ผู้ว่าฯหนองคาย นำปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำกว่า 2 แสนตัว ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ พร้อมโชว์ลีลาตำส้มตำเนื่องในวันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2562

วันที่ 12 ก.ย. 62 ที่สระสาธารณะบ้านทุ่ม หมู่ 3 ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเนื่องในวันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2562 พร้อมมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่เกษตรกรดีเด่น มอบพันธุ์สัตว์น้ำให้แก่ผู้นำหมู่บ้านในพื้นที่ตำบลน้ำโมง และนำประชาขนทุกภาคส่วนร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำลงในสระน้ำสาธารณะ

นายสุริยา จงโยธา ประมงจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีให้วันที่ 21 ก.ย. ของทุกปีเป็นวันประมงแห่งชาติ และกรมประมงได้มอบหมายให้สำนักงานประมงจังหวัดและหน่วยงานราชการของกรมประมงในจังหวัด ดำเนินการจัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในวันประมงแห่งขาติ ประจำปี 2562 ระดับจังหวัด โดยจัดให้มีการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำตามแหล่งน้ำสาธารณะทั่วประเทศ ซึ่งจังหวัดหนองคายโดยหน่วยงานกรมประมงในจังหวัดหนองคาย ได้ร่วมกับอำเภอท่าบ่อและองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำโมง ได้พิจารณาคัดเลือกสถานที่ปล่อยสัตว์น้ำในวันประมงแห่งชาติ ณ สระน้ำสาธารณะบ้านทุ่ม หมู่ 3 ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของทรัพย์ยากรสัตว์น้ำ ตลอดจนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากชาวประมงและประชาชนงดจับสัตว์น้ำทุกชนิดในวันที่ 21 ก.ย.ของทุกปี  สำหรับกิจกรรมในวันนี้ได้รับการสนับสนุนพันธุ์ปลาจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดหนองคาย และฟาร์มเพาะเลี้ยงพันธุ์ปลาในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ รวมทั้งสิ้น 269,620 ตัว

ภายในงานยังมีกิจกรรมการประกวดเมนูจากปลา และการแข่งขันตำส้มตำลีลา มีทีมในพื้นที่ตำบลน้ำโมงเข้าร่วมการแข่งขันรวมทั้งหมด 12 ทีม ซึ้งงานนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายยังได้ร่วมโชว์ลีลาการตำส้มตำร่วมกับผู้เข้าร่วมการแข่งขันด้วย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ที่มาร่วมงานเป็นอย่างมาก และถือว่าสามารถสร้างสีสันและเรียกเสียงหัวเราะรวมทั้งสร้างความสนุกให้กับงานได้เป็นอย่างดี

จ.หนองคาย จัดโครงการส่งเสริมสุขภาพพระภิกษุ สามเณร จังหวัดหนองคาย จุดที่ 17 ประจำปี 2562 ณ วัดอรัญญวาสี อ.ท่าบ่อ

วันที่ 10 ก.ย. 62 ที่วัดอรัญญวาสี อำเภอท่าย่อ จังหวัดหนองคาย สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดหนองคายธรรมยุต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดหนองคาย และศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดหนองคาย ได้จัดทำโครงการส่งเสริมสุขภาพพระภิกษุ สามเณร จังหวัดหนองคาย ประจำปี 2562 โดยมี พระกิตติสารโสภณ เจ้าคณะจังหวัดหนองคายธรรมยุต ประธานฝ่ายสงฆ์ , นายสุชน ภัยธิราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ประธานฝ่ายฆราวาส มีนายวัชรพงษ์ หอมวุฒิวงศ์   ทันตแพทย์เชี่ยวชาญ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย กล่าวรายงาน มี พระครูภาวนาธรรมโฆษิต เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย  และนายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร นายอำเภอท่าบ่อ รวมทั้งเจ้าคณะอำเภอท่าบ่อ, สระใคร, ศรีเชียงใหม่, โพธิ์ตาก และพระสังฆาธิการธรรมยุต ทุกรูปร่วมพิธีเปิดโครงการฯ ครั้งนี้ เพื่อให้พระภิกษุ สามเณร ในจังหวัดหนองคาย ได้เข้าถึงบริการด้านสุขภาพตามสิทธิประโยชน์โครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และการเฝ้าระวังป้องกันยาเสพติด การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านสุขภาพ เพื่อลดปัจจัยเสียงด้านต่างๆ การส่งต่อให้ได้รับบริการที่ถูกต้องเหมาะสม

นายวัชรพงษ์ หอมวุฒิวงศ์   ทันตแพทย์เชี่ยวชาญ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จังหวัดหนองคาย จัดโครงการส่งเสริมสุขภาพพระภิกษุ สามเณร จากการตรวจคัดกรองสุขภาพพระภิกษุ สามเณร เริ่มในปี 2559 และในปี 2561 จากการตรวจคัดกรองสุขภาพพระภิกษุ สามเณร    ได้รับตรวจสุขภาพครอบคลุมร้อยละ 78.11 พบว่าป่วยเป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อย ได้แก่ โรคเบาหวานร้อยละ 2.29 โรคความดันโลหิตสูงร้อยละ 3.03 โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงร้อยละ 0.99 การประเมินภาวะโภชนาการพบว่าส่วนใหญ่มีรอบเอวปกติร้อยละ 89.26 ภาวะอ้วนลงพุงร้อยละ 10.74 การคัดกรองเบาหวานมีระดับน้ำตาลปกติร้อยละ 95.03  กลุ่มเสี่ยงร้อยละ 2.92 กลุ่มสงสัยเป็นผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่ร้อยละ 3.59 ตามลำดับ  การคัดกรองความดันโลหิตส่วนใหญ่มีความดันโลหิตปกติร้อยละ 67.07 กลุ่มเสี่ยงร้อยละ 24.11 สงสัยเป็นผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ร้อนละ 8.82 ตามลำดับ

ในปี 2562 ได้ดำเนินโครงการฯ ระหว่างวันที่ 5 สิงหาคม - 25 กันยายน 2562 เป้าหมายในการตรวจสุขภาพพระภิกษุ  สามเณร ในจังหวัดหนองคาย จำนวน 4,200 รูป ซึ่งในครั้งนี้เป็นจุดที่ 17 และเป็นจุดแรกของคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต โดยมีพระภิกษุสงฆ์ สามเณร ในเขตพื้นที่อำเภอท่าบ่อ, สระใคร, ศรีเชียงใหม่ และอำเภอโพธิ์ตาก รวม 326 รูป เข้ารับการตรวจสุขภาพฯ

คณะทำงานการท่องเที่ยวสี่เหลี่ยมวัฒนธรรมล้านช้าง ไทย-ลาว เดินทางศึกษาดูงานแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดหนองคาย หลังประชุมขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการสี่เหลี่ยมวัฒนธรรมล้านช้าง ปี 2563

   
วันที่ 7 ก.ย. 62 ที่วัดป่าพระธาตุบุ บ้านโคกป่าฝาง ต.ปะโค อ.เมือง จ.หนองคาย   คณะทำงานการท่องเที่ยวสี่เหลี่ยมวัฒนธรรมล้านช้าง นำโดย  นายธรรมนูญ ภาคธูป ผู้จัดการสำนักงานเขตพื้นที่พิเศษ 5 เป็นผู้แทนฝ่ายไทย นายวรากร เจียรเสริมสิน นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย ,นางอรุณี ณ หนองคาย  ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย ท่านทะวีเพด อุลา รองหัวหน้ากรมการพัฒนาการท่องเที่ยว กระทรวงแถลงข่าววัฒนธรรมและท่องเที่ยว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นผู้แทนฝ่ายลาว  นำคณะทำงานทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทน /ผู้ประกอบการานการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชนจากจังหวัดหนองคาย อุดรธานีหนองบัวลำภู และจังหวัดเลย ประเทศไทยและจากแขวงหลวงพระบาง แขวงไชยะบุลี แขวงเวียงจันทน์และนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว  เดินทางไปศึกษาดูงาน ที่ พระธาตุโพนจิกเวียงงัว เป็นพระธาตุที่เชื่อกันว่าบรรจุพระธาตุเขี้ยวฝาง (พระทันตธาตุ)ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดป่าพระธาตุบุ เป็นศาสนสถานโบราณที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดหนองคาย ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 99 ตอนที่ 172 วันที่ 18 พฤศจิกายน 2525

จากนั้น คณะได้เดินทางไปศึกษาดูงานที่ชุมชนท่องเที่ยวบ้านเดื่อ ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 ต.บ้านเดื่อ อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย  เป็นชุมชนที่ได้รับเครื่องหมายรับรอง มาตรฐานการท่องเที่ยวไทยประจำปีงบประมาณ 2562 Thailand Tourism Standard  โดยมีนายสมจิต จันทำมา ประธานท่องเที่ยงชุมชนฯ ให้การต้อนรับ ซึ่งชุมชนได้จัดให้ มีการแสดงของชาวชุมชนรำต้อนรับ การบายศรีสู่ขวัญ การจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ทำมาจาก “มะเดื่อ” ,ปลานิลแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิเช่น กุนเชียงปลานิล ปลานิลแดดเดียว นอกจากนั้น คณะยังได้โชว์ฝีมือปรุงอาหาร เช่น ส้มตำ แจ่วมะเดื่อ และร่วมรับประทานอาหารร่วมกันซึ่งเป็นอาหารที่ทางชุมชนได้จัดเมนูที่ทำจากมะเดื่อและปลานิล ซึ่งเป็นกระซังแม่น้ำโขง เช่น แจ่วมะเดื่อ เมี่ยงมะเดื่อ ปลานิลทอด ปลาจุ่ม และผักสดปลอดสารพิษที่เป็นชาวชุมชนได้ปลูกตามริมฝั่งโขง

ต่อจากนั้น คณะได้เดินทางไปเยี่ยมชมฟาร์ม ดรากอนเรย์ อควาติค (DRAGONRAY AQUATIC) ตั้งอยู่ที่ 288 หมู่ที่ 10 ตำบลหาดคำ อำเภอเมืองหนองคาย โดยมีนายวุฒิไกร ช่างเหล็ก เจ้าของฟาร์มฯ เป็นเกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงปลาสวยงามและพรรณไม้น้ำ ปี 2562  ให้การต้อนรับคณะ สำหรับฟาร์มดรากอนเรย์ อควาติค  เป็นฟาร์มเพาะพันธุ์ปลากระเบนแบล็คไดมอนด์ (Black Diamond) ที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนั้น ยังมีปลามังกรอโรวาน่า (Arowana)  ด้วย ด้านพันธุ์ปลากระเบนแบล็คไดมอนต์ ได้รับความสนใจจากลูกค้าทั่วโลก  ที่ผ่านมามีผลผลิตกว่า 600 ตัว ปี 2562 ได้ตั้งเป้าไว้ไม่ต่ำกว่า 1,200 ตัว ในส่วนของฟาร์มดรากอนเรย์ อควาติค ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว นอกจากจะเป็นฟาร์มเพาะพันธุ์ปลาสวยงามแล้ว ยังเป็นฟาร์มเพื่อการท่องเที่ยวและสำหรับเป็นสถานที่เรียนรู้เกษตรอินทรีย์โดยใช้น้ำที่เลี้ยงปลาไปทำการเกษตรแบบครบวงจร ซึ่งได้รับความสนใจจากคณะที่เข้าเยี่ยมชม