นายอำเภอท่าบ่อ นำร่องใช้พื้นที่บ้านพัก ปลูกผักไว้ทานเอง เพื่อเป็นแบบอย่าง ภายใต้แผนปฏิบัติการ 90 วัน "ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร"

วันที่ 23 เม.ย. 63 ที่ บ้านพักนายอำเภอ ภายในบริเวณคุ้มนายอำเภอ ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อ ได้ร่วมกับนางสาวไพรินทร์ อินทรักษา นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ รักษาราชการแทนพัฒนาการอำเภอท่าบ่อ พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายพัฒนาชุมชนอำเภอท่าบ่อ ส่วนราชการ กำนันทุกตำบล และนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการ 90 วัน "ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร"  ซึ่งได้เริ่มต้นการขับเคลื่อนกิจกรรม "บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง"

โดยนายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อ ได้มอบเมล็ดพันธุ์ฟักทองให้กับกำนันทุกตำบล เพื่อนำไปปลูกเป็นแบบอย่างในการสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร สร้างกระแสและกระตุ้นให้กิจกรรมนี้ขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นได้รวมพลังปลูกผักสวนครัว เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง หอม มะละกอ ขิง ข่า ตะไคร้ พริก มะเขือ ผักชี กระเพรา ชะอม น้ำเต้า เมล็ดพันธุ์ผัก และต้นพันธุ์ไม้ร่วมกัน เพื่อแสดงพลังความสามัคคี เกื้อกูลกัน

นางสาวไพรินทร์ อินทรักษา นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ รักษาราชการแทนพัฒนาการอำเภอท่าบ่อ กล่าวว่า ด้วยกรมการพัฒนาชุมชน ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สู่การปฏิบัติในระดับครัวเรือน  ดังนั้นอำเภอท่าบ่อ โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอท่าบ่อ ร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอท่าบ่อ จึงกำหนดกิจกรรม Kick Off โครงการปฏิบัติการ 90 วัน"ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร" ต้านภัยโควิด-19 เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารในระดับครัวเรือน และลดรายจ่ายในการดำรงชีวิต ในการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 และภัยแล้งที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงนี้ โดยการรณรงค์์ให้มีการปลูกผักสวนครัว เน้นการพึ่งตนเองและความสามัคคีของคนในชุมชน เพื่อให้รอดพันวิกฤติครั้งนี้ ซึ่งปัจจัยแห่งความสำเร็จของกิจกรรมนี้คือ "ผู้นำต้องทำเป็นตัวอย่าง" อาทิเช่น หัวหน้าส่วนราชการ  นายก อบต.ทุกแห่ง  นายกเทศมนตรี และกำนันทุกตำบล ทั้งนี้ได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ผัก และต้นกล้าผักสวน จากสำนักงานเกษตรอำเภอท่าบ่อและประชาชนที่นำมาบริจาค ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการดำเนินกิจกรรม ทุกครัวเรือนมีอาหารในการดำรงชีวิต และสามารถลดรายจ่ายในระดับครัวเรือนและระดับกลุ่มอาชีพ เป็นการลดรายจ่ายกระจายให้กับประชาชนในพื้นที่

โตโยต้ามอบข้าวสารรัชมงคล 1 ตัน และรถยนต์สู้โควิด-19 ให้กับจ.หนองคาย เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนรถยนต์ใช้ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่

วันที่ 22 เม.ย. 63 ที่บริเวณลานมุขด้านหน้าศาลากลางจังหวัดหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้รับมอบข้าวสารรัชมงคล จำนวน 1 ตัน และรถยนต์ จำนวน 3 คัน จากนายวศิน คุณวาสี และมีนางอุมาพร คุณวาสี กรรมการผู้จัดการบริษัท โตโยต้าหนองคาย จำกัด เป็นตัวแทนมอบ

จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้ส่งมอบข้าวสารรัชมงคล จำนวน 100 กิโลกรัม ให้กับเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย โดยมีนางวัชรินทร์ จิตรวิเศษ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย เป็นผู้รับมอบ และมอบข้าวสารรัชมงคล จำนวน 900 กิโลกรัม ให้กับนายวรรณพล ต่อพล ปลัดจังหวัดหนองคาย เพื่อส่งต่อให้กับทุกอำเภอในจังหวัดหนองคาย เพื่อแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และมอบให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการในการป้องกันของไวรัสโควิด-19 ส่วนรถยนต์ที่ได้รับมอบให้ใช้เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อเป็นการสนับสนุนภารกิจในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้ส่งมอบรถยนต์กระบะต่อให้ที่ทำการปกครองจังหวัดหนองคาย ใช้ 1 คัน และมอบรถยนต์กระบะให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย ใช้ 1 คัน ส่วนรถยนต์เก๋ง ให้สำรองไว้ใช้ในจังหวัดหนองคายต่อไป

ไฟไหม้ป่าสนมหนองอ้อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย กว่า 800 ไร่ ทำเกิดควันลอยคละคลุ้ง จนท.เร่งดับไฟป้องกันไหม้บ้านและโรงเรียน

วันที่ 22 เม.ย. 63 เกิดเหตุไฟไหม้ป่าสนมหนองอ้อ ซึ่งเป็นหนองน้ำสาธารณะในพื้นที่ตำบลกองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย มีสภาพเป็นป่าสนมทับถมหนองอ้ออย่างหนาแน่น เกิดไฟไหม้และมีลมพัดแรงทำให้ไฟลุกไหม้กระจายวงกว้างอย่างรวดเร็ว กินพื้นที่ 827 ไร่ ในพื้นที่ 4 หมู่บ้านของตำบลกองนาง ได้แก่ หมู่ 4 หมู่ 10 หมู่ 11 และหมู่ 13 ซึ่งไฟที่โหมไหม้ป่าสนมและป่าหญ้าแห้งเป็นจุดๆ ทำให้เกิดควันลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ

เจ้าอาสารักษาดินแดนอำเภอท่าบ่อ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลตำบลกองนาง, เทศบาลเมืองท่าบ่อ และองค์การบริหารส่วนตำบลท่าบ่อ ต้องระดมรถดับเพลิง และรถบรรทุกน้ำ จำนวน 3 คัน เข้าระดมฉีดน้ำสกัดไฟ แต่การดับไฟ ทำได้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากไฟได้ลุกลามสนมและหญ้าแห้งที่ขึ้นรกทั่วหนองอ้อ และรถดับเพลิงเข้าไปไม่ถึง เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้วิธีฉีดน้ำสกัดไฟบริเวณริมหนองอ้อแทน และจุดที่ไฟจะลามเข้าใกล้วัดจำปาทอง โรงเรียนบ้านกองนาง และบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ทั้ง 4 หมู่บ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้สถานที่ดังกล่าวถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหาย

สาเหตุที่เกิดไฟไหม้ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่ามีคนจุดไฟเผา โดยนำยางรถยนต์มาวางไว้เป็นจุดๆ เนื่องจากแต่ละจุดมีควันดำพวยพุ่งออกมาและได้กลิ่นเผายางรถยนต์ คาดว่าน่าจะหาสัตว์ในบริเวณหนองอ้อ แต่ลมที่พัดแรง ประกอบกับความแห้งแล้งของพื้นที่ทำให้ไฟลุกลามจนไม่สามารถควบคุมได้

ปกครองอำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ร่วมกับ อบต.พระพุทธบาท เร่งแจกน้ำช่วยภัยแล้ง หลังสระน้ำบ้านไทรงามแห้งขอด ไม่มีน้ำผลิตประปา

จากสถานการณ์ภัยแล้งที่บ้านไทรงาม หมู่ 7 ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ประสบปัญหาสระน้ำที่กักเก็บน้ำดิบไว้ผลิตน้ำประปาของหมู่บ้านแห้งขอด ทำให้ชาวบ้าน จำนวน 173 ครัวเรือนเดือดร้อนน้ำในการอุปโภค บริโภคหนัก และทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น 

ล่าสุด วันที่ 22 เม.ย. 63 นายพรต ภูภักดิ์ นายอำเภอศรีเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้นายสมบูรณ์ เดชา ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายปกครองฯ พร้อมนายนพรัตน์ สุนันทา ผู้ใหญ่บ้านบ้านไทรงาม และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลพระพุทธบาท เร่งนำรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน โดยได้นำรถบรรทุกน้ำขนาด 12,000 ลิตร นำน้ำมาเติมลงถังความจุ 1,000 ลิตร จำนวน 4 จุด และถังบรรเทาภัยแล้งความจุ 2,000 ลิตร จำนวน 3 จุดในพื้นที่บ้านไทรงาม วันละ 2 เที่ยว เพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้สอย จำนวน 173 หลังคาเรือน เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ หลังจากแหล่งน้ำดิบที่ใช้ผลิตน้ำประปาแห้งขอดจนหมด

ทั้งนี้ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลพระพุทธบาท จะประสานไปยังสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองคาย ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล สูบน้ำจากแม่น้ำโขง เข้ามาเก็บกักไว้ในสระน้ำกลางหมู่บ้านไทรงาม เพื่อสำรองน้ำใช้ในการอุปโภค-บริโภค ในช่วงฤดูแล้งนี้ เพื่อป้องกันการขาดน้ำใช้ของชาวบ้านช่วงหน้าแล้ง

นายอำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย Kick off ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ต้านภัยโควิด - 19

วันที่ 22 เม.ย. 63 ที่บ้านพักนายอำเภอ ภายในบริเวณศูนย์ราชการอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย นายพรต ภูภักดิ์ นายอำเภอศรีเชียงใหม่ เป็นประธานในกิจกรรม Kick off " บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง" ภายใต้แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ต้านภัยโควิด-19 โดยมี นายบุญเลิศ ป่าเขือ พัฒนาการอำเภอศรีเชียงใหม่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ, ปกครองอำเภอ, กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่องค์กรส่วนท้องถิ่น ร่วมปลูกพืชผักสวนครัวหลายชนิดภายในบ้านพักนายอำเภอ เช่น พริก, มะเขือ, มะละกอ, ใบกระเพรา, โหระพา, ต้นหอม, ผักสลัด, ผักปัง, ผักบุ้ง ฯลฯ สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป มีผักกินในครัวเรือนและแจกจ่ายตลอดปี

นายบุญเลิศ ป่าเขือ พัฒนาการอำเภอศรีเชียงใหม่ กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนได้ดำเนินโครงการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาประยุกต์ใช้ โดยเริ่มจากเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนจังหวัดและอำเภอ จัดหาพื้นที่ทำเป็นแบบอย่างในการปลูกผักสวนครัว รั้วกินได้ เพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน ในพื้นที่ที่อยู่อาศัยของตนเองและขยายผลสู่ครัวเรือนในชุมชน ให้เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง เพื่อช่วยให้ประชาชนและชุมชนทุกแห่งสามารถผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ ได้ต่อไป