ตชด.245 หนองคาย รวบเครือข่ายค้ายาเสพติด พร้อมยาบ้า 39,732 เม็ด เตรียมนำไปส่งให้นักค้ายาเสพติดทั้งรายใหญ่และรายย่อยในพื้นที่จังหวัดหนองคายและจังหวัดอุดรธานี

       วันนี้ 10 ม.ค. 2562 ที่กองร้อย ตชด.245 อำเภอเมืองหนองคาย นายณัฐวัสส์ วิริยาณภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย,พ.อ.สุทธ์พิชญพงษ์ สุธิราวุธ รอง ผอ.รมน.จังหวัดหนองคาย,พ.ต.อ.ปรัชญ์ สุนทรพิมล ผกก.ตชด.24 ,พ.ต.ท.ยุธยา สังแสวง ผบ.ร้อย ตชด.245 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายชาตรี โวหารเดช อายุ 46 ชาว ต.บ้านถ่อน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 20 มัด รวม 39,732 เม็ด
         

          การจับกุมครั้งนี้ เนื่องจาก พ.ต.ท.ยุธยา สังแสวง ผบ.ร้อย ตชด.245 ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญนำโดยนายชาตรี ฯ มียาเสพติดจำนวนมากซุกซ่อนไว้เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ตอนในพื้นที่จังหวัดหนองคายและจังหวัดอุดรธานี ทั้งรายใหญ่และรายย่อย จึงได้รายง่านให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และทำการสืบสวนจนกระทั้งสืบทราบถึงขบวนการนี้มีนางกี้ ราษฏรชาวลาว เป็นเจ้าของยาเสพติดที่ นายชาตรี ฯ สั่งซื้อเพื่อมาจำหน่ายเป็นประจำ และจะสั่งซื้อครั้งจำนวนมาก โดยมี่ทั้งยาบ้า ไอซ์และกัญชา ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทำกี่ล้อซื้อยาบ้า จากนายชาตรีฯ โดยตกลงกันว่าจะทำการซื้อ-ขายยาบ้าจำนวน 20 มัด ในราคา มัดล่ะ80,000 บาท โดยจะมีการนัดส่งมอบเงินค่ายาเสพติดกันที่บริเวรภายในปั๊มน้ำมัน แห่งหนึ่ง ส่วนยาเสพติดจะส่งมอบนัดส่งมอบที่หน้าวัดพระธาตุบังพวน เมื่อถึงเวลา นัดหมาย นายชาตรีฯ ได้เดินทางมารับเงินค่ายาเสพติด

       เมื่อตรวจสอบดูเงินแล้วได้โทรศัพท์สั่งการให้ผู้ร่วมขบวนการนำยาเสพติดมาส่งให้บริเวณหน้าวัดพระธาตุบังพวน โดยการโยนห่อยาบ้าออกมาบริเวณข้างถนน เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบว่าเป็นยาบ้าจริง จึงได้ทำการจับกุมนายชาตรี โวหารเดช พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 39,732 เม็ดและได้นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินการคดีตามกฏหมายต่อไป

หนองคาย - หนุ่มบ้านหม้อ อดีตเคยเป็นลูกจ้างบริษัท หวนกลับบ้านเพาะเห็ดหลินจือแดง ขายสร้างรายได้เดือนละ 30,000 บาท

       นายภานุวัฒน์ แสงรัตน์ อายุ 39 ปี เจ้าของศูนย์บ่มเพาะเกษตรกรรุ่นใหม่ ยังสมาทฟาร์เมอร์ เลขที่ 281 หมู่ 2 บ้านหม้อ ตำบลบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย คือหนึ่งในเกษตรกรรุ่นใหม่ ที่ได้ทดลองเพาะเห็ดหลินจือแดงในพื้นที่บ้าน 1 ไร่ โดยศึกษาค้นคว้าในอินเทอร์เน็ตและเข้าอบรมจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการเพาะเห็ดหลินจือแดงอย่างจริงจัง ก่อนที่จะเริ่มสร้างโรงเรือนไว้หลังบ้าน แล้วเริ่มเพาะเห็ดหลินจือแดงชุดแรกเมื่อช่วงต้นปี 2558 จนสามารถเก็บดอกเห็ดมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ส่งจำหน่ายทั้งในจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ถึงเดือนละ 30,000 บาท

         นอกจากจะเพาะเห็ดหลินจือแดงแล้ว ในพื้นที่ก็ยังมีโรงเพาะเห็ดนางฟ้าภูฐาน 3 โรงเรือน เห็ดขอนขาว 1 โรงเรือน โดยทุกโรงเรือนใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ โดยหมุนเวียนกันไป และในพื้นที่ยังได้ปลูกผักสวนครัว  เลี้ยงไก่ไข่ และโรงเลี้ยงใส้เดือนเพื่อผลิตปุ๋ยฉี่ใส่เดือนไว้ใช้ด้วย

       นายภานุวัฒน์ กล่าวว่า เดิมตนเป็นลูกจ้างบริษัทแห่งหนึ่งที่จังหวัดนครปฐม ทำอยู่ 10 ปี ได้เงินเดือนๆ ละ 12,000 บาท จนกระทั่งช่วงปีสุดท้ายของการทำงาน แม่ไม่สบาย จึงตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อกลับมาดูแลแม่ ช่วงที่มาอยู่บ้านนั้นก็ไปศึกษาเรียนรู้ปลูกเห็ดนางฟ้าภูฐานกับเพื่อนที่เขาปลูกอยู่แล้วที่จังหวัดนครปฐม พอได้ความรู้ก็กลับมาทดลองเพาะเห็นนางฟ้าในโอ่งมังกร 500-1,000 ก้อน พอเห็ดออกดอกไม่รู้จะไปขายที่ไหน เพราะไม่มีตลาดลง จึงตัดสินใจถือโอกาสที่พระออกบิณฑบาตตอนเช้า เก็บเห็ดใส่ถุงขายให้กับชาวบ้านที่มารอใส่บาตร ปรากฏว่าขายดี ได้เงินวันละ 1,000-1,200 บาท

          จนกระทั่งกรมส่งเสริมการเกษตรเขามาเห็น แล้วได้ชักชวนไปอบรมหลักสูตรยังสมาทฟาร์เมอร์  ซึ่งจะเปึนยังสมาทฟาร์เมอร์ได้ก็ต้องมีโรงเรือน จึงลงทุนสร้างขึ้นมา 5 โรงเรือนเพื่อปลูกเห็ดนางฟ้าภูฐาน

        กระทั่งต้นปี 2558 ตนเห็นว่าคนในหมู่บ้านสุขภาพไม่แข็งแรง ปวดข้อปวดกระดูก จึงศึกษาทางอินเทอร์เน็ตก็รู้ว่าเห็ดหลินจือแดงมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคต่างๆ ได้ โดยเฉพาะโรคเกาต์  จึงลงทุนเพาะเห็ดหลินจือแดง โดยเริ่มจากแปลงพื้นที่เพาะเห็ดนางฟ้าเดิมให้มาเป็นโรงเพาะเห็ดหลินจือแดง ชุดแรกซื้อก้อนเห็ดมาจากจังหวัดนครปฐม 1,000 ก้อน ในราคาก้อนละ 10 บาท มาจัดเรียงไว้ในโรงเรือน ควบคุมระบบน้ำด้วยสปริงเกอร์ รดน้ำวันละ 2 รอบ เช้า-เย็น รอบละ 2 นาที ทำเช่นนี้เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ เห็ดก็เริ่มออกดอก ผ่านไปประมาณ 50 วัน เห็ดก็จะเริ่มโตและมีสปอร์ออกมา ซึ่งสปอร์นี้จะมีสารออกฤทธิ์ทางยาสูงมากก็เริ่มเอาพู่กันมาปัดเอาสปอร์ออกเพื่อขาย

       เมื่อเห็ดหลินจือแดงอายุได้ประมาณ 75 วัน ดอกเห็ดจะมีสีแดงมันวาว แสดงว่าโตเต็มที่พร้อมเก็บได้แล้ว ก็เริ่มทำการเก็บดอกเห็ด จากนั้นจะนำไปผ่านกระบวนการ ล้าง นึ่ง และอบแห้ง เพื่อให้สามารถเก็บไว้ได้นาน ซึ่งเมื่ออบแห้งแล้ว นำมาบรรจุใส่ห่อๆ ละ 50 กรัมจำหน่ายในราคา 140 บาท ใช้ชื่อว่า "เห็ดหลินจือแดง" ผลิตโดยกลุ่มวิสาหกิจสวนเห็ดบ้านหม้อ  ซึ่งดอกเห็ดหลินจืออบแห้งนี้ สามารถนำไปต้มรับประทานเหมือนน้ำชาได้ จะเป็นยาสมุนไพรรักษาโรคต่างๆ ได้มากมายตามสรรพคุณที่แพทย์แผนปัจจุบัน สามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองถึงเดือนละ 25,000-30,000 บาท จากช่องทางธุรกิจสร้างผลิตภัณฑ์จากเห็ดหลินจือแดงจำหน่ายทั้งในจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว

       เกษตรกรสนใจปลูกเห็ดหลินจือแดงแวะมาเที่ยวชมได้ที่ศูนย์บ่มเพาะเกษตรรุ่นใหม่ หมู่ 2 ตำบลบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย หรือโทรสอบถามได้ที่ 092 965 9541 (ภานุวัฒน์)

หนองคาย - สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย มอบเสื้อผ้ากันหนาวให้กับประชาชน ในเขตอำเภอท่าบ่อ ที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ภัยหนาว จำนวน 500 ตัว

           วันนี้ 7 ม.ค. 2562 ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ที่ว่าการอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคายราย พลโท นายแพทย์อำนาจ บาลี ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย เป็นประธานมอบเสื้อกันหนาว จำนวน 500 ตัว ให้กับประชาชนชาวอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยหนาว ตามโครงการบรรเทาทุกข์ภัยหนาว โดยมี นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย นางวัชรินทร์ จิตรวิเศษ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย , นางวิไลลักษณ์ ขุปสูงเนิน หัวหน้าสถานีกาชาดที่ 1 จังหวัดสุรินทร์ , นายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร นายอำเภอท่าบ่อ , คณะกรรมการเหล่ากาชาดสถานีกาชาดที่ 1 จังหวัดสุรินทร์ และคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย ร่วมมอบเสื้อกันหนาวในครั้งนี้

        ด้วยพื้นที่อำเภอท่าบ่อ อยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัดหนองคาย แบ่งเป็นพื้นที่การปกครองออกเป็น 10 ตำบล 90 หมู่บ้าน มีพื้นที่บางส่วนทอดยาวไปตามลำน้ำโขง ปัจจุบันอำเภอท่าบ่อมีสภาพอากาศหนาวเย็น ราษฎรจำนวนมากได้รับผลกระทบจากสภาวะหนาวเย็น ประกอบกับพื้นที่บางส่วนเป็นพื้นที่ห่างไกลที่มีความยากลำบากในการเข้าถึงบริการของรัฐ  และประชาชนมีความต้องการเครื่องนุ่งห่มกันหนาวจำนวนมาก โดยในวันนี้มีราษฎรในพื้นที่อำเภอท่าบ่อทั้ง 10 ตำบล ที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับเสื้อกันหนาวจากสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพทักษ์ สภากาชาดไทย จำนวน 500 คน.

หนองคาย - ชรบ.กองนาง รวบแก๊งค้ายาคาริมโขง อ้างหน้าตาเฉยเป็นเนื้อปลา ตรวจสอบพบยาบ้า 16,000 เม็ด ไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง

        วันนี้ 7 ม.ค. 2562 ที่ห้องประชุมชั้น 2 ที่ว่าการอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร นายอำเภอท่าบ่อ พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กรองทิพย์  ผกก.สภ.ท่าบ่อ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอท่าบ่อ ทหาร กกล.รส.จว.หนองคาย ตำรวจสภ. ท่าบ่อ  ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน( ชรบ.) ตำบลกองนาง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสุบิน ยิ้มทอง อายุ 36 ปี ชาวอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ และ นายอนุชา มนัสศิลา อายุ 23 ปี ชาวตำบลท่าบ่อ หมู่ 11 อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 16,000 เม็ด ไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง และเงินสด  45,000 บาท ได้ที่จุดจอดเรือริมฝั่งโขง ระหว่างหมู่ 2 กับหมู่ 10 บ้านกองนาง ตำบลกองนาง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย

        การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเช้าวันนี้ เวลา 05.15 น. นายสมพงษ์ ปลัดพรม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 บ้านกองนาง ตำบลกองนาง อำเภอท่าบ่อ พร้อมด้วยชุด ชรบ. ได้เดินลาดตระเวนอยู่ที่บริเวณริมฝั่งโขง จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น. มีเรือแล่นมาจากประเทศเพื่อนบ้าน บนเรือมีชายสองคนนั่งมาด้วย แล่นมาจอดบริเวณดังกล่าว  หลังจากนั้นชายที่อยู่หัวเรือได้โยนถุงสีฝ้าขึ้นมาบนฝั่ง แล้วก็แล่นเรือกลับไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ไม่นานก็มีชายสองคน ทราบชื่อต่อมาคือนายสุบิน หรือเก่ง กับนายอนุชา หรือเจ เดินมารับถุงสีฟ้าที่คนบนเรือโยนทิ้งไว้  ชุด ชรบ. เห็นดังนั้นจึงได้แสดงตนเข้าไปสอบถามว่านั้นถุงอะไร โดยชายทั้งสองตอบว่า เป็นถุงเนื้อปลาที่สั่งจากประเทศเพื่อนบ้าน ชุด ชรบ. จึงได้รายงานให้นายอำเภอท่าบ่อทราบ พร้อมประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ และทหารในพื้นมาทำการตรวจค้น พบเป็นยาบ้าจำนวน 8 มัด จึงควบคุมตัวพร้อมนำของกลางมาตรวจสอบอย่างละเอียด ณ ที่ว่าการอำเภอท่าบ่อ

           จากสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ แต่ผู้ต้องหาทั้งสองรายนั้นมีชื่ออยู่ในบัญชีดำที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนี้ยังพบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคาร 200,000 บาท พร้อมกับขยายพลจับผู้ร่วมขบวนการอีกสองราย เป็นพ่อเลี้ยงของนายอนุชา ชื่อว่า นายนิรันดร ปัญญาศิริ อายุ 36 ปี ชาวตำบลท่าบ่อ หมู่ 9 อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย และมารดาของนายอนุชา ชื่อว่า น ส.จิติพร มนัสสีลา อายุ 47 ปี ชาวตำบลท่าบ่อ หมู่ 11 อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย มาดำเนินคดีกฎหมายต่อไป