วันที่ 25 ต.ค. 62 ที่ลานวัฒธรรมริมน้ำโขง อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย นายภาณุวัชร์ อันสนธิ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน ได้จัดกิจกรรมการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ลุ่มน้ำโขงจังหวัดน่าน ภายใต้ชื่องาน “มหัศจรรย์นันทบุรี วิถีชาติพันธุ์ เชื่อมสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขง” ตาม โครงการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกลุ่มชาติพันธุ์ลุ่มน้ำโขง โดยมีนายวิบูรณ์ แววบัณฑิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดงาน มีนายสุชน ภัยธิราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวต้อนรับ
นายภาณุวัชร์ อันสนธิ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน กล่าวว่า จากการที่รัฐบาล มีนโยบายผลักดันให้ประเทศเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ ประกอบกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 เป็นต้นมา ซึ่งจะขยายโอกาสทางการตลาดของการท่องเที่ยวในจังหวัดน่านได้ดีมากยิ่งขึ้น สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่านจึงได้จัดทำโครงการ "ท่องเที่ยวเชื่อมโยงกลุ่มชาติพันธุ์ลุ่มน้ำโขง" ขึ้น เพื่อเพิ่มพูนขีดความสามารถแก่ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดน่าน โดยมุ่งเน้นกิจกรรมที่เพิ่มพูนทักษะขีดความสามารถของผู้ประกอบการในห่วงโซ่กิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ทั้งในด้านการตลาดการยกระดับมาตรฐานของการบริการให้เป็นที่ยอมรับ อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายทางกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวในจังหวัดน่านอีกด้วย
สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเป็นการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มชาติพันธุ์จังหวัดน่าน, ส่งเสริมอัตลักษณ์อันโดดเด่นทางวัฒนธรรม, สนับสนุนการท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมชาติพันธุ์ให้เป็นที่รับรู้ รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ด้านการท่องเที่ยวและเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชนในจังหวัดน่าน งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 21.00 น ณ ลานวัฒธรรมริมน้ำโขง อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย
กิจกรรมประกอบด้วย การจัดแสดงและ_จำหน่ายสินค้ากลุ่มชาติพันธุ์ลุ่มน้ำโขง กลุ่มชาติพันธุ์ จังหวัดน่าน ตลอดจนสินค้าวิสาหกิจชุมชนสินค้าโอท็อป รวมทั้งสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดน่าน การจัดแสดงนิทรรศการวิถีชีวิตและแหล่งท่องเที่ยวกลุ่มชาติพันธุ์ลุ่มน้ำโขงจังหวัดน่าน การแนะนำสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรโดยชุมชน และการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกลุ่มชาติพันธุ์ลุ่มน้ำโขงจังหวัดน่าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง ตลอดจนการแสดงดนตรีและมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินนักร้องที่มีชื่อเสียง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น