคาย, นายวศินพิศุต พุทธนิมนต์ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรหนองคาย, พันเอกสุภัทร ชตินันท์  รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี,พันตำรวจเอกธานินทร์  อินทพรต ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย,พันตำรวจเอกยุทธนา งามซัก ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองหนองคาย,นายประทีป อุ่ยเจริญ นายอำเภอเมืองหนองคาย,นาวาโทเจษฎา ปัญญา ผู้บังคับหมู่เรือที่ 4 รักษาราชการแทนหัวหน้าสถานีเรือหนองคาย,ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 245 ,กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดหนองคาย  และเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายประสิทธิ์  ปันภูมี อายุ 53 ปี คนขับรถบรรทุกน้ำมันได้พร้อมยาบ้า จำนวนประมาณ 3,860,000 เม็ด,ยาไอซ์ 10 กิโลกรัม และยาอี จำนวน 5,000 เม็ด รวมมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ที่ซุกมากับรถบรรทุกน้ำมันเปล่า กลับจากประเทศเพื่อนบ้านหลังขนถ่ายน้ำมันเสร็จ

การจับกุมครั้งนี้ ตามนโยบายของ นายเพชร  อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร ให้หน่วยงานของกรมศุลกากรเข้มงวดในการตรวจสอบการนำเข้าและการขนย้ายยาเสพติดและสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดเพื่อไม่ให้ประเทศไทยเป็นทางผ่านของยาเสพติดไปยังประเทศอื่น หลังจากเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหนองคาย สืบทราบว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบนำเข้ายาเสพติดโดยผ่านทางด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย จึงได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ตรวจค้นรถบรรทุกน้ำมันเปล่าต้องสงสัยที่กลับเข้ามาในประเทศ  จากการตรวจค้นพบยาเสพติดจำนวนดังกล่าวซุกในรถบรรทุกน้ำมันเปล่า  เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาทำการสอบสวนที่สำนักงานด่านศุลกากรหนองคาย

จากการสอบสวน นายประสิทธิ์  ปันภูมี ผู้ต้องหา  เบื้องต้นรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 65 ตนได้นำรถน้ำมันข้ามไปส่งคลังน้ำมันแห่งหนึ่งที่นครหลวงเวียงจันทน์ และได้ขนถ่ายน้ำมัน เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 65 และได้พักค้างคืนหนึ่งคืน และได้รู้จักหญิงชาวลาว(ไม่ทราบชื่อ) จ้างตน 50,000 บาท ให้นำยาเสพติดผ่านด่านพรมแดน โดยนัดรับยากันที่บริเวณป่าข้างทาง ถนน 450 ปี เมื่อผ่านได้แล้ว จะมีคนโทรศัพท์ติดต่อมารับยาตามจุดที่นัดหมายอีกครั้ง จากนั้นตนได้ขับรถกลับไทย  ในวันที่ 23 พ.ย. 65 และมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน  เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นรข.หนองคาย สนธิกำลังจับ 2 หนุ่มชาวลาว ล่องเรือข้ามโขงทำทีหาปลา แต่ขนยาบ้า 12,000 เม็ด ส่งลูกค้าฝั่งไทย อ้างรับจ้างแม่ค้ายาบ้าชาวลาว 5,000 บาท

เมื่อวันที่  21 พ.ย. 65 ที่ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ปากห้วยวังฮู บ้านหนองบัว ต.กวนวัน อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย  น.ท.เจษฎา ปัญญา ผู้บังคับหมู่เรือที่ 4 รักษาราชการแทนหัวหน้าสถานีเรือหนองคาย , พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจับกุม ท้าวเพ็ด  สีลิบุนทะวง อายุ 37 ปี บ้านท่าม่วง และ ท้าวคำ  พมมะเสน อายุ 47 ปี ชาวบ้านท่านาแล้ง นครหลวงเวียงจันทน์  พร้อมยาบ้าประมาณ 12,000 เม็ด และเรือหางยาว 1 ลำ ภายใต้การอำนวยการของน.อ.จิรัฏฐ์  ผูกทอง ผบ.นรข.เขตหนองคาย,พ.อ.สุภัทร ชตินันท์  รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี,นายประทีป อุ่ยเจริญ นายอำเภอเมืองหนองคาย , พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย , พ.ต.อ.ธานินทร์ อินทรพรต ผกก.ตม.จว.หนองคาย.

การจับกุมครั้งนี้  น.ท.เจษฎา ปัญญา  บังคับหมู่เรือที่ 4 รักษาราชการแทนหัวหน้าสถานีเรือหนองคาย ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้รายงานให้ น.อ.จิรัฏฐ์  ผูกทอง ผบ.นรข.เขตหนองคาย จากนั้นได้จัดกำลังออกหาข่าวโดยนำเรือ 2 ลำออกลาดตระเวน เมื่อลาดตระเวนมาถึงบริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ชุดลาดตระเวนได้ตรวจพบเรือต้องสงสัย 1 ลำ ที่จอดอยู่ตลิ่งฝั่งแม่น้ำโขง มีชายต้องสงสัย 2 คน ชุดลาดตระเวนจึงได้ขอตรวจค้น พบยาบ้าจำนวนประมาณ 12,000 เม็ด บรรจุในห่อกระดาษไข จำนวน 2 ห่อ วางอยู่ในเรือ เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมชายทั้ง  2 คน ทราบชื่อ ท้าวเพ็ด  สีลิบุนทะวง อายุ 37 ปี ราษฎรบ้านท่าม่วง และ ท้าวคำ  พมมะเสน อายุ 47 ปี ชาวบ้านท่านาแล้ง นครหลวงเวียงจันทน์ พร้อมของกลางยาบ้า จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว มายังสถานีเรือหนองคาย เพื่อทำการตรวจนับและทำการบันทึกการจับกุม

จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 คน รับสารภาพว่ามีนางเอก ชาวลาวที่รู้จักกันให้นำยาบ้าไปวางไว้ริมฝั่งโขงด้านฝั่งไทย โดยจะได้ค่าจ้าง 5,000 บาท แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ ร้องเสาไฟฟ้าชำรุด พร้อมล้มทับตลอดเวลา ซ้ำสายสื่อสารพันกันยุ่งเหยิงเกิดไฟช็อตกระรอกร่วง หวั่นเป็นอันตรายกับเด็ก

วันที่ 22 พ.ย. 2565 ชาวบ้านในซอยจรดล 3 ชุมชนโดกน้อยพัฒนาผาสุข เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ จ.หนองคาย ต่างเดือดร้อนกันถ้วนหน้าเกี่ยวกับสายสื่อสารที่พาดกับเสาไฟพันกันยุ่งเหยิง เกิดไฟช็อตกระรอกร่วง อีกทั้งเสาไฟฟ้าก็ไม้น้อยหน้า เมื่อโคนเสาเริ่มร้าว  ทำให้เสาไฟฟ้าที่อยู่ปากซอยเอียง  จนชาวบ้านในพื้นที่หวั่นว่าสักวันเสาไฟฟ้าจะล้มทับบ้านพังเสียหาย รวมทั้งบ้านคนที่อาศัยอยู่ได้รับบาดเจ็บ หรือเป็นอันตรายต่อชีวิต

นางช้อย ศีรีวงศ์ ประธานชุมชนโคกน้อยพัฒนาผาสุข  เล่าว่า เสาไฟฟ้าในชุมชนแต่ละต้นมีอายุมาไม่ต่ำกว่า 50 ปี โดยเสาไฟต้นที่อยู่ปากซอย โคนต้นเริ่มชำรุดมาหลายปีแล้ว  และสายสื่อสารก็พันกันยุ่งเหยิงไปหมด เกิดไฟช็อตมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งเมื่อเช้านี้ได้เกิดไฟฟ้าช็อตกระรอกตายคาเสาไฟไปแล้ว 1 ตัว ส่วนกระรอกอีกตัวถูกไฟช็อตร่วงตกลงมา  เกรงว่าอนาคตกลัวจะเป็นอันตรายแก่เด็กๆ ในชุมชน  ซ้ำสายสื่อสารสารพัดบริษัทพันกันมั่วไปหมด จนไม่รู้ว่าสายไหนเป็นสายไฟจริงๆ  และทำให้เสาไฟเอียง กลัวว่าสักวันเสาไฟฟ้าจะล้มทับบ้านคนจะได้รับความเสียหาย รวมทั้งคนที่อาศัยอยู่ในบ้านได้รับอันตราย จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือเจ้าหน้าที่รับผิดชอบ เข้ามาดูแลแก้ไขเสาไฟฟ้า และสายสื่อสารบ้าง ไม่ใช่รอให้คนเสียชีวิตก่อนค่อยเข้ามาทำ

อำเภอท่าบ่อ ร่วมกับ อบต.โพนสา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มอบปัจจัยการผลิตและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือเยี่ยวยาเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบพายุได้ฝุ่นโนรู

วันที่ 21 พ ย. 2565 ที่ ห้องประชุมมะเฟืองคำ องค์การบริหารส่วนตำบลโพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อ พร้อมด้วย นายอภิสิทธิ์ วงศรีแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพนสา  และผู้บริหาร ธ.ก.ส.สาขาท่าบ่อ , หัวหน้าส่วนราชการ , เจ้าหน้าที่เกษตรตำบล รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง ทำการประชุมเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย และมอบปัจจัยการผลิตและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือเยี่ยวยาเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิผลพายุได้ฝุ่นโนรู ส่งผลกระทบให้พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ตำบลโพนสา ซึ่งมีเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจำนวน 28 ราย

เพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยาและสร้างขวัญกำลังใจ ให้แก่เกษตรกรผู้ประสบภัย ทางเกอท่าบ่อ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลโพนสา สำนักงานเกษตรอำท่าบ่อ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาท่าบ่อ ได้จัดกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร ได้แก่ มอบพันธุ์พริก มะเขือ และน้ำหมักชีวภาพ พด.2 , มอบถุงปันน้ำใจ และมอบผ้าห่ม "โครงการ ธ.ก.ส. คู่ใจ สู้ภัยหนาว"  พร้อมกันนี้ยังได้ร่วมกันมอบถังขยะเปียกลดโลกร้อน ตามนโยบายดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก ตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VEST) ของกรมการส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น