วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีและคณะ เข้าตรวจเยี่ยมเพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานของ รพร.ท่าบ่อ และมูลนิธิ รพร. สาขาท่าบ่อ

วันที่ 8 ก.พ.2566 ที่ ห้องประชุมอิสานฮอลล์  โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี รองประธานกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชและคณะ เข้าตรวจเยี่ยมเพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ และมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช สาขาท่าบ่อ และรับทราบปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานเพื่อให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน




โดยในช่วงเช้ามีพิธีมอบประกาศเกียรติคุณเครื่องหมายตอบแทนมูลนิธิฯ แก่ผู้ที่มีอุปการคุณให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จำนวน 15 ราย ต่อด้วยการมอบถุงพระราชทาน  แก่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ เป็นตัวแทนรับเพื่อนำไปมอบแก่ผู้ป่วยในโรงพยาบาล แล้วจึงเปิดการประชุม โดยมีนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวต้อนรับ และแนะนำหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดหนองคาย  ต่อด้วย พญ.ฤดีมน สกุลคู ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ  กล่าวแนะนำคณะกรรมการมูลนิธิฯสาขาท่าบ่อ และคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาล และบรรยายสรุปผลงาน โดยเน้นหลักในเรื่องการพัฒนาโรงพยาบาลตามนโยบายแผนยุทธศาสตร์ของมูลนิธิ ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ 1.ชุมชนมีสุขภาวะ ( Community Happiness Strategy ) , 2.ผู้รับบริการมีความสุข ( Patient Happiness Strategy ) , 3.บุคลากรมีความสุข ( Personnel Happiness Strategy ) , 4.โรงพยาบาลแห่งความสุข ( Hospital Happiness Strategy )







รวมทั้งนำเสนอความก้าวหน้าในการเพิ่มศักยภาพ ในการรักษาผู้ป่วยด้านการผ่าตัดและส่องกล้อง  ซึ่งได้พัฒนาจนเป็นศูนย์ความเป็นเลิศด้านการส่องกล้องและการผ่าตัดด้วยกล้องวิดีทัศน์ ของภาคอิสานตอนบน ปัจจุบันมีผู้ป่วยจากทั่วประเทศ รวมทั้งจากประเทศเพื่อนบ้านมารับบริการผ่าตัดด้วยกล้องเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการสนองพระราชดำรัสของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ได้ทรงมอบไว้ให้กับชาวโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทุกแห่ง ว่า "ทุกคนที่ทำงานให้โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช จะต้องไม่ลืมว่าโรงพยาบาลนี้  กำเนิดจากความมุ่งปรารถนาอันแรงกล้าของคนไทยทั่วราชอาณาจักร ที่ต้องการจะเห็นผู้ที่อยู่ในท้องถิ่นทุรกันดารทุกหนแห่ง ได้รับความเอาใจใส่รักษาพยาบาลเป็นอย่างดี  ให้ปลอดภัยจากความเจ็บไข้โดยทั่วถึงเสมอหน้ากัน" และยังมีการจัดกิจกรรมเพื่อเทิดพระเกียรติและส่งเสริมสุขภาพประชาชนตลอดทั้งปี  อาทิเช่น โครงการออมขวัญปันสุข  โครงการปั่นรวมใจเทิดไท้องค์ราชา  โครงการ เดิน-วิ่ง TCPH Mini-Half Marathon เป็นต้น







ในช่วงบ่าย นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์บริการทางการแพทย์ทางไกลที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ศูนย์แพทย์ชุมชนท่าบ่อ ริมโขง ซึ่งเป็นโครงการของมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  เพื่อพัฒนาการให้บริการแก่ผู้ป่วยที่ห่างไกล  หรือไม่สะดวกในการเข้ามารับบริการที่โรงพยาบาล และเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งของผู้ป่วยและโรงพยาบาล ลดการแออัดในโรงพยาบาล ต่อด้วยชมการสาธิตการให้บริการการแพทย์ทางไกล โดย นพ.อิศรา ธรา แพทย์ประจำศูนย์แพทย์ชุมชนท่าบ่อ





หลังจากนั้นเดินทางไปที่ ชุมชนสระแก้วร่วมใจพัฒนา หมู่ 11 ต.ท่าบ่อ เพื่อเยี่ยมชมกิจกรรมของตัวแทนชุมชน กลุ่มผู้สูงอายุ  อันแสดงถึงความเข้มแข็งของชุมชนในการดูแลตนเอง โดยได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน ต่อด้วยการเยี่ยมผู้ป่วยที่บ้าน 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยตัวอย่างที่ได้รับการดูแลจากติดเตียง จนสามารถลุกจากเตียงและช่วยเหลือตนเองได้มากขึ้น นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขในชีวิต






นายอำเภอสังคม จ.หนองคาย นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบทราย หลังมีการร้องเรียนจากผู้ประกอบการสัมปทานบ่อทรายสงสัย ทรายที่นำเข้าจาก สปป.ลาว ไม่ถูกต้อง

เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2566 เวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา นายสมควร ใจซื่อ นายอำเภอสังคม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ศุลกากร ผู้นำท้องถิ่น นำสื่อมวลชนลงพื้นที่บริเวณ  ท่าทราย บริษัท พันธมิตรค้ากรวดทราย 254 จำกัด บ้านปากโสม ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย  เพื่อตรวจสอบทรายที่นำเข้าจาก สปป.ลาว  และทรายที่ขุดลอก หลังมีการร้องเรียนจากผู้ประกอบการสัมปทานบ่อทราย ตามมาตรา 9 สงสัยเป็นทรายที่นำเข้าไม่ถูกต้องขอให้มีการหยุดดำเนินการ และตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนก่อน  สำหรับผู้ประกอบการขอนำเข้าทรายจาก สปป.ลาว ที่ได้รับอนุญาต มีจำนวน 3 ราย ในพื้นที่อำเภอสังคม อำเภอโพนพิสัย และอำเภอรัตนวาปี จังหวัดหนองคาย




จากการลงพื้นที่ได้มีตัวแทนผู้ประกอบการฯ นำเจ้าหน้าที่เดินตรวจสอบ พบมีทรายจำนวนมาก กองอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง จำนวน 2 กอง ทรายกองที่ 1 เป็นทรายที่นำขึ้นจากการขุดร่องน้ำให้เรือสามารถแล่นเข้ามาได้ โดยมีการปักป้ายว่า “กองวัสดุจากการขุดลอก” และป้าย “ใบอนุญาตให้ขุดลอกร่องน้ำทางเรือเดินบริเวณหน้าท่าเทียบเรือ เลขที่ 33/2566” ไว้หน้ากองทราย และทรายกองที่ 2 เป็นทรายที่นำเข้าจาก สปป.ลาว  ซึ่งมีรถแม็คโฮ กำลังตักทรายใส่รถบรรทุก ส่วนในแม่น้ำโขงพบเรือดูดทราย จำนวน 1 ลำ จอดอยู่ดอนกลางแม่น้ำโขงฝั่ง สปป.ลาว และเรือบรรทุกทรายอีก 2 ลำ อยู่ร่องน้ำฝั่งไทย




ผู้ประกอบการนำเข้าทราย กล่าวว่า ทรายที่นำขึ้นมาจากการขุดร่องน้ำ จะไม่นำออกไปใช้ประโยชน์หรือจำหน่ายแต่อย่างได  นอกจากส่วนราชการที่มีความจำเป็น และต้องการทรายเพื่อนำไปใช้ประโยชน์สาธารณะหรือประโยชน์ทางราชการ  ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย และระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง  ส่วนทรายที่นำเข้าจาก สปป.ลาว เป็นทรายที่นำเข้าอย่างถูกต้องทุกขั้นตอน โดยมีเอกสารยื่นคำร้องต่อศุลกากรหนองคาย ซึ่งได้รับอนุญาตให้ดำเนินการ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปตรวจสอบ  ส่วนการนำเรือออกไปบรรทุกทรายและดูดทราย ก็จะมีการแจ้งพิกัดให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบทุกครั้ง


ส่วนเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย  กล่าวว่า ผู้ประกอบการรายดังกล่าว ได้ยื่นเอกสารการขอนำเข้าทราย เอกสารคู่ค้าผู้ได้รับสัมปทานฝั่งลาว เอกสารการซื้อขาย และเอกสารอื่นครบถ้วน โดยมีการอนุญาตเป็นห่วง ๆ ไป พร้อมทั้งมีหนังสือแจ้งหน่วยงานในจังหวัด อำเภอ ตำรวจ กกล. นรข. และกรมเจ้าท่าในพื้นที่ เข้าไปตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ และอนุญาตให้ดำเนินการได้




ด้านผู้ประกอบการสัมปทานบ่อทราย ตามมาตรา 9 กล่าวว่า ตนเชื่อว่า การนำเข้าทรายจาก สปป.ลาว มาในพื้นจังหวัดหนองคาย เป็นการนำเข้าที่ไม่ถูกต้อง จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบและขอให้หยุดดำเนินการนำเข้าทรายไว้ก่อน จนกว่าการตรวจสอบจะมีความชัดเจน อีกทั้งตนไม่เห็นด้วยกับการที่จะต้องนำเข้าทรายจาก สปป.ลาว เนื่องจากประเทศไทยมีทรายเป็นจำนวนมาก ซึ่งมุมมองของผู้ประกอบการเชื่อว่า อาจสร้างความเสียหายระดับประเทศได้ จริงแล้วต้องไปแก้ข้อกำหนดทางด้านเทคนิคเกี่ยวกับการดูดทรายตามแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง ในการประชุมไทย-ลาว ที่เมืองพัทยา ปี 2551 ซึ่งทางประเทศไทยบังคับใช้มาโดยตลอด ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการดูดทรายของไทย ตามมาตรา 9 เริ่มปิดตัวลง และจะหมดไปในที่สุด เห็นควรมีการประชุมอนุกรรมการ ไทย-ลาว เพื่อแก้ข้อกำหนดทางด้านเทคนิคเกี่ยวกับการดูดทรายตามแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง ที่เมืองพัทยา ปี 2551 ผู้ประกอบการดูดทรายจึงจะสามารถดูดทรายตาม มาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินได้ ซึ่งจังหวัดหนองคายก็จะไม่ขาดแคลนทราย และราคาถูกกว่าการนำเข้า





วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

กองทัพบก โดย ผบ.บก.ควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมใจต้านภัยหนาว ช่วยเหลือประชาชนผู้สูงอายุและผู้ยากไร้ในพื้นที่

ที่ศาลาประชาคม บ้านจอมแจ้ง ต.สีกาย อ.เมือง จ.หนองคาย พันเอกจักรพงษ์ โพธิ์นาแค ผู้บังคับการ กองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พร้อมด้วยประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา กรมทหารราบที่ 13 ร่วมมอบผ้าห่มกันหนาวให้กับประชาชนในพื้นที่ชายแดนที่อยู่ในความรับผิดชอบ ตามโครงการ "กองทัพบก ร่วมใจ ต้านภัยหนาว" นอกจากนี้ผู้บังคับการ กองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรีและคณะ ได้นั่งรถอีแต๊กไปยังบ้านของประชาชน มอบผ้าห่มกันหนาวให้กับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียง จำนวน 5 ราย




ทั้งนี้กองทัพบก โดยผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 13 กองพลทหารราบที่ 3 ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี  มีความห่วงใย พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบขาดแคลนผ้าห่มกันหนาว ตามนโยบาย “กองทัพบก เป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส” จึงได้จัดกิจกรรมช่วยเหลือประชาชน ผู้ประสบภัยหนาว โดยการนำผ้าห่มกันหนาวมามอบให้กับประชาชน ในพื้นที่ประสบภัย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมอบผ้าห่มให้กับประชาชนในพื้นที่ ได้นำไปใช้ประโยชน์เพื่อบรรเทาความหนาวเย็น ตลอดห้วงฤดูหนาวเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อ ผ้าห่มกันหนาว ให้เป็นขวัญและกำลังใจให้กับพี่น้อง และเพื่อเป็นการบูรณาการขอองหน่วยงานในพื้นที่ ในการให้ความช่วยเหลือประชาชน














จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...