วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562
กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน1 ดำเนินการจัดกิจกรรมจักรยาน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (RIDE FOR FUN ปั่นเปิดเมือง)
วันที่ 30 ส.ค. 62 ที่โรงแรมอัศวรรณ อำเภอเมืองหนองคาย กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ดำเนินการจัดแถลงข่าวการจัดกิจกรรมจักรยาน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (RIDE FOR FUN ปั่นเปิดเมือง) โดยมี นายธวัชชัย ศรีทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ,นายกระจ่าง ขอนดอก ทกจ.หนองคาย และนายรัชต สำราญชลารักษ์ ทกจ.อุดรธานี ร่วมแถลงข่าวการจัดกิจกรรม
นางบำเพ็ญพร สุริยกมล ทกจ.บึงกาฬ เปิดเผยว่า สำหรับการแถลงข่าวครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่สนใจกิจกรรมจักรยานเพื่อการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เพื่อเป็นการสร้างโอกาสและกระตุ้นเศรษฐกิจระดับพื้นที่ ให้เกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยว และรายได้จากการท่องเที่ยวลงสู่พื้นที่ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 และเพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต ของชุมชน ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 การดำเนินกิจกรรม จักรยานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (RIDE FOR FUN ปั่นเปิดเมือง) ในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 150 คน
รูปแบบกิจกรรมเป็นการปั่นจักรยานเพื่อการท่องเที่ยว แวะทำกิจกรรมเพื่อสังคม ในแต่ละจุดซึ่งเป็นสถานที่ที่สำคัญของกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 อาทิเช่น ชมชิมช็อป ณ ตลาดผ้านาข่า, กราบไหว้สักการะขอพร ณ ศาลหลักเมือง พ่อปู่ศรีสุทโธ และคำชะโนดวังนาคินทร์, สักการะขอพรและทำกิจกรรมเพื่อสังคมบริเวณลานวัด ณ วัดสว่างอารมณ์ หรือ วัดถ้ำศรีธน และวัดอาฮงศิลาวาส ซึ่งเป็นจุดสะดือแม่น้ำโขง,เรียนรู้วิถีชีวิตชาวอีสาน พร้อมเก็บภาพสุดประทับใจ ณ พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต เป็นการส่งเสริมการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยว อันเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม กระจายรายได้จากการท่องเที่ยวจากเมืองท่องเที่ยวหลักสู่เมืองท่องเที่ยวรอง และกระจายลงสู่พื้นที่ชุมชนในท้องถิ่นอย่างทั่วถึง
ชาวนา อ.ท่าบ่อ เร่งเกี่ยวข้าวหลังทราบข่าวจากอุตุนิยมวิทยาว่าจะมีพายุ "โพดุล" เข้าพื้นที่ในช่วงนี้
วันที่ 30 ส.ค. 62 ชาวนาหลายพื้นที่ในอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ต้องเร่งเกี่ยวข้าวเพื่อหนีพายุ "โพดุล" หลังมีการประกาศเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่า ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย จะมีฝนตกชุกในระหว่างวันที่ 30 ส.ค. 1 ก.ย. นี้
นายอุไร วงศรีชา อายุ 58 ปี ชาวนาในพื้นที่หมู่ 3 บ้านทุ่ม ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ตนปลูกข้าวเหนียวไว้ทั้งหมด 3 ไร่ ซึ่งเหลืออีกเพียงไม่กี่วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว พอทราบข่าวจากกรมอุตุฯ ว่าช่วงนี้จะมีพายุพัดผ่านในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จึงต้องเร่งว่าจ้างรถเกี่ยวข้าวเพื่อหนีฝนให้ไว้ที่สุด เพื่อป้องกันน้ำท่วมนาข้าวจนเสียหาย ส่วนที่กำลังเกี่ยวอยู่นี่รถเกี่ยวข้าวไม่สามารถลงเกี่ยวได้ จึงต้องลงมือเกี่ยวเอง แต่ก็ยังเหลืออยู่ประมาณ 1 ไร่ที่ยังไม่ถึงเวลาในการเก็บเกี่ยว คงต้องปล่อยไป และที่เร่งเกี่ยวข้าวเพราะไม่อยากเป็นเหมือนปีที่ผ่านมา ข้าวในนาของตนถูกน้ำท่วมเสียหายหมด ขาดทุนยับเยืนไม่ได้อ่ะไรเลย
ชลประทานหนองคายเตรียมรับมือพายุ "โพดุล" เร่งระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาตรน้ำภายในอ่างเกินความจุใน 2 อำเภอลงน้ำโขง เพื่อพร่องน้ำไว้รองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาใหม่ ป้องกันปัญหาอุทกภัย
จากการประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 7 ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2562 จะมีพายุระดับ 3 (โซนร้อน) “โพดุล” บริเวณทะเลจีนใต้ มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 180 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกของเมืองดองฮอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 17.4 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.4 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในคืนวันที่ 29 สิงหาคม 2562 และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันเคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทยในวันที่ 30 สิงหาคม 2562
สำหรับจังหวัดหนองคาย มีฝนตกหนักและปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและลำห้วยสาขามีปริมาตรน้ำเกินความจุ ในพื้นที่ อำเภอโพธิ์ตากและอำเภอท่าบ่อ นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย สั่งการให้โครงการชลประทานหนองคายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำภายในอ่างเกินความจุ ที่อำเภอโพธิ์ตาก ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำห้วยทอนตอนบน ที่มีปริมาตรน้ำภายในอ่าง 8.514 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 169.15 , อ่างเก็บน้ำห้วยหินแก้ว ที่มีปริมาตรน้ำภายในอ่าง 208.09 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 4.053 และอ่างเก็บน้ำห้วยไฮ ที่มีปริมาตรน้ำภายในอ่าง 3.538 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 86.29 โดยโครงการชลประทานหนองคายมีความจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณการระบายน้ำทั้ง 3 แห่ง อาจทำให้ประชาชนริมสองฝั่งได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำและน้ำล้น จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยท้ายอ่างเก็บน้ำ ที่ราบต่ำริมน้ำไหลผ่าน พื้นที่ติดแม่น้ำโขงและพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวัง ขนย้ายสิ่งของที่จำเป็นไว้ที่สูงและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ในส่วนของพื้นที่อำเภอท่าบ่อ ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำห้วยยังพวน ที่มีปริมาณน้ำในอ่าง 9.695 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 112.17 และลำห้วยโมง โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง ได้เปิดประตูระบายน้ำทั้ง 4 บาน เร่งระบายน้ำจากลำห้วยลงในแม่น้ำโขงต้้งแต่ึวันที่ 29 ส.ค. 62 ซึ่งวันนี้ (30 ส.ค. 62) มีน้ำอยู่ในระบบมากถึง 20.370 ล้าน ลบ.ม. สามารถระบายน้ำลงในแม่น้ำโขงได้วันละ 8.556 ล้าน ลบ.ม. ระดับน้ำในลำห้วยโมงสูงกว่าระดับน้ำในแม่น้ำโขง 2 เมตร ซึ่งการเร่งระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำและในลำห้วยสาขาครั้งนี้ เพื่อเป็นการพร่องน้ำได้รองรับฝนที่จะตกลงมาใหม่จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “โพดุล” ในขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมรับมือฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลันตลอด 24 ชั่วโมง
วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2562
ชาวบ้านน้ำโมง สืบสานงานประเพณีแข่งขันเรือพายพื้นบ้าน ในวันห่อข้าวประดับดิน ประจำปี 2562
วันที่ 29 ส.ค. 62 ที่บริเวณท่าน้ำหน้าวัดศรีชมภูองค์ตื้อ บ้านน้ำโมง ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ชาวบ้านน้ำโมง 3 หมู่บ้าน 4 ชุมชน ได้แก่ หมู่ 1, 2, 8 ประกอบด้วยชุมชนศรีบุญเรือง, ชุมชนศรีมงคล, ชุมชนศรีชมภู และชุมชนโรงเรียนเก่า ตลอดจนห้างร้านต่างๆในพื้นที่จัดงานประเพณีแข่งขันเรือพายพื้นบ้าน ในวันห่อข้าวประดับดิน ประจำปี 256 โดยมี ดร.สมเกียรติ ตระกูลฟาร์มธวัช รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดกาาแข่งขัน
นางเนือง ศรีอ้วน ประธานชุมชนศรีบุญเรือง กล่าวว่า การแข่งขันเรือเป็นกีฬาพื้นบ้านที่นิยมเล่นสืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงปัจจุบัน ชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำจะใช้เรือเป็นพาหนะ บางแห่งจัดการแข่งขันเรือเพื่อบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือ โดยในการจัดแข่งเรือครั้งนี้เพื่ออนุรักษ์การแข่งขันเรือให้คงอยู่สืบไป ก่อให้เกิดความรักสามัคคี รวมทั้งถ่ายทอดประเพณีแข่งขันเรือให้ลูกหลานได้ซีมซับรับรู้ นำไปปฏิบัติเมื่อพวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า
สำหรับในปีนี้จัดให้มีการแข่งขันเรือพายพื้นบ้าน 2 ประเภท คือประเภทเรือพื้นบ้านชุมชน (เรือประมง) จำนวน 5 ฝีพาย มีเรือส่งเข้าแข่งขัน 7 ทีม และประเภทเรือพื้นบ้านทั่วไป จำนวน 5 ฝีพาย มีเรือที่ส่งเข้าแข่งขันรวม 27 ทีม ผลการแข่งขันประเภทชุมชน ชนะเลิศได้แก่ชุมชนศรีบุญเรือง, รองชนะเลิศอันดับ 1 ชุมชนโรงเรียนเก่า 2, รองชนะเลิศอันดับ 2 ชุมชนโรงเรียนเก่า 1และรองชนะเลิศอันดับ 3 ชุมชนศรีมงคล รับเงินรางวัล 3,000, 2,500, 2,000, 1,500 บาทพร้อมถ้วยรางวัล ส่วนประเภทเรือทั่วไป ชนะเลิศได้แก่พรหลวงพ่อทองแสน, รองชนะเลิศอันดับ 1 มิดเดิ้ลฟิวรีสอร์ท, รองชนะเลิศอันดับ 2 เจ้าพ่อดอนเขียว, รองชนะเลิศอันดับ 3 เจ้าพ่อดอนลาน รับเงินรางวัล 5,000, 3,000, 2,000, 1,000 บาทพร้อมถ้วยรางวัลจากนายอมรวิทย์ เปียผ่อง อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองท่าบ่อ มีประชาชนทั้งในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงร่วมชมการแข่งขันทั้งสองฝั่งริมน้ำจำนวนมาก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ
สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...

-
ชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย จ.หนองคาย จัดกิจกรรม “ค่ายศิลปะ ย่ำแมงจีซอน"ืพาเด็กๆ เรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชน ฝึกให้รู้ลักษณะและการอาศัยอยู่...
-
ฝ่ายปกครองอำเภอศรีเชียงใหม่ สนธิกำลังชุดสืบสวน สภ.ศรีเชียงใหม่ และชุด ชปส.ภ.จว.หนองคาย บุกรวบแก๊งค้ายานรกคาบ้านพัก ได้ผู้ค้า-ผู้เสพ 3 ราย พร...
-
วันที่ 18 มิ.ย. 62 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีหนอนผีเสื้อจำนวนนับล้านตัวบุกโรงเรียนบ้านดอนขนุนพัฒนา ตำบลด่านศรีสุข อำเภอ...