วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ุหนองคาย - ชาวบ้านเดือด! รวมตัวโวยขับไล่ผู้ใหญ่บ้านขายไม้ศาลาการเปรียญไม่โปร่งใส ส่อทุจริต เรียกร้องให้พ้นจากตำแหน่ง ฐานไม่ทำการประชาคมให้ทั่วถึง ทั้งเงินที่ได้มาไม่นำเข้าธนาคาร ด้านผู้ใหญ่บ้าน ยันทุกอย่างทำถูกต้องโปร่งใส ยอมรับว่าพลาดที่ไม่ถามความพึงพอใจของชาวบ้านของเงินประมูล ก่อนขาย


     วันที่ 4 มิ.ย. 62 กลุ่มชาวบ้านกว่า 30 คนในพื้นที่บ้านสามขา หมู่ 6 ตำบลกองนาง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ได้รวมตัวกันที่บริเวณวัดศรีชมชื่น หมู่ 6 บ้านสามขา ตำบลกองนาง เพื่อสอบถามผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบัน เนื่องจากเห็นว่า มีพฤติกรรมขาดการเป็นผู้นำ โดยกล่าวหาว่า ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว ขายไม้ของศาลาการเปรียญวัดศรีชมชื่นไม่โปร่งใส ถือโอกาสทำการประชาคมชาวบ้านกับผู้สูงอายุขณะที่มารับเบี้ยยังชีพ โดยไม่ทำการประชาคมกับชาวบ้านทั่วไป และส่อทุจริตต่อหน้าที่ เช่น การประมูลที่ผู้รับเหมาประมูลมา 150,000 บาท ไม่มีการสอบถามความพึงพอใจกับชาวบ้านก่อนตัดสินใจขาย และเงินที่ได้มากลับไม่นำเข้าธนาคาร แต่กลับให้ผู้เฒ่าผู้แก่สองคนเป็นผู้เก็บเงิน จึงอยากให้ผู้ใหญ่บ้านพ้นจากตำแหน่ง




      นายสมศักดิ์ มณีรัตน์ แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา ได้เกิดพายุพัดถล่มบ้านสามขาเสียหายทั้งหมู่บ้าน รวมทั้งศาลาการเปรียญวัดศรีชมชื่นด้วย ซึ่งศาลาวัดทางชาวบ้านได้ตกลงจะขายเฉพาะส่วนบนที่เป็นไม้ แต่ปรากฏว่าผู้ใหญ่บ้าน คือ นางเหมรัตน์ มณีรัตน์ เป็นคนไปติดต่อผู้ซื้อ และก็มาทำการรื้อ แต่เวลาที่เซ็นทำสัญญากันมาเซ็นเวลากลางคืนเรื่องการซื้อขาย และเวลามารื้อถอนก็รื้อหมดเลย พวกผมและชาวบ้านก็รอถามว่าหลังจากรื้อถอนทำไมไม่ชี้แจง  และชาวบ้านก็เริ่มที่จะไม่พอใจแล้ว จึงตัดสินในร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอท่าบ่อ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา  "ในข้อหาไม่โปร่งใส' เพราะว่าคุณไม่ประชาคมชาวบ้านทั้งหมด แต่ทำการประชาคมเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่มารับเบี้ยยังชีพ แล้วกึทำการสอบถามผู้สูงอายุว่ามีใครเห็นดีด้วยไหมในการขายศาลาฯ ก็เลยพากันยกมือเอาเฉพาะผู้สูงอายุที่บางคนก็หูไม่ดี บางคนเห็นเขายกก็ยกตาม ซึ่งผู้ใหญ่บ้านไม่เคยคิดจะมาสอบถามกลุ่มพวกผมเลย ก็เลยทำการฟ้องผู้ใหญ่บ้านคนนี้ในข้อหา "มีพฤติกรรมไม่โปร่งใส ส่อไปในทางสุจริต และก็ขอให้พ้นจากตำแหน่ง" ซึ่งกำลังรอการตอบรับจากทางอำเภอว่ามีการตอบรับออกมาเป็นอย่างไร  ซึ่งหลังจากที่ขายศาลาไปเป็นเงิน 150,000 บาท บอกว่าเงินที่ได้มาไปฝากไว้กับผู้เฒ่าผู้แก่ของหมู่บ้าน สัญญาซื้อขายพวกผมก็ยังไม่เคยเห็น เพราะว่าผู้ใหญ่บ้านไม่ประกาศแจ้งอะไรเลย ซึ่งก็อยากจะทราบว่าสัญญาณนั้นได้เขียนไว้ว่าอย่างไร ชาวบ้านไม่รู้เรื่อง พอมาทำการรื้อถอนก็มาทำการรื้อถอนหมด แม้แต่วงกบประตูหน้าต่างอลูมิเนียม และหน้าต่างประตูกระจกชั้นล่างก็ถูกผู้รับเหมารื้อไปหมด ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เข้าใจว่าจะขายแต่ไม้ที่อยู่ชั้นบนแค่นั้น ส่วนเงินที่ได้มาขาวรู้สึกตืดใจกันหมด ว่ากันว่ามีเงินเท่าไหร่ จำนวนเท่าไหร่ แต่เห็นผู้ใหญ่บ้านได้ชี้แจงว่าเงินได้ฝากไว้กับผู้เฒ่าผู้แก่ ก็สงใสว่าทำไมไม่เอาไปฝากธนาคารเพื่อที่จะได้ดอกเบี้ย ซึ่งเท่านี้เราก็เสียโอกาสไปแล้ว ท่าฝากไว้กับผู้เฒ่าดอกเบี้ยก็ไม่เกิด ซึ่งก็ถือว่าผิดอีกเรื่องหนึ่งคือ "เรื่องการเงิน" ถือว่าไม่โปร่งใส ทำไมถึงต้องไปฝากไว้กับคนแก่ ซึ่งหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านต้องรับผิดชอบเรื่องของบัญชีรายจ่ายของวัด นี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะว่าไม่โปร่งใส พฤติกรรมของผู้ใหญ่บ้านดูกำกวมไปหมด เขาเรียกว่าลุแก่อำนาจ คืออยากทำอะไรก็ทำ อยากขายอะไรก็ขายไป ไม่สนใจคนอื่น ท่าไม่มีเรื่องราวก็จะไม่มาสนใจชาวบ้าน





      ด้านนางเหมรัตน์ มณีรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านสามขา ที่เป็นผู้ถูกกล่าวหา ได้กล่าวว่า ในที่ประชุมการขายศาลา   คือขายศาลาทั้งหลัง ไม่ได้แยกว่าขายแต่ไม้ ซึ่งในที่ประชุมไม่ได้ยกมือบอกว่าจะขายเฉพาะชั้นบน แต่เป็นการบอกชาวบ้านว่าเป็นการขายศาลา ซึ่งตอนนี้ยังมีชาวบ้านยังไม่เข้าใจ เพราะที่ประชุมได้บอกขายศาลาแล้วก็ทำการสร้างใหม่ แต่ชาวบ้านเข้าใจว่าขายเฉพาะชั้นบน แต่การทำประชาคมคือขายศาลาทั้งหลัง ซึ่งขายทั้งหลังก็ต้องรวมวงกบประตูหน้าต่างอลูมิเนียมด้วย คือคนที่มาซื้อศาลาท่าเขาไม่ได้กำไรหรืออันไหนที่เขาจะขายได้ เขาถึงมาตีราคา ซึ่งก็มีผู้มาตีราคาหลายเจ้า แต่เจ้าหนี้เขาให้ราคาสูง อลูมิเนียมก็อยู่ในศาลา เขาก็เอาไปทั้งหมด เพราะขายทั้งศาลา เพื่อที่จะทำศาลาขึ้นมาใหม่ ท่าทำใหม่ก็ทำทรงใหม่และเอาวัสดุอุปกรณ์ใหม่มาทำศาลาหลังใหม่แทนหลังเก่าที่พัง ท่าปล่อยไว้ใครจะเป็นคนเก็บไว้เพราะต้องทำใหม่หมด เปรียบเทียบเหมือนการไปซื้อลูกชิ้นที่เสียบไม้ขาย แล้วคนขายจะไม่ให้ไม้ติดไปด้วยหรือไม่ ซึ่งในที่ประชุมก็ประชุมเพื่อขายศาลา ไม่ได้ว่าขายแต่ไม้ชั้นบน ซึ่งเวลาประชุมก็ประกาศประชาสัมพันธ์ให้ลูกบ้านทราบทุกครั้ง ซึ่งเป็นการประชุมประจำเดือน ว่าวันนี้มีการประชุมในการบูรณาการของหมู่บ้าน ซึ่งก็มีแต่ผู้สูงอายุมา ส่วนคนทั่วไปก็ไม่เห็นมา ซึ่งตอนที่ผู้รับเหมามาทำการประมูลนั้น ตนยอมรับว่า "ไม่ได้แจ้งกับชาวบ้านว่ามีความพึงพอใจกับราคาที่ผู้รับเหมามาตีราคาหรือไม่" อันนี้ตนยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของตน แต่ได้พูดกับผู้เฒ่าผู้แก่ที่วัด ก็ได้รับคำตอบว่าขายได้แล้วก็แล้วไป ซึ่งวันนั้นหอกระจายข่าวสายขาดเนื่องจากเกิดพายุ จึงยังไม่ได้ต่อสายใหม่ แม้แต่บ้านผู้ใหญ่บ้านก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน ซึ่งการพูดคุยนั้นทางเจ้าอาวาสก็รับรู้ทุกอย่าง และเจ้าอาวาสก็บอกจะช่วยแจ้งให้ชาวบ้านทราบขณะที่ชาวบ้านมาทำบุญ ส่วนเงินที่ได้มาแล้วเอาไปฝากกับผู้เฒ่าผู้แก่สองคนก็ไม่ใช่คนอื่นไกล แต่เป็นคณะกรรมการวัด ทำไมถึงยังไม่นำเงินเข้าธนาคาร ก็เพราะนอกจากศาลาการเปรียญของวัดจะเสียหายแล้ว ก็ยังมีกุฏิพระ อุโบสถวัดก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน จึงต้องนำเงินส่วนนี้ซื้ออุปกรณ์ก่อสร้างมาทำการซ่อมแซม เหลือเท่าไหร่ก็จะฝากธนาคาร ซึ่งเป็นการเบิกจ่ายกันง่าย และการเบิกจ่ายแต่ละครั้งมีหลักฐานชัดเจน ตนยืนยันว่าทุกอย่างที่ทำนั้นถูกต้อง ทำกันง่ายๆแบบที่ชาวบ้านทำกัน แต่ท่าได้เงินมาแล้วเอาเข้าธนาคารก็ต้องมีคณะกรรมการเซ็นรับรองการเบิกถอน ต้องใช้เวลานาน เพราะนี่เป็นกรณีการเบิกจ่ายฉุกเฉินเพื่อความรวดเร็วในการทำนุบำรุงวัด





      ด้านนายอนุพงศ์ พานารัตน์ ปลัดอำเภอปฎิบัติหน้าที่ประจำศูนย์ดำรงธรรมอำเภอท่าบ่อ กล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบตามข้อร้องเรียนของชาวบ้านที่ร้องไปยังศูนย์ดำรงธรรม เพื่อเก็บข้อมูลส่งรายงานไปยังนายอำเภอท่าบ่อ เบื้องต้นทั้งสองฝ่ายยังไม่มีข้อยุติ โดยจะทำการเรียกทั้งสองฝ่ายมาทำการประชุมหาข้อยุติอีกครั้งต่อไป

       ทั้งนี้การทำสัญญาการซื้อขายศาลาเมื่อวันที่  5 พฤษภาคม 2662 ระหว่างนางเหมรัตน์ มณีรัตน์ กับผู้รับซื้อที่อยู่ในพื้นที่ตำบลหายโศก อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งทั้งสองคนตกลงทำสัญญากัน คือ ผู้ขายตกลงขายและผู้ซื้อตกลงซื้อศาลาวัดหลังไม้หลังคาเปิดวัดศรีชมชื่น บ้านสามขา หมู่ 6 ตำบลกองนาง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย โดยการทำสัญญาผู้ซื้อได้มัดจำค่าซื้อ 5,000 บาท ส่วนที่เหลือ 145,000 บาท จะจ่ายให้ครบในวันรื้อเอง ซึ่งมีพยานเซ็นรับทราบสี่คน




วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2562

หนองคาย - อำเภอศรีเชียงใหม่ จัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี


     วันที่ 3 มิ.ย. 62 เวลา 19.00 น. ที่หอประชุมเทสรังสีอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย นายวรรณพล ต่อพล นายอำเภอศรีเชียงใหม่ เป็นประธานนำหัวหน้าส่วนราชการและประชาชน เข้าร่วมในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในวันเฉลิมพรัชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้า สุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี



      โดยนายอำเภอศรีเชียงใหม่ได้ถวายความเคารพ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ถวายเครื่องราชสักการะ(พานพุ่มเงิน พุ่มทอง) เป็ดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ ถวายความเคารพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ผู้ร่วมพิธีจุดเทียนต่อจากประธานในพิธี นายอำเภอศรีเชียงใหม่นำกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพรชัยมงคล จากนั้นดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี





      สมเด็จพระนางเจ้า สุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ.2521 ทรงสำเร็จการศึกษาระดับชั้นปริญญาตรีนิเทศศาสตรบัณฑิต คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เมื่อปี พ.ศ. 2543 โดยเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชินี ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน และเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาพระอิสริยยศขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี





หนองคาย - ผู้ว่าฯจังหวัดหนองคายนำหัวหน้าส่วนราชการพร้อมพสกนิกรชาวหนองคายร่วมตักบาตรถวายพระราชกุศลและลงนามถวายพระพร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ประจำปีพุทธศักราช 2562


วันที่ 3 มิ.ย. 62 เวลา 07 .00 น. ที่บริเวณแลนมาร์คพญานาคคู่ หน้าวัดลำดวน เขตเทศบาลเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย พระเทพกิตติมุนี เจ้าอาวาสวัดศรีสะเกษ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย ประธานฝ่ายสงฆ์ นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ได้นำข้าราชการ ตุลาการ อัยการ ทหาร ตำรวจ นายกเหล่ากาชาด หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ประชาชนชาวจังหวัดหนองคาย ผู้ว่าราชการฯได้ทำพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จากนั้น พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ เมื่อเสร็จพิธี พระสงฆ์ออกรับบิณทบาตร ข้าวสารอาหารแห้งจำนวน 41 รูป





เวลา 09.00 น ที่หอประชุมประจักษ์ศิลปาคม ผู้ว่าราชการฯได้นำข้าข้าราชการ ตุลาการ อัยการ ทหาร ตำรวจ นายกเหล่ากาชาด หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภัคดี ของประชาชนชาวจังหวัดหนองคาย



จากนั้น นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้ประกอบกิจกรรมจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจทำความสะอาดบริเวณรอบศูนย์ราชการโดยมีพี่น้องจิตอาสาจากทุกองค์กรมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก






หนองคาย - นายอำเภอศรีเชียงใหม่ นำพสกนิกรทุกหมู่เหล่าตักบาตรพระสงฆ์ 41 รูป วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี



     วันที่ 3 มิ.ย. 62 เวลา 07.30 น. ที่หอประชุมเทสรังสีอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย นายวรรณพล ต่อพล นายอำเภอศรีเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ สามเณร 41 รูป เพื่อถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประจำปีพุทธศักราช 2562 โดยมีส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชนชาวอำเภศรีเชียงใหม่ เข้าร่วมงาน







หนองคาย - ประชาชนจิตอาสาชาว อ.ศรีเชียงใหม่ ร่วมกันปลูกป่าและหญ้าแฝก เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2562


      วันที่ 3 มิ.ย. 62 ที่สำนักสงฆ์ป่าห้วยช้างเผือก ตำบลพระพุทธบาท   อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย นายวรรณพล ต่อพล นายอำเภอศรีเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดกิจกรรม"จิตอาสาปลูกป่าและหญ้าแฝก" เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2562




      นายวรรณพล ต่อพล นายอำเภอศรีเชียงใหม่ กล่าวว่า กิจกรรม"จิตอาสาปลูกป่าและหญ้าแฝก" เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ประจำปีพุทธศักราช 2562 วันที่ 3  มิถุนายน 2562 เพื่อเป็นการร่วมแสดงความจงรักภักดี และปราบปลื้มปิติ ชื่นชมในโสมนัสในพระบุญบารมี ที่ทรงได้รับสถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศสมบูรณ์ตามโบราณราชประเพณี ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมสาธารณประโยชน์  และที่สำคัญเป็นการสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนทุกคน ทุกฝ่าย ต่างตระหนักและให้ความสำคัญในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติในถิ่นฐานที่อยู่ของตนเอง








      สำหรับการดำเนินกิจกรรมครั้งนี้ อำเภอศรีเชียงใหม่ ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ ร่วมกันปลูกป่าและหญ้าแฝก เพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ จำนวน 20,000 กล้าในพื้นที่ลาดชันของฝายน้ำล้นห้วยช้างเผือก โดยได้รับการสนับสนุนกล้าหญ้าแฝกจากสถานีพัฒนาดินหนองคาย และปลูกต้นจันทน์ผา ต้นประดู่ ต้นยางนา และต้นตะเคียนทอง อีกจำนวน 600 ต้น ซึ่งมีทั้งปลูกใหม่และปลูกซ่อมที่เดิม โดยได้รับการสนับสนุนพันธุ์ต้นไม้จากโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำทอน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ นอกจากนี้สำนักงานเกษตรอำเภอศรีเชียงใหม่ ยังได้สนับสนุนพันธุ์ลีลาวดีอีกจำนวน 200 ต้นด้วย








จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...