หนุ่มลาว แบกกล่องกระดาษนั่งเรือข้ามโขงมาฝั่งไทย จนท.ขอตรวจค้นถึงกับพูดไม่ออก ในกล่องกระดาษมีทั้งยาบ้า 79,968 เม็ด ยาไอซ์ 1.068 กิโลกรัม และยาอี 198 เม็ด สารภาพเป็นคนรับจ้าง

วันที่ 12 พ.ค. 63 ที่ สถานีเรือหนองคาย อำเภอเมืองหนองคาย พ.อ.สุทธ์พิชญพงษ์ สุธิราวุธ รอง ผอ.รมน.จังหวัด หนองคาย, นายเจริญจิต สืบสาววงศ์ นายอำเภอเมืองหนองคาย, น.ท.ธิติวัฒน์  เนียมประพันธ์  หัวหน้าสถานีเรือหนองคาย ,ร.ต.อ.เรืองศักดิ์ ผาเจริญ รองผู้บังคับกองร้อบตำรวจตระเวนชายแดนที่ 245 ,นายสมบัติ ฆ้อนทอง หัวหน้าฝ่ายปราบปราม ด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุมนายน้อย ดำปะพัน อายุ 30 ปี ราษฎรบ้านนาร่อง เมืองหาดทรายฟอง แขวงนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว พร้อมด้วยยาบ้า 79,968 เม็ด ยาไอซ์ 1.068 กิโลกรัม และยาอี 198 เม็ด ขณะแบกกล่องกระดาษ 1 ใบ ลักลอบนำเข้ายาเสพติดจำนวนดังกล่าว ข้ามแม่น้ำโขงมาขึ้นฝั่งที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านสีกายใต้ ตำบลสีกาย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย เพื่อนำมาส่งให้พ่อค้าคนไทย ภายใต้การอำนวยการของ พล.ร.ต.สมพงษ์  ศรอากาศ ผบ.นขร., พล.ต.สวราชย์  แสงผล ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี, นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย,  พ.ต.ต.ถาวร ช่างไชย ผบ.ร้อย ตชด.๒๔๕
         

การจับกุมครั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา น.ท.ธิติวัฒน์ เนียมประพันธ์ หัวหน้าสถานีเรือหนองคาย สืบทราบว่าจะมีการลักลอบส่งยาเสพติด  ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านสีกายใต้ ตำบลสีกาย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย จึงได้รายงานให้ นาวาเอกวรัตน์  โกพลรัตน์  ผู้บังคับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตหนองคาย ทราบ จากนั้นได้ประสาน ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 245 และหน่วยงานเกี่ยวข้อง จัดกำลังเข้าซุ่มต่อมาเจ้าหน้าที่พบ  พบรถยนต์เก๋งสืบรอนซ์เทาต้องสงสัย ( ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ) ขับเข้ามาจอดบริเวณจุดจอดเรือ จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สังเกตเห็นเรือเพลายาวขับมาจากฝั่ง สปป.ลาว มีชาย 2 คนนั่งมาในรือ มาจอดบริเวณท่าบ้านสีกายใต้ ต่อจากนั้นนายน้อย  คำปะพัน (ทราบชื่อภายหลังชื่อ) นั่งอยู่บริเวณหัวเรือ ได้อุ้มกล่องต้องสงสังลงจากเรือเดินขึ้นมาวางไว้บนฝั่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนขอตรวจค้น พบในกล่องกระดาษที่พันด้วยเทปกาวสีดำ ได้ซุกซ่อนยาเสพติดจำนวนดังกล่าวไว้ภายใน 

น.ท.ธิติวัฒน์ ฯ หนชุดจับกุม จึงได้แจ้งข้อกล่าวหานายน้อย ฯ ว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท ๑(ยาบ้า,ยาไอซ์, ยาอี )ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมนำผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมด มาทำการตรวจสอบอย่างละเอียดที่ สถานีเรือหนองคาย
   

       
จากการสอบสวนเบื้อต้น  นายน้อยฯ รับสารภาพว่า ตนเป็นเพียงคนขับเรือและมีผู้ว่าจ้างให้ตนขับเรือนำสิ่งของมาส่งฝั่งไทย และส่งแบบนี้หลายครั้ง โดยไม่ทราบว่าข้างในกล่องเป็นยาเสพติด เจ้าหน้าที่ จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคายดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

กกล.สุรศักดิ์มนตรี จัดส่งกำลังพลลงพื้นที่ ช่วยเหลือชาวบ้านพื้นที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยมีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย 5 ตำบล กว่า 223 หลังคาเรือน

วันที่ 12 พ.ค. 63 พลตรีสวราชย์ แสงผล ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3, ผู้อำนวยการความมั่นคงภายในภาค 2 ส่วนแยก 1 และ พ.อ.มงคล หอทอง ผบ.ร.13 / ผบ.บก.ควบคุมที่ 2 มอบหมายให้ ร.ท.ณัฏฐภัทร สุขศิริ  ผบ.ร้อยเคลื่ิอนที่เร็ว ที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี  นำกำลังพลร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันออกปฏิบัติหน้าที่ให้ความช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ลมกระโชกแรงพัดหลังคาบ้านหลุดพังเสียหาย โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการรื้อถอนเศษวัสดุ หลังคาออกก่อน และทำการปรับปรุงใหม่ให้มั่นคงแข็งแรงกว่าเดิม ซึ่งได้ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในตำบลโคกคอน อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนพัดถล่มบ้านเรือนเสียหายทั้งหมด 3 หมู่บ้าน จำนวน 70 หลังคาเรือน

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนประชาชน ต้นไม้ใหญ่หักโค่นล้มทับตัวบ้าน ใน 5 ตำบล 19 หมู่บ้าน ของอำเภอท่าบ่อ ได้รับความเสียหายกว่า 223 หลังคาเรือน ในจำนวนนี้เสียหายหนักหลังคาหลุดทั้งหลัง จำนวน 6 หลังคาเรือน โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ก็เร่งดำเนินการสำรวจผู้ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนในครั้งนี้ และได้ดำเนินการพิจารณาให้ความช่วยเหลือทั้งในรูปแบบของเงินสงเคราะห์ และวัสดุอุปกรณ์สำหรับซ่อมแซมบ้านที่เสียหาย เป็นการด่วนแล้ว

อำเภอเมืองหนองคาย ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ เพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้ป่วยติดเตียง

           
นายเจริญจิต  สืบสาววงศ นายอำเภอเมืองหนองคาย มอบหมายให้ นายเรวัต   คำภา ปลัดอำเภอประจำตำบลหินโงมและตำบลค่ายบกหวาน  อำเภอเมืองหนองคาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่นำถุงยังชีพในส่วนของที่ทำการปกครองอำเภอเมือง จำนวน 10 ชุด เพื่อมอบให้กับผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ตำบลหินโงมและตำบลค่ายบกหวาน  ซึ่งเป็นผู้ประสบปัญหาทางสังคมในกรณีช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

ซึ่งอำเภอเมืองหนองคายและหน่วยงานในพื้นที่ยังไม่ทอดทิ้ง โดยจะมีการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในการออกตรวจเยี่ยมแต่ละครั้ง เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น สร้างความยินดีกับผู้ป่วยติดเตียงและญาติผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ที่ภาครัฐไม่ได้ทอดทิ้งและขอบคุณในความช่วยเหลือ ครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง

ตลาดชุมชนบ้านไทรงาม ใช้มาตรการเข้มตามคำสั่งจังหวัดหนองคาย ในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ตรวจคัดกรองและควบคุมเชื้อทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย เข้า-ออกทางเดียว และล้างมือทำความสะอาดก่อนเข้าทุกครั้ง

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 63 ที่ตลาดชุมชนบ้านไทรงาม หมู่ 7 ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายนพรัตน์ สุนันทา ผู้ใหญ่บ้านบ้านไทรงาม นางเพชรสมร ไพรพยอม  ผอ.รพ.สต.พระพุทธบาท พร้อมด้วยคณะกรรมการหมู่บ้าน, เจ้าหน้าที่ รพ.สต.  พ่อค้าแม่ค้า และ อสม. ได้ร่วมกันวางมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่ตลาดชุมชน ตามคำสั่งจังหวัดหนองคาย ที่ 1436/2563 ให้ผ่อนผันตลาดนัด ตลาดสดชุมชน เปิดให้ประชาชนได้จับจ่ายใช้สอยสินค้าประเภทอาหารได้ตามปกติ แต่ต้องมีการเพิ่มมาตรการคุมเข้มในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคด้วย

โดยจัดเวรเจ้าหน้าที่สาธาณสุขและให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดเข้ามามีส่วนร่วมเป็นเจ้าหน้าที่คัดกรอง โดยตลาดจะปิดเส้นทางให้สามารถเข้าออกได้ทางเดียว ผู้ที่จะเข้าออกต้องทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ที่ทางเข้าทุกครั้ง และทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย หากไม่สวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงระหว่างการกักตัวเอง ก็จะไม่ให้เข้าตลาด ส่วนพ่อค้าแม่ค้าก็ต้องสวมหน้ากากอนามัย ทุกคนเช่นกัน

นอกจากนี้แล้วยังใช้มาตรการให้ทุกคนในตลาดป้องกันตนเอง ด้วยการเว้นระยะห่างกันให้เกิน 1 เมตร แม้จะทำได้ยากเเนื่องจากเป็นตลาดสด แต่หลายคนก็พยายามหลีกเลี่ยงจุดที่มีคนเยอะ เลี่ยงไปจุดอื่นๆก่อน เพื่อรอให้คนน้อย ก่อนเพื่อลดความเสี่ยง

หน้ากากผ้าสร้างรายได้ ช่วยชาวบ้านสู้ภัยโควิด-19

 
กลุ่มตัดเย็บเสื้อผ้าวิสาหกิจชุมชน ก.ก้าว บ้านโคกเจริญ หมู่ 16 (หมู่บ้านตัวอย่างตามรอยเท้าพ่อ) ต.วัดหลวง อ. โพนพิสัย จ.หนองคาย ระดมสมาชิก ชาวบ้าน และนักเรียน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ช่วยกันผลิตหน้ากากผ้าสร้างรายได้ เนื่องจากในช่วงนี้ไม่มีการจ้างผลิตงานใดๆเลย การตัดเย็บนอกจากผลิตอยู่ที่กลุ่มแล้ว สมาชิกยังได้ผลิตอยู่ที่บ้านของตนเอง ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของไสรัสโควิด-19
   

นางบุญจันทร์ นพเก้า  ประธานกลุ่ม ฯ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้สมาชิกกลุ่มซึ่งมีจำนวน 30 คน ไม่มีรายได้เลย เพราะไม่มีใครมาจ้างผลิตงาน  แต่ในวิกฤตก็ยังมีโอกาสเมื่อสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานหนองคาย ได้มาฝึกอบรมให้สมาชิกและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกเลิกจ้างงานจากเมิองใหญ่และกลับมาอยู่บ้านให้สามารถตัดเย็บหน้ากากผ้าได้ พร้อมทั้งได้ช่วยประชาสัมพันธ์การผลิตหน้ากากผ้าของกลุ่มให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ฉะนั้น จึงมีหลายภาคส่วน ที่สนับสนุนให้ผลิตหน้ากากผ้าช่วยสร้างรายได้ สู้ภัยโควิด-19 เพราะหากไม่ได้ทำหน้ากากผ้า ก็ยังไม่รู้ว่าจะหารายได้จากทางไหน จึงต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ส่งเสริมและสนับสนุน อาทิ สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานหนองคาย พร้อมหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานในจังหวัดหนองคาย หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 21 (นพค.21) หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย หน่วยงานสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอีกหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เป็นต้น ผลจากการสนับสนุนงานทำให้ชาวบ้านมีกำลังใจมากขึ้น สามารถยิ้มได้ ยิ้มสู้ภัยโควิด-19 เพื่อเพิ่มพลังในการทำงานต่อไป "ผู้สนใจสอบถามได้ทาง โทร. 095- 9755 916"
   

จากการที่ กลุ่มตัดเย็บเสื้อผ้าวิสาหกิจชุมชน ก.ก้าว บ้านโคกเจริญ เป็นกลุ่มที่มีความเข้มแข็ง สามารถดำเนินการด้านการส่งเสริมอาชีพได้ โดยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จากผลงานดังกล่าว เมื่อปี พ.ศ.2560 บ้านโคกเจริญ จึงได้รับการคัดเลือกจาก หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 21(นพค.21) สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ให้เป็นหมู่บ้านตัวอย่างตามรอยเท้าพ่อ ประจำปีงบประมาณ 2560 ตามโครงการหมู่บ้านตัวอย่างตามรอยเท้าพ่อ