วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

อำเภอท่าบ่อ ร่วมกับ อบต.บ้านว่าน จัดโครงการปลูกป่าชุมชน เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว



วันที่ 24 ก.ค. 63 ที่ สวนสาธารณะโนนโคกสูง หมู่ 4 ตำบลบ้านว่าน อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อ เป็นประธานในพิธีปลูกป่าชุมชน โดยอำเภอท่าบ่อร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านว่าน จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ครบ 68 พรรษา ในวันอังคารที่ 28 กรกฎาคม 2563 อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ป่าโดยการปลูกต้นไม้ยืนต้น สอดคล้องกับศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน และเป็นการรณรงค์ส่งเสริมให้มีการปลูกต้นไม้ยืนต้นและไม้ใช้สอยในพื้นที่สาธารณะป่าชุมชน เพื่อให้ต้นไม้ได้ดูดซับน้ำธรรมชาติ ลดความรุนแรงจากสภาวะน้ำท่วมและเป็นการฟื้นฟูดินที่มีสภาพเสื่อมโทรม ลดความรุนแรงของการพังทลายของดิน เพิ่มธาตุอาหารและความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน และยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ เพื่อช่วยดูดกลืนความร้อน ลดปริมาณก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ จากกิจกรรมของมนุษย์ที่เป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดภาวะโลกร้อน โดยมีประชาชนจิตอาสาเราทำความดีเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก












จังหวัดหนองคาย โดย สนง.ทสจ.หนองคาย จัดโครงการปลูกป่า และป้องกันไฟป่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว


วันที่ 24 ก.ค. 63 ที่ วัดน้ำฮวย บ้านตาดเสริม ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม  จังหวัดหนองคาย นายณัฐวัสส์  วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการปลูกป่า และป้องกันไฟป่า ซึ่งจังหวัดหนองคาย โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหนองคาย จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 68 พรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2563  โดยมี นางศิริวรรณ สุดาจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองคาย กล่าวรายงาน มีหัวหน้าส่วนราชการทั้งระดับจังหวัดและระดับอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักเรียนและประชาชนจิตอาสาเราทำความดีเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ร่วมกิจกรรมฯ โดยได้ร่วมกันปลูกต้นไม้จำนวน 1,400 ต้น ได้แก่ รวงผึ้ง, ไม้สัก, ตะแบง, พะยูง และมะค่าโมง บนพื้นที่ 7 ไร่ ภายในบริเวณวัดน้ำฮวย





นางศิริวรรณ สุดาจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ด้วยศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน จัดทำ “โครงการปลูกป่า และป้องกันไฟป่า” ครอบคลุมถึงป่าต้นน้ำ ป่าชายเลน ป่าพรุ และที่ดินของรัฐประเภทอื่น ๆ และการฝึกอบรม “จิตอาสา” เพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขแก่อาณาราชฎร

โครงการปลูกป่า และป้องกันไฟบำ ดำเนินการปี พ.ศ.2563-2570 โดยกำหนดพื้นที่ป่าที่ได้รับการฟื้นฟู และมีพื้นที่สีเขียวนอกเขตป่าภายใต้โครงการปลูกป่า และป้องกันไฟป๋าเพิ่มขึ้น รวมกันจำนวนไม่ต่ำกว่า 2.68 ล้านไร่ ใน 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร รวม 3 ระยะในการดำเนินการ โดยระยะที่ 1 ระยะเร่งด่วนดำเนินการเสร็จภายใน 28 ก.ค. 2563 จำนวน 6 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ ตาก น่าน นครราชสีมา ชัยภูมิ และนครศรีธรรมราช ปลูกป่าไม่ต่ำกว่า 1,010 ไร่ และทำฝายเพิ่มความชุ่มชื้นของระบบนิเวศน์ พื้นที่ละไม่ต่ำกว่า 10 แห่ง รวมจำนวนไม่ต่ำกว่า 70 แห่ง จังหวัดอื่นนอกเหนือจากจังหวัดเร่งด่วน จำนวน 71 จังหวัด รวมกรุงเทพมหานคร ปลูกป่าหรือปลูกตันไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว เฉลี่ยจังหวัดละ 100 ไร่ รวมทั้งประเทศ 7,100 ไร่

ระยะที่ 2 และ 3 ดำเนินการในปี พ.ศ.2563-2570 โดยปี พ.ศ.2563-2565 ฟื้นฟูป่าในจังหวัดเร่งด่วน 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ตาก น่าน นครราชสีมา ชัยภูมิ และนครศรีธรรมราช จำนวนรวมกันปีละไม่ต่ำกว่า 22,000 ไร่ รวมทั้งฟื้นฟูป่าและเพิ่มพื้นที่สีเขียวนอกเขตป่าใน 71 จังหวัดที่เหลือ รวมกรุงเทพมหานคร เฉลี่ยจังหวัดละ 100 ไร่ต่อปี รวม 71 จังหวัด 7,100 ไร่ต่อปี รวม 2 ปี จำนวน 14,200 ไร่  ปี พ.ศ. 2565-2570 กำหนดเป้าหมายการเพิ่มพื้นที่บำจำนวนร้อยละ 15-20 ของพื้นที่ต้นน้ำ (ชั้นคุณภาพน้ำ 1 และ 2) ที่เสื่อมสภาพและมีการใช้ประโยชน์จากราษฎร จำนวน 127 ลัานไร่ (บำสงวนแห่งชาติ/บำอนุรักษ์/อื่นๆ) ฟื้นฟูพื้นที่บำชุมชนเฉลี่ยแห่งละ 59 ไร่ จาก 11,327 แห่ง เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ชายเลน จำนวน 0.153 ล้านไร่ จากพื้นที่ป่าชายเลนตามกฎหมาย จำนวน 1.5 ล้านไร่ พื้นฟูพื้นที่ป่าพรุ จำนวน 20,000 ไร่ รวมทั้งเพิ่มพื้นที่สีเขียวในจังหวัดที่ไม่มีพื้นที่บำตามกฎหมาย เฉลี่ยจังหวัดละ 100 ไร่ต่อปี รวม 5 ปึ จังหวัดละ 500 ไร่

กิจกรรมภายใต้โครงกรปลูกป่า และป้องกันไฟป่า เดือนกรกฎาคม 2563 ซึ่งเป็นเดือนมหามงคล ได้กำหนดพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 โดยพิธีเปิดโครงการหลักกำหนดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกบัวตอง -น้ำพุเจ็ดสี อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่








วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

PEA สาขาทำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย รับการตรวจประเมิน GECC เพื่อยกระดับเป็นศูนย์ราชการบริการประชาชนมาตรฐานระดับประเทศ


วันที่ 22 ก.ค. 63 ที่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) สาขาอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย  นางสาวอัมพวัน เจริญกุล ประธานอนุกรรมการตรวจประเมินมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวก (Government Easy Contact Center หรือ GECC) คณะที่ 7 พร้อมด้วย นายยันยงค์ คำบรรลือ อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ, นางสาวนวลจันทร์ แสงมณี อนุกรรมการและเลขานุการ, นางสาวพัทธนันท์ ว่องธีรโชติวงษ์ อนุกรรมการและเลขาธิการ, นางสาวอรชืสา นิพากรเมธ ผู้ช่วยเลขานุการ ร่วมลงพื้นที่ตรวจติดตามประเมินมาตรฐานงานบริการประชาชน ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) สาขาอำเภอท่าบ่อ เพื่อยกระดับเป็นศูนย์บริการประชาชนมาตรฐานระดับประเทศ ตามโครงการ “การรับรองมาตรฐานการให้บริการของศูนย์ราชการสะดวก” โดยมี นายพงศ์ศิษฎ์ โสภาวัฒน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมและบริการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จังหวัดอุดรธานี),  นายปริญญา ศรีลาพัฒน์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาอำเภอท่าบ่อ, นายอาทร จันทร์พิลา ประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ร่วมให้การต้อนรับและร่วมกันนำเสนอข้อมูลผลการปฏิบัติงานความก้าวหน้างานบริการในด้านต่างๆ พร้อมกับนำคณะอนุกรรมการตรวจประเมินฯ เข้าดูความเรียบร้อยในบริเวณพื้นที่จุดบริการประชาชน







โดยการตรวจประเมิน คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ PEA สาขาอำเภอท่าบ่อ ได้ร่วมกันนำเสนอข้อมูลงานบริการในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งการปฏบัติงานเกี่ยวกับนวัตกรรมแอพพลิเคชั่นบันทึกข้อมูลกระแสไฟฟ้าขัดข้อง, นวัตกรรมเครื่องปลอกสายไฟ, นวัตกรรมป้องกันรถยนต์ชนเสาไฟฟ้า และการมีส่วนร่วมกับชุมชน โดยเปิดโอกาสให้ชุมชนนำสินค้า OTOP และผลไม้ตามฤดูกาลมาจำหน่ายให้กับประชาชนในทุกวันศุกร์ รวมทั้งในเรื่องกระบวนงานการรับเรื่อง ขั้นตอนวิธีการปฏิบัติในการให้บริการประชาชนผู้มาติดต่องาน ณ จุดเคาน์เตอร์บริการในรูปแบบ One Stop Service การให้ข้อมูลในภาพรวมเกี่ยวกับปริมาณงาน สถิติผู้มาใช้บริการ และปริมาณรายได้จากการให้บริการ ซึ่งทุกกระบวนงานได้เน้นที่จะอำนวยความสะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยในยุคดิจิตอล เพื่อจะสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจให้แก่ประชาชนผู้รับบริการ





สำหรับการตรวจประเมินจุดบริการหน่วยงานเพื่อยกระดับเป็นจุดบริการประชาชนมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวก (GECC) เป็นการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการจะกระตุ้นให้หน่วยงานของภาครัฐได้มีการปรับปรุงและพัฒนางานบริการให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง มีมาตรฐาน เพื่อช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับหน่วยงานองค์กร ต่อไป


















จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...