ทต.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านทุ่งศิลป์ครูแดง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

วันที่ 18 ก.ย. 63 นายสมศักดิ์ เศรษโฐ นายกเทศมนตรีตำบลสุรรรณภูมิ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด นำคณะผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน จำนวน 30 คน เดินทางเข้าเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ตามโครงการ "อบรมและศึกษาดูงานตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำหมู่บ้าน คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่เทศบาล" ประจำปีงบประมาณ 2563

ด้วยเทศบาลตำบลสุวรรณภูมิ ได้จัดโครงการฯดังกล่าว ในระหว่างวันที่ 17 - 18 กันยายน 2563 ณ จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดหนองคาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ของเหศบาล มีความรู้ ความเข้าใจประกอบอาชีพตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และสามารถนำแนวพระราชดำริ มาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันตามหลักการพอเพียง ความพอดี การใช้ชีวิตอย่างรอบคอบ ไม่พุ่มเพื่อย ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการเรียนรู้มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและชุมชน ต่อไป

ครูแดง บ้านศิลป์ไทย กล่าวว่า ผมมอบหมายให้ครูเบิ้ม บ้านเติมศิลป์ ต้อนรับ คณะศึกษาดูงานจากเทศบาลตำบลสุวรรณภูมิ และพาเดินชมพืชผักผลไม้ในบริเวณบ้านทุ่งศิลป์ ที่ได้บริหารจัดการพื้นที่ ตามอัตราส่วน 30 :30 :30 :10 ตามแนวทางทฤษฎีใหม่ของพ่อหลวง ร.9 

 ครูแดง กล่าวเพิ่มเติมว่า  ความ พอดี จะทำให้เรามีความสุข  "ขยันมาก ไม่ดี  เหนี่อยครับ ขยันน้อย ไม่พอกิน ขยันพอดี คือพอดีตามสภาพของตนเอง ความพอดีแต่ละคนไม่เท่ากัน และไม่เหมือนกัน"

บุคลากรทางการแพทย์ รพ.มุกดาหาร ดูงานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงบ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ตามโครงการศึกษาดูงานการพัฒนาจิตและเตรียมความพร้อมสำหรับผู้เกษียณอายุราชการ

วันที่ 17 ก.ย. 63 ที่บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ทันตแพทย์หญิงพิกุล มุกดาประเสริฐ ทันตแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลมุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร และคณะบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลฯ ได้เดินทางมาดูงานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงบ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ตามโครงการศึกษาดูงานการพัฒนาจิตและเตรียมความพร้อมสำหรับผู้เกษียณอายุราชการ โดยมี ครูแดงบ้านศิลป์ไทย และครูเบิ้มบ้านเติมศิลป์ ให้การต้อนรับและเป็นวิทยากรพาเดินชมบ้านทุ่งศิลป์ครูแดง พื้นที่ 19 ไร่เศษ ที่ครูแดงบ้านศิลป์ไทย นำแนวพระราชดำรัสหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ในพื้นที่ควบคู่กับศิลปะ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตชุมชน จนกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ของส่วนราชการ องค์กร และหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศ

ทันตแพทย์หญิงพิกุล กล่าวว่า การที่ได้มาศึกษาดูงานที่บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ก็ได้แง้คิดดีๆ ที่จะได้นำไปปฏิบ้ติตัวและก็ใช้ชีวิตตัวเองได้อย่างมีความสุข จากที่เราอาจจะไม่เข้าใจในคำว่าเศรษฐกิจพอเพียงนั้นเป็นอย่างไร ครูแดงก็ให้ความคิด และก็แง่คิดที่เราสามารถนำไปใช้ได้ง่ายๆ ก็คือต้องบริจัดการรายรับของเราให้มากกว่ารายจ่าย เราก็จะใช้ชีวิตของเราได้อย่างมีความสุข ถึงวัยหนึ่งที่เราจะเกษียณเราก็ไม่ต้องไปเริ่มต้นกับชีวิตใหม่ เพียงแต่ว่าใช้ชีวิตของเราในช่วงนั้นให้อย่างมีความสุขในการที่จะมองดูลูกหลานเติบโตไปอย่างความสุข ภายใต้เศรษฐกิจพอเพียง โดยความรู้ที่ได้ก็จะนำไปต่อยอดเหมือนที่ครูแดงบอก เราไม่จำเป็นที่จะเริ่มต้นใหม่ เช่น ท่าเราจะปลูกผักก็ปลูกผักสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ ปลูกได้ง่าย อันไหนยากเราก็ไม่ต้องไปปลูก ปลูกที่เราชอบกินชอบรัปทานในชีวิตประจำวัน เช่นพริก มะละกอ มะเขือ ที่มันได้กินเลย และก็ไม่จำเป็นจะต้องไปปลูกมาก ปลูกไปก็จะเป็นภาระที่เราจะต้องไปจำแนกแจกจ่าย ท่าเราไม่มีการตลาดก็จะกลายเป็นภาระของเรา 

ทันตแพทย์หญิงพิกุล ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า "ครูแดงนั้นถือว่าเป็นครูอาชีพที่ไม่ใช่แค่เรือจ้าง เป็นครูผู้สร้างคนให้เป็นคน"

นายอำเภอท่าบ่อ เปิดโครงการรณรงค์และแก้ไขปัญหายาเสพติด To be number one (ศูนย์เพื่อนใจวัยรุ่นในชุมชน หมู่บ้าน) ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี ประจำปี 2563

วันที่ 17 ก.ย. 63 ที่โรงเรียนท่าบ่อพิทยาคม ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อ เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์และแก้ไขปัญหายาเสพติด To be number one (ศูนย์เพื่อนใจวัยรุ่นในชุมชน หมู่บ้าน) ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี ประจำปี 2563 โดยฝ่ายปกครองตำบลกองนาง โรงพยาบาลส่งสริมสุขภาพตำบลกองนาง และเทศบาลตำบลกองนาง ร่วมกันดำเนินโครงการฯ ขึ้น

นางถนอม สมศรี กำนันตำบลกองนาง กล่าวว่า โครงการฯดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับโทษภัยของยาเสพติดให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป ในพื้นที่ตำบลกองนาง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสติดไม่ให้ลุกลามไปสู่ชุมชนอื่นๆ หรือใกล้คียง และเพื่อเป็นการฝึกทักษะในการอยู่ร่วมกันระหว่างผู้ผ่านการบำบัดยาเสพติดกับประชาชนในชุมชนให้อยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจ

ในการจัดโครงการฯ ครั้งนี้ มีชุดวิทยากรให้ความรู้ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตะเวนชายแดนที่ 24 ให้ความรู้เกี่ยวกับโทษและพิษภัยยาสพติด, นิติกรชำนาญเทศบาลตำบลกองนาง ให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รพ.สต.กองนาง ให้ความรู้เกี่ยวกับความเป็นโครงการ To be number one, รูปแบบการดำเนินงานกิจกรรม To be number one ในชุมชน และแนวการจัดตั้งกลุ่มเพื่อนใจวัยรุ่นในชุมชนและสรุปซักถามปัญหา  โดยมีผู้บริหารเทศบาลฯ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล นักเรียนและประชาชนร่วมโครงการจำนวนมาก