เทศบาลตำบลกองนาง จ.หนองคาย จัดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2566 มุ่งอนุรักษ์และสืบสานประเพณีอันดีงาม กระตุ้นเศรษฐกิจภายในชุมชน ในงานมีจุดถ่ายรูป 2 จุด มีพิธีทางศาสนา รำบวงสรวงถวายพระแม่คงคา และบูชาขอขมาพระแม่คงคา 

เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 27 พ.ย. 2566 ที่ เวทีริมฝั่งแม่น้ำโขง หน้าวัดปากท่อ หมู่ 1 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายชิงชัย ทิพย์สมบัติ นายกเทศมนตรีตำบลกองนาง เป็นประธานในพิธิเปิดงานประเพณีลอยกระทง เทศบาลตำบลกองนาง ประจำปี 2566 โดยมีจ่าเอก อดิศักดิ์ ธรรมวงษา หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาล รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองการศึกษา กล่าวรายงาน พร้อมคณะผู้บริหารเทศบาลฯ สมาชิกสภา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พนักงาน ลูกจ้าง เด็ก เยาวชน และประชาชนชาวตำบลกองนาง ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ เพื่ออนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีลอยกระทงให้คงอยู่สืบต่อไป เพื่อให้เด็ก เยาวชน และประชาชน ตระหนักในความสำคัญเห็นคุณค่า วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทย รวมทั้งเสริมสร้างความสมัครสมานสามัคคีภายในชุมชน ตลอดทั้งจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในชุมชน

ภายในงานมีกิจกรรมพิธีทางศาสนา เจริญพระพุทธมนต์ พิธีรำบวงสรวงถวายพระแม่คงคา พิธีบูชาขอขมาพระแม่คงคา และกิจกรรมการแสดงของชุมชนตำบลกองนาง โดยมีจุดถ่ายรูปใหญ่ 2 จุด ได้แก่ ซุ้มโคมยี่เป็ง และซุ้มบันไดทางลงไปลอยกระทง โดยมีเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ คอยอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ทางคณะกรรมการหมู่บ้านได้ร่วมแรงร่วมใจจัดทำกระทงต้อนรับในวันลอยกระทง ให้ประชาชนได้มาร่วมบุญกันแล้วแต่ศรัทธา ซึ่งรายได้จะนำไปมอบให้วัดปากท่อ โดยไม่หักค่าใช้จ่าย

ครูแดงบ้านศิลป์ไทย พาเด็กๆ เข้าค่ายศิลปะการเกี่ยวข้าว เรียนรู้การใช้ชีวิตตามวิถีชาวนาไทย

ชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย จ.หนองคาย จัดกิจกรรม “ค่ายศิลปะการเกี่ยวข้าว" พาเด็กๆ สืบสานประเพณีไทยควบคู่กับการใช้ชีวิตตามวิถีชาวนาไทย

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2566 ที่ บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายประเวศ  สีปานแก้ว ปศุสัตว์อำเภอท่าบ่อ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม "ค่ายศิลปะการเกี่ยวข้าว"  ของนายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์ หรือ ครูแดงบ้านศิลป์ไทย ประธานชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย พร้อมด้วยนายทศพล ธรรมเรืองฤทธิ์ (ครูสดใส) และนางนุชนาฎ ธรรมเรืองฤทธิ์ (ครูน้อย) จัดให้มีขึ้น เพื่อให้เด็กและผู้ปกครองได้สัมผัสกับบรรยากาศของท้องทุ่งนาและบูรณาการศิลปะเข้าด้วยกัน เพื่อสืบสานประเพณีไทยควบคู่กับการใช้ชีวิตตามวิถีชาวนาไทย ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นเป็นค่ายลำดับที่ 87 มีผู้ปกครองส่งบุตรหลานอายุ 4-12 ปี เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 11 คน

กิจกรรมนอกจากจะพาเด็กๆ ลงแขกเกี่ยวข้าว แล้วยังให้เด็กๆได้เรียนรู้วิถีชาวนาดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นการตีข้าว , การวีข้าว , การตำข้าว , การฟาดข้าว รวมทั้งการประกอบอาหารจากข้าว เช่น ปิ้งข้าวเกรียบว้าว เรียนรู้และชมการสาธิตการทอดข้าวแต๋นพร้อมชิมกันสดๆร้อนๆ  เรียนรู้การทำข้าวหลามพร้อมชิม เรียนรู้การทำข้าวเม่าพร้อมชิม และยังให้เด็กๆ สนุกสนานกับการแข่งขันเป่าปี่จากต้นข้าว ต่อด้วยการวาดภาพระบายสี พร้อมรับรางวัลผู้มีผลงานสร้างสรรค์และสวยงาม

ครูแดงบ้านศิลป์ไทย กล่าวว่า ได้มองเห็นความสำคัญของศิลปะและขนบธรรมเนียมประเพณีวิถีชาวนา จึงได้จัดค่ายศิลปะการเกร่ยวข้าวขึ้น เพื่อให้เด็กและผู้ปกครองได้สัมผัสกับบรรยากาศของท้องทุ่งนา ศึกษาเรียนรู้ขั้นตอนของการทำนาและบูรณาการศิลปะเข้าด้วยกัน เป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม พร้อมศึกษาวิถีชีวิตของเกษตรกรในการทำนาปลูกข้าว อีกด้วย