พ่อเมืองสังคม ปลุกพลังประชาชนเดินหน้าเปิดปฏิบัติการ "ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร" สู้วิกฤตโควิด-19

วันนี้ 10 เม.ย. 63 นายณัฐภพ จำปา พัฒนาการอำเภอสังคม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ได้ร่วมกันปลูกผักสวนครัวบริเวณบ้านพักนายอำเภอสังคม ภายในศูนย์ราชการอำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ในกิจกรรมเปิดปฏิบัติการ "Quick Win" 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร สู้วิกฤตโควิด-19

นายณัฐภพ จำปา พัฒนาการอำเภอสังคม กล่าวว่า เนื่องด้วยนายนพดล จอมเพชร นายอำเภอสังคม ได้มีนโยบายที่จะให้ประชาชนในพื้นที่อยู่รอดปลอดภัยจากวิกฤตโควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งในประเทศไทยเราด้วย นายอำเภอสังคมจึงมอบหมายให้สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอสังคมดำเนินตามโรดแม็ป "ผู้นำต้องมาก่อน" โดยให้จัดกิจกรรมฯดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นต้นแบบในการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติ จนเป็นวิถีชีวิต สนับสนุนทุกครัวเรือนในอำเภอสังคมพึ่งพาตนเองได้ ในช่วงภาวะวิกฤตที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นแหล่งอาหารไว้รับประทานภายในครัวเรือน และสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน

และในโอกาสนี้ ยังได้รับมอบเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัว จากเทศบาลตำบลสังคม สำนักงานเกษตรอำเภอสังคม เครือข่ายกองทุนหมู่บ้าน จำนวน 300 ชุด และร้านสังคมการเกษตร มอบปุ๋ยจำนวน 100 กิโลกรัม เพื่อมอบให้กับหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถาบันการศึกษา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน นำไปขับเคลื่อนและขยายพันธุ์กิจกรรมดังกล่าวในบทบาทของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ที่จะต้องมีการพัฒนาตนเองก่อนเพื่อเป็นแบบอย่าง ก่อนที่จะไปแนะนำ ขยายผลให้ประชาชนในพื้นที่ได้เรียนรู้และปฏิบัติตาม ต่อไป

จ.หนองคายรับมอบเงินจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ตามโครงการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เดิน-วิ่ง การกุศล ครั้งที่ 3 วิ่งหยุดโรค 10 จังหวัดทั่วไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชน ให้ได้มีโอกาสรับการรักษาโรคมะเร็งและโรคทั่วไปอย่างเท่าเทียมกัน ตามพระปณิธานใน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

       
วันนี้ 10 เม.ย. 63  ที่ห้องปฏิบัติราชการผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย  ศาลากลางจังหวัดหนองคาย  นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย รับมอบเงินโครงการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เดิน-วิ่ง การกุศล ครั้งที่ 3  วิ่งหยุดโรค 10 จังหวัดทั่วไทย   จากนายแพทย์วิศณุ วิทยาบำรุงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย และคณะ  ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ดำเนินการจัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2562  ที่บริเวณลานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เขตเทศบาลเมืองหนองคาย  มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการหารายได้ในการสมทบทุนทางด้านการแพทย์ การสาธารณสุข และด้านอื่นๆที่จำเป็นในจังหวัดหนองคาย เป็นเงินจำนวน 822,306.88 บาท  จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้ส่งมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้กับนายแพทย์วิศณุ วิทยาบำรุงนายแพทย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย เพื่อนำไปเข้าสู่การพิจารณาจัดสรรเงินตามวัตถุประสงค์ของโครงการต่อไป

สำหรับโครงการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เดิน-วิ่ง การกุศล ครั้งที่ 3  วิ่งหยุดโรค 10 จังหวัดทั่วไทย   จังหวัดหนองคายได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 มีนักกีฬาเข้าร่วมกิจกรรมประเภท Half Marathon 21 กิโลเมตร Mini Marathon 10.5 กิโลเมตร Micro Marathon 5 กิโลเมตร และ Fun Run 2 กิโลเมตร รวมทั้งประเภท VIP  จำนวนกว่า 2 พันคน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวได้จัดขึ้น  ตามพระปณิธานในศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ที่ทรงมีพระดำริให้จัดตั้งโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ขึ้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวไทย ให้ได้มีโอกาสรับการรักษาโรคมะเร็งและโรคทั่วไปอย่างเท่าเทียมกัน ส่งเสริมให้ประชาชนได้มีกิจกรรมออกกำลังกาย เพื่อให้มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี

อีกทั้งเพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งและส่งเสริมการออกกำลังกาย ให้คนไทยมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน ตามแนวคิด วิ่งหยุดโรค 10 จังหวัดทั่วไทย เพื่อเปิดโอกาสทางการรักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ คือ จังหวัดเชียงใหม่ เพชรบูรณ์ นครราชสีมา ร้อยเอ็ด หนองคาย กรุงเทพฯ ชลบุรี เพชรบุรี สุราษฏร์ธานีและจังหวัดตรัง

ตำรวจ สภ.โพธิ์ตาก จับกุมผู้ฝ่าฝืนออกนอกเคหสถานในช่วงประกาศเคอร์ฟิว 3 ราย

เมื่อคืนที่ผ่านมา (9 เม.ย. 63) เวลา 23.59 น. พ.ต.อ.กรียงไกร รับงาม ผกก.สภ.โพธิ์ตาก, พ.ต.ท.สุดเขต ศีลพรหม รอง ผกก.ป.สภ.โพธิ์ตาก มอบหมายให้ พ.ต.ท.เมธี  ดีบุรี สว.สส., พ.ต.ท.อุทัย อ่อนยิ้ม สวป., ร.ต.อ.เสมอ ปราบพาล , ร.ต.อ.ภวดล กุลตังวัฒนา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ตาก บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอโพธื์ตาก และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันควบคุมตัวบุคคลออกนอกเคหสถานในช่วงประกาศเคอร์ฟิว 3 ราย มีทั้งเยาวชนและผู้ใหญ่ อายุ 16, 18 และ 51 ปี โดยจับกุมตัวได้คณะขับรถผ่านจุดตรวจบริเวณศูนย์บริการประชาชนศรีวิไล ต.โพธิ์ตาก อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย

พ.ต.ท.สุดเขต ศีลพรหม รอง ผกก.ป.สภ.โพธิ์ตาก เปิดเผยว่า หลังรัฐบาลประกาศเคอร์ฟิว และทางจังหวัดมีมาตรการล็อกดาวตั้งแต่วันออกประกาศ จนถึงวันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยในพื้นที่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จนสามารถจับกุมผู้ฝ่าฝืน 3 ราย และได้ควบคุมตัวบุคคลทั้ง 3 ราย ดำเนินคดีในข้อหาว่าออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้นโดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้การรับสารภาพ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์ตาก ดำเนินคดีต่อไป

เทศบาลเมืองท่าบ่อ ลุยปูพรมฉีดยาพ่นฆ่าเชื้อ Covid-19 ตามพื้นที่ชุมชนต่อเนื่อง

วันนี้ 9 เม.ย. 63 เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย โดยกองงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, กองงานสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายพรชัย พรพิรุณโรจน์ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ หรือสท.ชัย ร่วมกันฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ Covid-19 ในเขตพื้นที่บ้านน้ำโมง ประกอบด้วย ชุมชนโรงเรียนเก่า, ชุมชนศรีมงคล, ชุมชนศรีบุญเรือง และชุมชนศรีชมภู

สำหรับปฏิบัติการพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัส Covid -19 เริ่มตั้งแต่บริเวณสามแยกวัดพระงาม ไปตลอดเส้นทาง มีโรงเรียนบ้านน้ำโมง ชุมชน ตลาดสด อาคารบ้านเรือนที่อยู่อาศัย และวัด เพื่อสร้างความมั่นใจแก่พี่น้องประชาชน และเป็นการฆ่าเชื้อโรค  เนื่องจากเชื้อไวรัส Covid -19 สามารถอยู่บนพื้นผิวถนน หรือสิ่งของวัตถุต่างๆ ซึ่งพื้นผิวอาจจะสัมผัสปนเปื้อนได้ ซึ่งการพ่นยาฆ่าเชื้อตามพื้นผิว เพื่อไม่ให้แพร่กระจายได้อีกต่อไป

เป็นแบบอย่างของปชช. "พ่อเมืองท่าบ่อ" กักตัวอยู่บ้านพัก 14 วัน หลังเดินทางมารับตำแหน่งใหม่ ขณะที่ป้องกันอำเภอท่าบ่อ สั่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้เกี่ยวข้องกวดขันตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน อย่างเคร่งครัด ห้ามปชช. ออกนอกเคหสถานระหว่าง 4ทุ่ม-ตี4

วันนี้ 8 เม.ย. 63 นายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อ ได้กักตัวเอง 14 วัน ภายในบ้านพักนายอำเภอ ในบริเวณคุ้มนายอำเภอ ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย หลังเข้ารายงานตัวกับนายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ในโอกาสเดินทางมารับตำแหน่งเป็นนายอำเภอท่าบ่อคนใหม่ ทั้งนี้เพื่อเป็นแบบอย่างของประชาชน และเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกระทรวงมหาดไทยและกรมการปกครอง มีคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำแหน่ง นายอำเภอ (ผู้อำนวยการ) ทั่วประเทศ จำนวน 525 คน โดยมีกำหนดเดินทางไปรับตำแหน่งใหม่ในวันที่ 7 เมษายน 2563 หนึ่งใน 525 คนมี นายนวน โทบุตร นายอำเภอโพนนาแก้ว จ.สกลนคร (ผู้อำนวยการต้น) ให้ย้ายมาดำรงตำแหน่งนายอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย (ผู้อำนวยการสูง)

ส่วนทางด้านนายอนุพงศ์ พานารัตน์ ปลัดอำเภองานป้องกันอำเภอท่าบ่อ ได้แจ้งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล และผู้นำปกครองท้องที่ครับ ให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดฉบับที่ 2 (การควบคุมเวลา 22.00-04.00น.)

1. จัดการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้การปฏิบัติตนในช่วงเวลาดังกล่าว และตรวจในพื้นที่เพื่อบังคับการปฏิบัติตามข้อกำหนดในการ ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา 22.00 นาฬิกา ถึง 04.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้นโดยเคร่งครัด โดยกำหนดให้เป็นพื้นที่
หมู่บ้านละ 1 จุด หากพบผู้ฝ่าฝืนให้แจ้งทางอำเภอโดยด่วน เพื่อจัดการตามมาตรการกฎหมาย

2. การขออนุญาตออกนอกเขตพื้นที่จังหวัดของข้าราชการ (กำนัน ผญบ. ฯลฯ) ต้องได้รับอนุญาตจาก นายอำเภอ

3. ในพื้นที่หมู่บ้านให้ปฏิบัติตามมาตรการคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคาย โดยเคร่งครัด เช่น การล้างมือ แมสปิดปาก การตรวจสอบโดยเทอร์โมสแกน และการประชาสัมพันธ์ในหมู่บ้าน เป็นต้น

จนท.หน่วยเรือโพนพิสัย ร่วมกับตชด.245 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ตำรวจโพนพิสัย ปกครองโพนพิสัย ตรวจยึดยาบ้าจำนวน 34,316 เม็ด ยาไอซ์ 20.50 กรัม ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน

           
วันนี้ 7 เม.ย. 63 ที่ หน่วยเรือโพนพิสัย  นรข.เขตหนองคาย อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย  น.ต.การันต์  นินวงษ์ หน.หน่วยเรือโพนพิสัย,ร.ต.อ.เรืองศักดิ์  ผาเจริญ รอง ผู้บังคับกองร้อย ตชด. 245  หนองคาย,เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ,ตำรวจ สภ.โพนพิสัย ร่วมกันตรวจยึด ยาบ้า จำนวน 34,316 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 20.50 กรัม   ได้ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงทางขึ้น-ลงเขื่อนป้องกันตลิ่ง หลังโรงเรียนวัดหลวง บ้านวัดหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ภายใต้การอำนวยการของ พลเรือตรีสมพงษ์  ศรอากาศ  ผบ.นขร.,พลตรีสวราชย์  แสงผล ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี, นาวาเอกวรัท   โกพลรัตน์   ผบ.นรข.เขตหนองคาย,นายถาวร  สังขะมาน  นายอำเภอโพนพิสัย,พันตำรวจเอกภูวิศ  ศิริพานิช   ผกก.สภ.โพนพิสัย
           

การตรวจยึดครั้งนี้ น.ต.การันต์  นินวงษ์ หน.หน่วยเรือโพนพิสัย ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน มาส่งพ่อค้าคนไทยที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงทางขึ้น-ลงเขื่อนป้องกันตลิ่ง หลังโรงเรียนวัดหลวง บ้านวัดหลวง อ.โพนพิสัย จึงได้รายงานให้ นาวาเอกวรัท   โกพลรัตน์   ผบ.นรข.เขตหนองคาย ทราบ จากนั้นได้จัดกำลังเข้าซุ่มดู ต่อมา พบเรือกีบเพลายาวมีชายต้องสงสัย 2  คนดับเครื่องยนต์ ไหลมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน  มุ่งหน้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน พอใกล้ฝั่งไทยได้ใช้ไม้พายพายเรือเข้าเทียบฝั่งตรงบันไดทางขึ้นเขื่อนป้องกันตลิ่งหลังโรงเรียนบ้านวัดหลวง อ.โพนพิสัย  คนบริเวณบันไดทางขึ้น เจ้าหน้าที่ได้ส่องไฟแสดงตนเพื่อขอตรวจค้น ชายต้องสงสัยตกใจทิ้งวัตถุต้องสงสัยแล้ววิ่งไปขึ้นเรือ ที่เพื่อนรออยู่ แล้วขับหลบหนีมุ่งหน้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างรวดเร็ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ นรข.โพนพิสัย ได้เข้าตรวจสอบ พบเป็นกระสอบสีขาว เปิดดูพบห่อกระดาษไข มีตัวอักษร Y  1 จำนวน 5 ห่อ ซุกในกระสอบ  จึงได้นำมาตรวจนับที่ หน่วยเรือโพนพิสัย  รวมยาบ้า จำนวน   34,316 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 20.50 กรัม   จึงได้ทำการลงบันทึกก่อนนำของกลาง   ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.โพนพิสัย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป