วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

"หมอชลน่าน" มอบนโยบายสาธารณสุขหนองคาย ยกระดับ 30 บาทพลัส สร้าง Quick win สำเร็จใน 100 วัน

“หมอชลน่าน” รมว.สาธารณสุข ลงพื้นที่ จ.หนองคาย ชี้แจงนโยบายกระทรวงสาธารณสุขและแนวทางบริหาร ยกระดับ 30 บาทพลัส สร้าง Quick Win บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่เป็นรูปธรรมใน 100 วันแรก  พร้อมเดินหน้าพัฒนาโรงพยาบาลทุกแห่งให้เป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะ Smart Hospital รวมทั้งพบปะพี่น้อง อสม. รับปาก จะเร่งดำเนินการเพิ่มค่าป่วยการ อสม. 2,000 บาท ตามนโยบายเดิม


วันที่ 29 พ.ย. 2566 เวลา 14.30 น. ที่ ห้องประชุมอิสานฺฮอลล์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์  ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขและชี้แจงนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข โดยมี นายนวน โทบุตร นายอำเภอท่าบ่อ กล่าวต้อนรับ  พญ.ฤดีมน สกุลคู ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ กล่าวผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลฯ พร้อมด้วยนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นพ.สุรพงษ์ ผดุงเวียง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย  นางสาวชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย เขต 2 พรรคเพื่อไทย นายเอกธนัช อินทร์รอด ส.ส.หนองคาย เขต 3 พรรคเพื่อไทย นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขาธิการ รมว.สาธารณสุข รวมทั้งเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข  เจ้าหน้าที่เขตสุขภาพที่ 8 หัวหน้าส่วนราชการ และผู้เกี่ยวข้องร่วมต้อนรับ



นพ.ชลน่าน รมว.สาธารณสุข ได้กล่าวว่า ทิศทางของกระทรวงสาธารณสุขต่อจากนี้ จะน้อมนำและพัฒนางานสาธารณสุขตามแนวพระราชดำริ และโครงการเฉลิมพระเกียรติของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ รวมถึงยกระดับ 30 บาทพลัส "บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่" เป็นหนึ่งใน Quick Win 100 คือให้เป็นรูปธรรมใน 100 วันแรก ที่กระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดดำเนินการเพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนทุกคน โดยนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของหน่วยบริการทุกระดับทั้งรัฐและเอกชน เพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว และยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับบุคลากรการแพทย์ในการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของประชาชน โดยจะเริ่มดำเนินการใน 4 จังหวัดนำร่องจะใช้บริการได้ทุกเครือข่าย ทั้งรัฐและเอกชน ร้านยา คลินิกที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งภาคเหนือที่ จ.แพร่ ภาคกลาง จ.เพชรบุรี ภาคอีสาน จ.ร้อยเอ็ด และภาคใต้ จ.นราธิวาส





โดย นพ.ชลน่าน ยังเตรียมการสำหรับจังหวัดที่มีความพร้อมในแต่ละเขตสุขภาพ ซึ่งจะขยายต่อไปทุกเครือข่ายเพิ่มขึ้นหลังจากระบบเสถียร โดยเฉพาะข้อมูลดิจิทัล ความปลอดภัยต่างๆ ก็จะสามารถขยายต่อไปได้ไม่ยาก คาดว่าน่าจะใช้เวลา 1 ปีน่าจะได้ทั้งหมด และจะเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของหน่วยบริการโรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ ให้เป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะ Smart Hospital ที่ครอบคลุมการดูแลสุขภาพในทุกมิติ ทั้งการส่งเสริม ป้องกัน รักษา และฟื้นฟูสุขภาพ เพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีของคนไทย ผ่านนโยบาย 13 ประเด็น  โดยโรงพยาบาลแต่ละแห่งจะเข้าสู่แนวทางปฏิบัติ เพื่อเชื่อมโยงฐานข้อมูลนำไปสู่การปฏิบัติภายในปี 2567

 



ซึ่งก่อนที่ นพ.ชลน่าน รมว.สาธารณสุข จะมอบนโยบายฯ ได้เข้าพบปะพี่น้อง อสม. บริเวณลานหน้าทางเข้าของโรงพยาบาลฯ โดยมีนายอภินันท์ อุตมะ ประธานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)  จ.หนองคาย นำพี่น้อง อสม.จาก 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ท่าบ่อ อ.ศรีเชียงใหม่ อ.โพธิ์ตาก และ อ.สังคม จำนวน 1,020 คน ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดย นพ.ชลน่าน ได้กล่าวมอบนโยบายให้พี่น้อง อสม. และเรื่องสวัสดิการเพิ่มค่าป่วยการ อสม. 2,000 บาท ซึ่งจะดำเนินการตามนโยบายเดิม โดยจะเร่งผลักดันให้ เพราะถ้าช้าไปจะไปติดข้อกฎหมายมาตรา 62 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ซึ่งตนรวมทั้ง ส.ส.เอกธนัช อินทร์รอด ส.ส.ชนก จันทาทอง และกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขาฯรมว.สาธารณสุข จะเร่งทำเรื่องนี้อยู่แล้ว อยากให้บุคลากร อสม.ทุกคนทำงานอย่างมีความสุข มีสุขภาพดี ให้เป็นต้นแบบให้กับประชาชน ถ้าผ่านความเห็นชอบแล้ว ก็จะเริ่มจ่ายค่าป่วยการย้อนหลังให้ตั้งแต่เดือนตุลาคม เป็นต้นไป











วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

"พุทรา3รส" จากเกาะดอนกลางน้ำโขงราคาตก

"พุทรา3รส" บนเกาะดอนกลางแม่น้ำโขง  เจอภ้ยแล้ง ฝนตกซ้ำ ผลผลิตออกมาไม่สวย ทำราคาตก แม่ค้ารับซื้อหน้าสวน 70-80 บาท/ถุง แต่ชาวสวนก็พอรับได้


วันที่ 28 พ.ย. 2566 ที่ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านท่ามะเฟือง หมู่ 5 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เกษตรกรชาวสวนได้นำผลผลิตพุทรา3รส  มีรสชาติเปรี้ยว หวาน กรอบ อร่อย ที่เก็บมาจากเกาะดอนแตง ซึ่งเป็นเกาะดอนกลางแม่น้ำโขง มาช่วยกันคัดแยกขนาดและคุณภาพของพุทรา ก่อนบรรจุใส่ถุง ๆ ละ 10 กิโลกรัม ก่อนส่งขายให้พ่อค้าแม่ค้าที่จะมารับซื้อถึงหน้าสวน โดยส่วนหนึ่งจะส่งขายให้โรงงานพลไม้ดอง ถุงละ 70 บาท ส่วนหนึ่งพ่อค้าแม่ค้าจะส่งขายที่ตลาดไท และจังหวัดราชบุรี ถุงละ 80 บาท



น.ส.สุชาดา โคติเวช ผู้ใหญ่บ้านท่ามะเฟือง หมู่ 5 ต.โพนสา กล่าวว่า ราคาพุทราปีนี้ตกอยู่ที่ 70-80 บาท/ถุง ซึ่งท่าส่งขายตลาดจะราคา 80 บาท/ถุง แต่ส่งขายให้โรงงานพลไม้ดอง จะราคา 70 บาท/ถุง  และพ่อค้าคนกลางจะรับซื้อในราคา 70 บาท/ถุง ซึ่งพุทราบนเกาะดอนแตงปีนี้มีผลผลิตออกมาไม่มากเหมือนปีก่อนๆ เพราะเจอปัญหาภัยแล้ง แล้วมาเจอฝนอีกช่วงหนึ่ง และก็มาแล้งอีก ทำให้พุทราผิวจะไม่สวยงาม แต่ราคานี้ชาวสวนก็พอรับได้  ถึงแม้จะขายได้ราคาไม่ดีเหมือนปีที่ผ่านๆ ซึ่งมีราคาที่ถุงละ 120-150 บาท 



ผู้ใหญ่บ้านท่ามะเฟือง กล่าวอีกว่า พื้นที่เกาะดอนต่ำจะมีประมาณ 2,000 กว่าไร่  ซึ่งเป็นเขตแดนของประเทศไทย เกษตรกรชาวบ้านท่ามะเฟือง ได้ปลูกพืชผลไว้หลายอย่าง เช่น พริก มะเขือ ข้าวโพด และพุทรา ที่เป็นพืชหลักในการปลูกบนเกาะของชาวบ้านท่ามะเฟือง ซึ่งวันนี้มีแม่ค้ามารับซื้อ 8-9 ตัน ตกตันละ 7,000 บาท สร้างรายได้ให้เกษตรกรกว่า 60,000 - 70,000 บาท / รอบเก็บผลผลิต โดยหนึ่งสัปดาห์จะเก็บอยู่ 2 รอบ แต่ท่าผลผลิตออกเยอะ ก็จะเก็บขายได้ 3 รอบ/สัปดาห์











การประชุมเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขงบ้านท่ามะเฟือง จ.หนองคาย

อบต.โพนสาร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้นำท้องที่/ท้องถิ่น ประชาชน จัดการประชุมเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง และการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งบนเกาะตอนต่ำ


วันที่ 28 พ.ย. 2566 ที่ ห้องประชุมมะเฟืองคำ องค์การบริหารส่วนตำบลโพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายอภิสิทธิ์ วงศรีแก้ว นายก อบต.โพนสา ,  นายภัสพล กั้งโสม ปลัดอำเภอท่าบ่อ , พ.จ.ท.เฉลิมพล ว่องชิน เจ้าพนักงานที่ดิน จ.หนองคาย สาขาท่าบ่อ ,  น.ส.มณีรัตน์ บุญอำนวยโชค นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาหนองคาย , นายก้าน โคตรชมภู โยธาและผังเมืองจังหวัดหนองคาย , รท.สมฤทธิ์ สนธิหา นายทหารฝ่ายยุทธการและการข่าว บก.ควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี ,  พระครูสุธรรมวรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดศรีสุธรรม , พระวิวัฒน์ชัย รักษาการเจ้าอาวาสวัดดอกแก้วบัวบาน , ตัวแทนบริษัท ไทยวัตน์วิศวการทาง จำกัด พร้อมผู้บริหาร อบต โพนสา , หัวหน้าส่วนราช ,กำนัน ,ผู้ใหญ่บ้าน ,ส.อบต.โพนสา , จนท.อบจ.หนองคาย, จนท.อบต.โพนสา, ผู้ประกอบการร้านค้า/ร้านอาหาร , ผู้ประกอบการหัองพัก/ห้องเช่า , ประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้อง  ร่วมกันประชุมเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง จุดก่อสร้างหมู่ 4 หมู่ 5 และหมู่ 6 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ เป็นการก่อสร้างยื่นออกไปจากจุดเดิมออกไป 12 เมตร ระยะทางยาว 880 เมตร งบประมาณในการก่อสร้าง 108,850,000 บาท เริ่มสัญญาจ้างวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 และกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 รวมระยะเวลาก่อสร้าง 750 วัน



นอกจากนี้ยังได้ประชุมเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งบนเกาะตอนต่ำ บริเวณท้ายเกาะระยะทาง 500 เมตร ทั้ง 2 ฝั่งท้ายเกาะ รวมระยะทาง 1,000 เมตร ซึ่งเป็นเกาะดอนกลางแม่น้ำโขงของประเทศไทย เพื่อพัฒนาพื้นที่ชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขง ทั้งนี้บริเวณท้ายเกาะดอนต่ำ ประสบปัญหาการกัดเซาะและพังทลายของตลิ่งริมแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงพื้นที่การเกษตรบริเวณท้ายเกาะอาจพังทลายเสียหายได้  อบต.โพนสา ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาและความเสียหายที่เกิดขึ้น จึงได้จัดทำโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งบริเวณท้ายเกาะดอนต่ำขึ้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขงในพื้นที่ดังกล่าวแล้วเสร็จ จะสามารถช่วยลดความเสียหาย ป้องกันการพังทลายของพื้นที่ตลิ่งบริเวณริมแม่น้ำโขง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อีกทั้งยังสามารถเสริมสร้างภูมิทัศน์ที่ดีให้กับพื้นที่โดยรอบด้วย



















จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...