วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2561
นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย นำคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล เจ้าหน้าที่เทศบาลและจิตอาสาจัดกิจกรรม( Big Cleaning Day)ทำความสะอาดบริเวณตลาดสดโพธิ์ชัยเนื่องในวันครบรอบการเสด็จสวรรคต พระสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ครบ 2 ปี
วันที่ 12 ต.ค. 2561 ที่บริเวณตลาดสดโพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย นายกำภล เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย ,นายบัญชาอาศัยราช เลขานุการนายกเทศมนตรี,นายประสงค์ เรือนสอน รองปลัดเทศบาลเมืองหนองคาย พร้อมด้วยสมาชิกเทศบาลและบุคลากรเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองหนองคายร่วมกันทำความสะอาดตลาดสดโพธิ์ชัย
นายกำภล เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดีในการรักษาความสะอาด อีกทั้งเป็นการความดี ด้วยหัวใจ เนื่องในวันครบรอบการเสด็จสวรรคตของพระสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ครบ 2 ปี นอกจากนั้นยังเป็นการเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาในช่วงเทศกาลออกพรรษาได้เห็นถึงความสะอาดรวมไปถึงรสชาติของอาหารที่ตลาดแห่งนี้
วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2561
ศุลกากรหนองคาย รวบสามชาวลาวลักลอบขนเงินกว่า 38 ล้าน ซุกในตู้ลำโพงรถเก๋ง หวังขนข้ามกลับลาว แต่ไม่รอดสายตาเจ้าหน้าที่
วันที่ 11 ต.ค. 2561 ที่บริเวณด่านพรมแดนศุลกากรไทย - ลาว แห่งที่ 1 อ.เมือง จ.หนองคาย นายกฤษฎา ทองธรรมชาติ ผู้อำนวยการศุลกากรภาคที่ 2, นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมชาวลาว 3 คน พร้อมของกลางธนาบัตรไทย ชนิด 1,000 บาท จำนวน 38 ล้านบาท และรถยนต์โตโยต้า คัมรี่ หมายเลขทะเบียน คว.9889 กำแพงนครหวงเวียงจันทน์ โดยทำการซุกเงินมาในช่องทางลับด้านหลังเบาะที่นั่งหลังรยนต์และช่องลับภายในตู้ลำโพงภายในกระโปรงรถด้านหลังรถยนต์
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรชุดปราบปรามได้เฝ้าติดตามขบวนการลักลอบนำเงินตราออกนอกประเทศโดยผิดกฎหมาย โดยทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวมีการเข้าออกประเทศ จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 20.35 น. วันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา รถยนต์คันดังกล่าวขับเข้ามาบริเวณด่านพรมแดนและกำลังจะเดินทางออกนอกประเทศ เจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงได้เรียกตรวจสอบก็พบของกลางดังกล่าว โดยมีการอำพรางนำเครื่องอุปโภคบริโภควางปกปิดลำโพงในช่องเก็บของกระโปรงหลังรถ
จากการสอบสวนผู้ต้องหา ทั้ง 3 คน ยอมรับสารภาพว่าซุกซ่อนเงินทั้งหมดไว้จริง โดยพวกต้นต่างมีธุรกิจของตนเองซึ่งเงินทั้งหมดได้จากการขายอาหารสดและอาหารแห้ง รวมทั้งทำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราในนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว
นายกฤษฎา ทองธรรมชาติ ผู้อำนวยการศุลกากรภาคที่ 2 กล่าวว่า การลักอบขนเงินออกนอกราชอาณาจักรไทยโดยมีการลักลอบกระทำมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกมีการขนเงินออกนอกประเทศ จำนวน 98 ล้าน ครั้งที่ 2 จำนวน 30 ล้าน และครั้งนี้ได้มีการลักลอบขนออกนอกประเทศอีก จำนวน 38 ล้าน เชื่อได้ว่าเป็นการกระทำโดยเจตนาและมีความผิดตาม มาตรา 166 แห่ง พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 เจ้าของหรือผู้ครอบครองมีความผิดฐานพยายามลักลอบนำเงินตราไทยออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร ตามมาตรา 242 และ มาตรา 252 และ มาตรา 165 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 8 ทวิ พระราชบัญญัติแลกเปลี่ยนเงิน พ.ศ.2485และพระราชบัญญัติแลกเปลี่ยนเงิน(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้ยอมระงับคดีในชั้นศุลกากร โดยจะถูกปรับคนล่ะ 20,000 บาท และทางวศุลกากรจะคืนเงินให้ คนล่ะ 2,000,000 บาท ตามสิทธิและส่วนเงินอีก 32 ล้านบาททางศุลกากรจะได้ยึดพร้อมรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิด
เหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย มอบบ้านผู้ยากไร้เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
วันที่ 11 ต.ค. 2561 นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นางวัชรินทร์ จิตรวิเศษ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยคณะกรรมการ/สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย ห้วหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ประชาชนจิตอาสา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำหมู่บ้าน ลงพื้นที่มอบบ้านโครงการซ่อมแซมบ้านผู้ยากไร้ ส่งเสริมสุขภาพอนามัยและพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยาวรางกูร ประจำปีงบประมาณ 2561 ให้แก่นายขุนแผน จันทาศิริ บ้านเลขที่ 68 หมู่ 11 บ้านโคกบุญสนอง ต.โพนทอง อ.โพธิ์ตาก และนายบุญทัน อรทัย บ้านเลขที่ 34 หมู่ 5 บ้านดอนขนุน ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก พร้อมมอบพระบรมพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มอบเครื่องอุปโภคบริโภค และมอบถุงพระราชทาน ให้แก่เจ้าของบ้านทั้ง 2 หลัง
จากนั้น นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมนางวัชรินทร์ จิตรวิเศษ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย และคณะ ลงพื้นที่อำเภอท่าบ่อ เพื่อมอบบ้านให้แก่นายโอ เสมเพ็ง บ้านเลขที่ 18 หมู่ 5 บ้านพฤกษาหาร ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ นางพุทธรัตน์ เอ็งอารยกุล บ้านเลขที่ 129 หมู่ 14 บ้านไทรทอง ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ และ นายวันชัย มณีรัตน์ บ้านเลขที่ 7 หมู่ 7 บ้านศิลาเลข ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ พร้อมมอบพระบรมพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มอบเครื่องอุปโภคบริโภค และมอบถุงพระราชทาน ให้แก่เจ้าของบ้านทั้ง 3 หลัง
นางวัชรินทร์ จิตวิเศษ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า เหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย พิจารณาเห็นว่าบ้านเป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน และมีผลกระทบต่อความอบอุ่นและความมั่นคงของครอบครัว ดังนั้นเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย จึงมีแนวคิดที่จะช่วยเหลือประชาชนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและมีที่อยู่อาศัย จึงได้จัดทำโครงการ "ซ่อมแซมบ้านผู้ยากไร้ ส่งเสริมคุณภาพอนามัยและพัฒนาคุณภาพชีวิต" เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยรางกูร โดยเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคายได้มอบให้อำเภอ จัดซื้อวัสดุก่อสร้างใช้ในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย จำนวนหลังละ 50,000 บาท รวม 20 หลัง และให้อำเภอจัดหาแรงงานจากประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ เพื่อร่วมแรงร่วมใจกันซ่อมแซมปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้อยู่ในสภาพที่มั่นคง แข็งแรง เหมาะสมกับการอยู่อาศัย เพื่อเป็นการสงเคราะห์ช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ด้อยโอกาสที่ประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย เป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการดำรงชีวิตแก่ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาสได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โรงแรมที่พักในจังหวัดหนองคาย ถูกจองเต็มเกือบหมดทุกแห่ง ในช่วงออกพรรษาชมบั้งไฟพญานาค นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยว คาดมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ขณะเดียวกันผู้ประกอบการบ้านพัก รีสอร์ต โรงแรม มีประชาชน นักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางมาชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค สั่งจองห้องพักล่วงหน้าจนเต็มเกือบหมดทุกแห่งแล้ว โดยพบว่าผู้ประกอบการแต่ละแห่งยังคงคิดราคาค่าที่พักเท่ากับช่วงปกติ ประมาณห้องละ 900 -2,200 บาท ซึ่งแต่ละแห่งพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ทั้งเรื่องอาหารและที่จอดรถ บางแห่งยังเปิดโอกาศให้ชาวบ้านนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายให้กับนักนักท่องเที่ยวในบริเวณที่ทางโรงแรมจัดให้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
นายวรากร เจียรเสริมสิน นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย |
ด้านนายวรากร เจียรเสริมสิน นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ปัจจุบันมีสถานที่ประกอบการที่พักโรงแรม ประมาณกว่า 60 แห่ง รวมห้องพักกว่า 3,000 ห้อง สำหรับในช่วงเทศกาลออกพรรษาและเทศกาลบั้งไฟพญานาค ได้มีการจัดงานทั้งเทศบาลเมืองหนองคาย เทศบาลตำบลโพนพิสัย และเทศบาลตำบลจุมพล ก่อนหน้านี้มีประชาชน นักท่องเที่ยว รวมถึงคณะทัวร์ สั่งจองที่พักเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้ที่พักโรงแรมหลักๆ ถูกจองเกือบจะเต็มหมดแล้ว แต่ก็ยังมีสถานที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยว เช่น โฮมสเตย์ เชื่อว่าจะสามารถรองรับประชาชน นักท่องเที่ยวได้ ซึ่งนอกจากจะมีการจัดงานประเพณีแล้ว ในพื้นที่ก็ยังมีตลาดนัดริมโขง ถนนคนเดิน ทำให้เกิดการจับจ่ายซื้อขายสร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่มากขึ้นเท่าตัว ทำให้มียอดเงินหมุนเวียนในช่วงเทศกาลออกพรรษาและเทศกาลบั้งไฟพญานาค ปีนี้คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ
สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...
-
พ่อเมืองศรีเชียงใหม่ สั่งชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด สนธิกำลังชุดสืบสวน สภ.ศรีเชียงใหม่ ออกกวดล้างขบวนการค้ายาเสพติด จับกุมผู้ค้า ผู้เสพได...
-
สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ร่วมกับจังหวัดหนองคาย โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย ได้จัดกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ...
-
ลุยปราบต่อเนื่อง! นอภ.ศรีเชียงใหม่ สั่งชุดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปราบยาเสพติด สนธิกำลังชุดสืบสวน สภ ศรีเชียงใหม่ เดินหน้ากวาดล้างยาเสพติด...