จังหวัดหนองคาย แถลงข่าวการจัดงาน Mekong Business Forum & Trade Show 2018 ดันเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง

       วันที่ 5 ก.ย. 2561 ที่ห้องประชุมโรงแรมรอยัลนาคารา อำเภอเมืองหนองคาย ได้จัดแถลงข่าวการจัดงาน Mekong Business Forum & Trade Show 2018 ดันเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง  โดยมีนายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นางชลทิชา ลัดดาวัลย์ พาณิชย์จังหวัดหนองคาย และนางสาวแสงทิวา ทองอู่ฉาน รองประธานสภาหอการค้าจังหวัดหนองคายฝ่ายต่างประเทศ ได้ร่วมกันแถลงข่าว

        นายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อทำให้การค้าในภูมิภาคก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงสู่การแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ  และเป็นการเพิ่มศักยภาพการค้า การลงทุนตามแนวชายแดน และเป็นโอกาสที่ดีที่จะขยายเศรษฐกิจระหว่างประเทศให้เติบโตขึ้น  สำหรับการประชุม Business Forum ว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ประกอบด้วย หนองคาย นครพนม และมุกดาหาร กับประเทศเพื่อนบ้าน กลุ่มประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง กลุ่มประเทศ CLMV ประกอบด้วย กัมพูชา, ลาว, เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการค้า การลงทุนตามแนวชายแดน เชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งจะสามารถสร้างเครือข่าย ความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน สร้างโอกาสทางการค้า แสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจและสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน

       นางชลทิชา ลัดดาวัลย์ พาณิชย์จังหวัดหนองคาย กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ นับเป็นโอกาสที่ดี ที่จะขยายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ นอกจากนี้ภายในงาน Mekong Business Forum & Trade Show 2018 ยังมีการจัดงาน  Trade Show ออกร้านจำหน่ายสินค้า กว่า 200 ร้านค้า และการแสดงศิลปวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ 6-10 ก.ย. 61 ณ ลานวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ข้างศาลากลางจังหวัดหนองคายหลังเดิม อำเภอเมืองหนองคาย

       ด้าน นางสาวแสงทิวา ทองอู่ฉาน รองประธานสภาหอการค้าจังหวัดหนองคาย ฝ่ายต่างประเทศ กล่าวว่า ทางหอการค้าได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ประกอบการในจังหวัด และจังหวัดใกล้เคียง มาร่วมงานเพื่อพบปะแลกเปลี่ยนการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ขณะนี้มีนักธุรกิจตอบรับเข้าร่วมจำนวนมาก หากสามารถพูดคุยและทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันได้  จะเป็นการสร้างโอกาสทางการค้า การลงทุน สร้างเครือข่าย และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มขึ้น

“ชงหน้าหยก”...ชาวหนองคาย ต้อนรับฮีโร่ 2 เหรียญทองเซปักตะกร้อ เอเชี่ยนเกมส์ 2018

        วันนี้ (5 ก.ย. 2561) ที่พระอุโบสถ วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง อำเภอเมืองหนองคาย คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองหนองคาย ได้นำนายอัษดิน วงศ์โยธา หรือ ซีแมน (Zee man) ฉายาในวงการ “ชงหน้าหยกยอดเยี่ยมประเทศไทย” นักตะกร้อทีมชาติไทย 2 เหรียญทองเซปักตะกร้อทีมชุดใหญ่ และตะกร้อคู่ Double team เอเชี่ยนเกมส์ จากาตา-ปาเล็มบัง เกมส์ 2018 อินโดนีเซีย ครั้งที่ 18 พร้อม ด้วย นายวีรัส  ณ  หนองคาย และนายกำพล ทัศสิทธิ์  ผู้ฝึกสอนนักกีฬา เข้ากราบนมัสการขอพรองค์หลวงพ่อพระใส และกราบนมัสการพระราชรัตนาลงกรณ์ เจ้าคณะจังหวัดหนองคาย เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย ได้มอบวัตถุมงคลหลวงพ่อพระใสและปะพรมน้ำมนต์ให้กับนักกีฬาผู้ฝึกสอนและคณะ 

       จากนั้น ได้นำนายอัษดิน วงศ์โยธา หรือ Zee man  พร้อมด้วยผู้ฝึกสอน นั่งรถแห่ไปรอบเมืองหนองคาย เพื่อให้ประชาชนชาวหนองคายได้ร่วมแสดงความยินดี และจัดพิธีต้อนรับที่เทศบาลเมืองหนองคาย  โดยมี นายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และนายกำภล เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย คณะผู้บริหาร นักกีฬาเยาวชนจังหวัดหนองคาย และประชาชนชาวหนองคายร่วมต้อนรับและเชิดชูเกียรติ

       โดยนายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ให้กับ Zee man และผู้ฝึกสอน  ต่อจากนั้น ได้จัดให้มีพิธีบายศรีสู่ขวัญให้ นายอัษดิน วงศ์โยธา และผู้ฝึกสอน หลังเสร็จพิธี ได้มีหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน มอบเงินรางวัลเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่นักกีฬาด้วย

       สำหรับ นายอัษดิน วงศ์โยธา เจ้าของฉายา Zee man หรือ ชงหน้าหยกยอดเยี่ยมประเทศไทย เกิดวันที่ 6 มกราคม พ.ศ.2531 อายุ 28 ปี เป็นคนหนองคายโดยกำเนิด เริ่มติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ในปี 2553 ในรายการคิงส์คัพ world championships sepaktakraw ชิงถ้วยพระราชทาน ถือเป็นนักกีฬาเซปักตะกร้อชาวหนองคายที่ได้สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา  ล่าสุดมีผลงานโดดเด่นได้รับ 2 เหรียญทองเซปักตะกร้อ จากการแข่งขันกีฬา เอเชี่ยนเกมส์ จากาตา-ปาเล็มบัง เกมส์ 2018 อินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 18 สิงหาคม ถึงวันที่ 2 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา ประชาชนชาวจังหวัดหนองคาย ขอแสดงความยินดีกับนักกีฬาและผู้ฝึกสอนที่สร้างชื่อเสียงให้กับชาวหนองคาย และเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชนที่จะนำไปเป็นตัวอย่างที่ดี ในการก้าวไปสู่จุดมุ่งหมายของการเป็นนักกีฬา

เกษตรจังหวัดหนองคาย ฝึกอบรมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการตลาดสินค้าและอุตสาหกรรมที่สำคัญกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาการปลูกพืชสำคัญ และมอบกล้าพันธุ์ทุเรียนให้กับเกษตรกร

       วันนี้ (5 ก.ย. 2561) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย(ศาลากลางหลังเก่า) อ.เมือง จ.หนองคาย นายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนอแงคายเป็นประธานในการเปิด การฝึกอบรมถ่ายทอดความรู้หลักสูตร การปลูกทุเรียนและการขยายพันธุ์ทุเรียน และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการตลาดสินค้าและอุตสาหกรรมที่สำคัญ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรทำการเกษตรที่หลากหลาย เป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการประกอบอาชีพด้านการเกษตรและเป็นการสร้างรายได้ที่ยั่งยืน

       นายร่มไม้ นวลตา เกษตรจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จังหวัดหนองคายมีพื้นที่ไม่เหมาะสมสำหรับการทำนาเป็นจำนวนมาก พื้นที่ส่วนใหญ่ต้องอาศัยน้ำฝนอยู่นอกเขตชลประทาน ส่งผลให้ได้รับผลผลิตข้าวที่ต่ำ อีกทั้งเกษตกรส่วนใหญ่ของจังหวัดหนองคายประกอบอาชีพทำนาเพียงอย่างเดียว ทำให้เกิดความเสี่ยงในการทำเกษตร ดังนั้นการส่งเสริมให้เกษตรกรทำการเกษตรที่หลากหลาย จะเป็นการ ลดความเสี่ยง การปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้นเป็นอีกแนวทางที่จะช่วยให้เกษตรกรสร้างเสริมรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่เกษตรกร

       สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นแนะนำขั้นตอนในการปลูกต้นทุเรียน เพราะว่าทุเรียน เป็นผลไม้ที่มีความต้องการของตลาดสูงทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาระทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ปัจจุบันเป็นที่นิยมของต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน จาการสำรวจของสำนักงานด้านเศรษฐกิจ พบว่าราคาทุเรียนมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเพราะต่างประเทศมีความต้องการผลผลิตเป็นจำนวนมาก

         ทั้งนี้ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายสุชาติ ทีคะสุข  ยังได้มอบกล้าพันธุ์ทุเรียนหมอนทองให้กับเกษตรที่เข้าร่วมการอบรมในครั้งนี้ คนล่ะ 1 ไร่ๆ ล่ะ 25 ต้น จากเกษตรกรทั้ง 9 อำเภอ รวมจำนวน 132 ราย

เทศบาลตำบลกองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เร่งเสริมแนวกระสอบทรายรับน้ำในลำห้วยโมงล้นตลิ่ง ขณะที่เขื่อนห้วยโมง เร่งระบายน้ำในเขื่อน 6 คิว/ชม.ลงน้ำโขง หลังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น

       วันนี้ (5 ก.ย. 2561) ที่ บ้านสามขา หมู่ 6 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เทศบาลตำบลกองนาง ได้ให้เจ้าหน้าที่เทศบาล ร่วมผู้นำหมู่บ้าน/ชุมชน และประชาชนจิตอาสา กรอกทรายใส่กระสอบ เพื่อทำเป็นแนวกำแพงแพงกั้นน้ำในลำห้วยโมง ที่กำลังไหลบ่าเข้าท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้านและไร่นาของเกษตรกรที่อยู่ตอนในของหมู่บ้าน โดยน้ำในลำหวยโมงมีปริมาณสูง 12.17 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 6 เซนติเมตร ปัจจุบันมีปริมาณความจุที่ 47.360 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุเก็บกัก 14.360 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งปริมาณน้ำในเขื่อนห้วยโมงยังเกินความจุเก็บกักที่ 33.000 ล้านลูกบาศก์เมตร

        โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง (เขื่อนห้วยโมง) อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้ทำการเปิดประตูระบายน้ำที่ระบายทั้ง 4 บ้าน 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมเพิ่มการเดินเครื่องสูบน้ำในอาคารควบคุมทั้ง 4 เครื่อง เพื่อช่วยผลักดันน้ำในลำห้วยโมงลงสู่น้ำโขง ในปริมาณ 6 คิวต่อชั่วโมง เฉลี่ยอยู่ที่วันละ 6.7 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อเร่งระบายปริมาณน้ำจากพื้นที่จังหวัดอุดรธานีและหนองบัวลำภูที่ได้ไหลเข้ามาสมทบกับปริมาณน้ำภายในเขื่อน ทำให้ระดับน้ำที่บริเวณเหนือเขื่อน มีระดับที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเพื่อลดปริมาณน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่เกษตร

       ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้รายงานความเสียหายเบื้องต้นจากผลกระทบน้ำในแม่น้ำโขงและน้ำในลำห้วยสาขาของแม่น้ำโขงเอ่อล้นตลิ่ง ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2561 ถึง 4 กันยายน 2561 ในพื้นที่ 4 ตำบล ได้แก่ ต.โพนสา, ต.น้ำโมง, ต.ท่าบ่อ และ ต.บ้านว่าน ยังไม่รวม ต.นาข่า และ ต.กองนาง จำนวน 16 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 58 หลังคาเรือน วัด 2 แห่ง เกษตรกรได้รับผลกระทบ 321 ราย พื้นที่การเกษตรเสียหาย 1,743 ไร่