ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดหนองคาย ร่วมกับ สนง.ประมงอำเภอท่าบ่อ และอบต.โพนสา ปล่อยกุ้งก้ามกราม 1 แสนตัว เพื่อขยายพันธุ์เพิ่มผลผลิตกุ้งก้ามกรามในแหล่งน้ำสาธารณะของชุมชน

วันที่ 23 มี.ค.2566 ที่หนองสุพรรณ หน้าองค์การบริหารตำบลโพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นางสาวปวีณา ผิวขำ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดหนองคาย , ว่าที่ ร.ต.ภูวเดช กุลรักษา ประมงอำเภอท่าบ่อ , นายอภิสิทธิ์ วงศรีแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพนสา พร้อมคณะผู้บริหาร อบต.โพนสา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมจัดกิจกรรมปล่อยกุ้งก้ามกราม ขนาดไม่ต่ำกว่า 3 เซนติเมตร จำนวน 100,000 ตัว ในโครงการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงเพื่อสร้างรายได้ ภายใต้โครงการบริหารจัดการทรัพยากรประมง ประจำปี 2566 เพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับแหล่งน้ำ โดยชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำ อันก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน ที่จะเป็นแหล่งอาหารโปรตีนสร้างรายได้ต่อไป

สำหรับโครงการบริหารจัดการทรัพยากรประมง เป็นกิจกรรมการเกษตรที่ช่วยให้เกษตรกรได้มีอาหารไว้บริโภค สร้างรายได้เสริม และอนุรักษ์กุ้งก้ามกรามไม่ให้สูญพันธุ์ เนื่องจากแหล่งน้ำที่หนองสุพรรณ มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมกับการเลี้ยงกุ้ง เพื่อขยายพันธุ์และให้มีกุ้งไว้อุปโภคบริโภค อีกทั้งเป็นแหล่งน้ำเก่าแก่ของตำบลโพนสา ซึ่งมีประชาชนใช้ประโยชน์ด้านเกษตรกรรม รวม 4 หมู่บ้าน

สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 42 หนองคาย มอบชุดเครื่องมือพื้นฐานประกอบอาชีพสำหรับผู้มีรายได้น้อย ที่ผ่านการฝึกอบรม โครงการพัฒนาทักษะเฉพาะของแรงงานอิสระยุด 4.0 หลักสูตรฝึกยกระดับฝีมือ สาขาการแปรรูปเนื้อสัตว์และการตลาดออนไลน์

วันที่ 17 มี.ค.2566 ที่ ห้องประชุมเทศบาลตำบลกองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายรัฐศาสตร์ ชิดชู รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธิมอบชุดเครื่องมือพื้นฐานประกอบอาชีพสำหรับผู้ผ่านการฝึกอบรม โครงการพัฒนาทักษะเฉพาะของแรงงานอิสระยุด 4.0 หลักสูตรฝึกยกระดับฝีมือ สาขาการแปรรูปเนื้อสัตว์และการตลาดออนไลน์ ของสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 42 หนองคาย จัดให้มีขึ้น ซึ่งโอกาสนี้ นายชิงชัย ทิพย์สมบัติ  นายกเทศบาลตำบลกองนาง ได้เป็นผู้กล่าวต้อนรับ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงแรงงาน และประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ร่วมในพิธี

นางสาวประภัสสร ประจันตะเสน ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 42 หนองคาย กล่าวว่า  กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 42 หนองคาย ในฐานะหน่วยงานซึ่งมีภารกิจที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาฝีมือแรงงาน และศักยภาพของกำลังแรงงานให้มีฝีมือได้มาตรฐานในระดับสากล มีความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพ ทั้งในเชิงปริมาณ และคุณภาพ จึงได้จัดทำและดำเนินการฝึกอบรมโครงการฯดังกล่าวให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อพัฒนาแรงงานที่มีทักษะพื้นฐานให้เป็นแรงงานที่มีฝีมือ  สอดคล้องกัมาตรฐานอาชีพ/มาตรฐานฝีมือ และจัดหาชุดเครื่องมือพื้นฐานประกอบอาชีพสนับสนุนให้แก่ผู้ผ่านการฝึกอบรมคนละไม่เกิน 4,000 บาท รวมทั้งสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพให้กับแรงงานนอกระบบ และผู้ประกอบอาชีพอิสระ โดยดำเนินการฝึกยกระดับฝีมือ สาขาการแปรรูปเนื้อสัตว์และการตลาดออนไลน์ ระหว่างวันที่ 7 -11 มีนาคม 2566 ณ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยตำบลกองนาง หมู่ที่ 9 อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมและผ่านการฝึกอบรม จำนวน 20 คน

“นายกอภิสิทธ์” เดินหน้ายกระดับ "หาดท่ามะเฟือง" สู่การท่องเที่ยวยั่งยืน พัฒนามาตรฐานและเพิ่มขีดความสามารถทางการท่องเที่ยวของพื้นที่ เตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำคลายร้อน ยาวไปจนถึงสงกรานต์ พร้อมกับการเติบโตของเศรษฐกิจในตำบลโพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

เมื่อช่วงบ่ายของวันทึ 14 มึ ค. 2566 ที่ ริมฝั่งแม่น้ำโขงหาดท่ามะเฟือง หมู่ 6 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายอภิสิทธิ์ วงศรีแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพนสา , นายเอนก บุระพวง  ปลัดอาวุโสอำเภอท่าบ่อ , นางสาวชยชนก จันทวงษ์ ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยผู้แทน บก.ควบคุมที่ 2 กกล สุรศักดิ์มนตรี , ผู้แทนตำรวจ สภ.ท่าบ่อ และคณะผู้บริหาร อบต.โพนสา ร่วมกับแถลงข่าวในการส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยว "หาดท่ามะเฟือง" โดยมึผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร ประชาชน สื่อมวลชน และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมรับฟังในครั้งนี้

นายอภิสิทธิ์ วงศรีแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพนสา กล่าวว่า หาดท่ามะเฟือง ถือเป็นสถานที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับประชาชนชาวตำบลโพนสาเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ได้รับผลกระทบ และสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก กระทั้งเดือนเมษายนปี 65 ที่ผ่านมา ทาง อบต.โพนสาได้ร่วมมือกับทุกถาคส่วน เปิดหาดท่ามะเฟืองรับนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำคลายร้อน โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์ ปรากฏว่ามีผู้คนเดินทางมามากกว่าปกติ ก็เลยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเล่ยน้ำคลายร้อนได้ไม่ทั่วถึง จึงเกิดปัญหาสะท้อนการท่องเที่ยวของหาดท่ามะเฟือง ในเรื่องการขนส่งนักท่องเที่ยวซึ่งต้องตากแดดเป็นเวลานาน เนื่องจากรอที่จะข้ามฝั่งไปเล่นน้ำ และมีการแย่งกันลงหาดแล้วเกิดปัญญามากขึ้น ทั้งแดดก็ร้อนและทั้งเกิดอันตรายต่อผู้ที่มาเที่ยวหาด ซึ่งทางเราได้รับการเตือนจากหน่วยงานที่กี่ยวข้องให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาในการข้ามไปสู่หาดท่ามะเฟืองให้ปลอดภัยขึ้น

นายกอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ปีนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลโพนสา ก็เลยจัดซื้อทุ่นลอยน้ำข้ามจากฝั่งไปยังหาด เพื่อแก้ไขปัญหาในส่วนตรงนี้ รวมทั้งสร้างรายได้ให้กับประชาชน โดยการนั่งเรือท่องเที่ยวชมเกาะ ซึ่งตอนนี้ในเรื่องของการตอบรับยังไม่ดีเท่าที่ควร สำหรับปีที่ผ่านมาถือว่าการท่องเที่ยวหาดท่ามะเฟืองมีผลสำเร็จพอสมควร ส่วนไหนที่ขาดตกบกพร่องเราก็นำมาแก้ไข  ดังนั้นเราจึงได้เล็งเห็นความสำคัญในการจัดระเบียบพื้นที่ชายหาด  ให้มีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเล่นน้ำคลายร้อนในช่วงสงกรานต์เป็นจำนวนมาก  โดยร่วมมือกันจัดทำโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดท่ามะเฟือง  สร้างความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ สร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ ทำให้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น  โดยมีการขยายร้านค้าให้กว้างขึ้น ซุ้มที่นั่งทานอาหารก็มีอยู่ตามปกติ  ซึ่งปีนี้จะพิเศษจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการร้านค้าให้ความสนใจมากขึ้น เช่นปีที่ผ่านมามีแค่ 20-30 ซุ้ม ปีนี้มีมากกว่า 60 ซุ้ม  และบนชายหาดยังมีจุดเช็คอินคือสวนทานตะวัน รวมทั้งมีกิจกรรมการท่องเที่ยวบนเกาะดอนต่ำ ที่สามารถสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้นักท่องเที่ยว สามารถพัฒนาและขับเคลื่อนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่จะดึงดูดและรองรับการเดินทางมาเยือนของนักท่องเที่ยวได้มากขึ้นต่อไป