วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

บ้านดงต้อง หมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงนิเวศของจังหวัดหนองคาย สนุกไปกับการนั่งรถอีแต๊กเที่ยวชมหมู่บ้าน และลงเดินลัดเลาะไปตามไหล่เขาขึ้นภูนกกระบา ท่ามกลางอ้อมกอดของป่าเขากับท้องฟ้าสีคราม



        นางกรรณิการ์  วงค์ศิริ กำนันตำบลผาตั้งและเป็นประธานท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีบ้านดงต้อง กล่าวว่า บ้านดงต้อง ตั้งอยู่ที่ ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำการเกษตร ทั้งรวมกลุ่มเพาะเห็ดนางฟ้า ทำไร่สับปะรด ไร่กาแฟ สวนยางพารา และได้รับการคัดเลือกจากพัฒนาการจังหวัดหนองคาย ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี  หรือชุมชนน่าเที่ยว OTOP นว้ตวิถี ณ หนองคาย เนื่องจากมีจุดเด่นทั้งด้านวิถีชีวิต วัฒนธรรม และวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาซึมซับธรรมชาติ และมีแหล่งท่องเที่ยวอยู่มากมายให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นผาชมหมอก ผาดัก ภูนกกระบา และถ้ำเพียงดิน






       กิจกรรมในชุมชนที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัส เริ่มจากนั่งรถอีแต๊ก ชมบรรยากาศและวิถีชีวิตรอบหมู่บ้าน แล้วขึ้นไปยังผาชมหมอก ชมทิวทัศน์ของป่าเขา สูดอากาศบริสุทธิ์พลางๆ กับท้องฟ้าสีครามในความรู้สึกฟินๆ แล้วเดินลัดเลาะไปตามไหล่เขาชมธรรมชาติของป่าชุมชน แล้วไปหยุดพักเหนื่อยที่ศาลาส่องยาม  พอหายเหนื่อยก็เริ่มเดินขึ้นภูนกกระบา ชมต้นไม้กลายเป็นหิน ใบเสมาโบราณและกล่องข้าวผีกองกอย  พร้อมกับชมธรรมชาติรางวัลลูกโลกสีเขียวบนภูนกกระบา เป็นสถานที่ที่สามารถชมทิวทัศน์ได้ถึง 360° แต่ท่านักท่องเที่ยวอยากชมทะเลหมอก ก็ให้เดินทางมาแต่เช้าตรู่  ท่ามีเวลาว่างก็สามารถรอชมพระอาทิตย์ตกดินที่ภูนกกระบา โดยพระอาทิตย์จะค่อยๆ เลื่อนลงกลางหุบเขาสวยงามมาก เป็นกิจกรรมที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัยทางธรรมชาติเป็นอย่างมาก  หากนักท่องเที่ยวสนใจอยากร่วมกิจกรรมที่บ้านดงต้อง สามารถตืดต่อได้ที่เบอร์โทร 083-3321095 (กำนันกรรณิการ์)















วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

หนองคาย - อำเภอศรีเชียงใหม่ ร่วมกับสภาวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอำเภอศรีเชียงใหม่ และ อปท.ในพื้นที่ จัดเดินแบบผ้าไทยการกุศลและการแสดงแสง สี เสียง " เบิ่งเวียงเคียงโขง 484 ปี เมืองพานพร้าว ศรีเชียงใหม่"



        วันที่ 23 พ.ย. 2561 เวลา 19.30 น. ที่ลานเบิ่งเวียงริมฝั่งโขง หน้าวัดหาดปทุม ตำบลพานพร้าว อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย นายวรรณพล ต่อพล นายอำเภอศรีเชียงใหม่ รักษาราชการแทนปลัดจังหวัดหนองคาย  ได้ร่วมกับสภาวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอำเภอศรีเชียงใหม่ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ จัดงานเบิ่งเวียงเคียงโขง ลอยกระทงศรีเชียงใหม่ สืบสานตำนานเมืองพานพร้าว 484 ปี โดยมี นายยุทธนา ศรีตะบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดงาน







        ในงานได้จัดเดินแบบผ้าไทยการกุศล โดยมีนายแบบนางแบบกิตติมศักดิ์แต่งผ้าไทย 29 คู่ ร่วมเดินแบบเพื่อหารายได้สมทบทุนบูรณะวัดหาดปทุม หลังจากนั้นได้เปิดการแสดง แสง สี เสียง "เบิ่งเวียงเคียงโขง 484 ปี เมืองพานพร้าว ศรีเชียงใหม่" อย่างยิ่งใหญ่ โดยบอกเล่าตำนานเมื่อครั้งพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช อพยพไพร่พลชาวเชียงใหม่จำนวนหนึ่งพร้อมกับธิดาสองพระองค์ของกษัตริย์เมืองเชียงใหม่ และช้างเผือกหนึ่งเชือก หนีการรุกรานของพระเจ้าบุเรงนอง มาพักอยู่ที่เมืองพานพร้าว  แต่เมื่อมาถึงช้างเผือกได้ตาย พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช จึงนำไปฝังไว้ที่วัด ซึ่งต่อมาได้เรียกวัดนั้นว่า "วัดช้างเผือก" และพระองค์ก็ข้ามไปยังฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง และตั้งชื่อบริเวณนั้นว่า "เวียงจันทน์" และได้พระราชทานที่ดินทางฝั่งขวาให้กับชาวเชียงใหม่ที่อพยพตามมา และตั้งชื่อให้ว่า "ศรีเชียงใหม่" หมายถึงความเป็นศิริมงคลแก่ผู้ที่อาศัยอยู่ ในช่วงเวลาที่พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชปกครองเวียงจันทน์ พระองค์ได้ปกครองประชาราชได้อยู่เบ็ญเป็นสุข และทำนุบำรุงศาสนา สร้างพระพุทธรูป ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อพระสุข หลวงพ่อพระเสริม หลวงพ่อพระใส  และหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ รวมทั้งพระธาตุพนมและพระธาตุเชิงชุม




     สำหรับประวัติความเป็นมาของเมืองพานพร้าว  นั้นเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน โดยมีเอกสารปรากฏชื่อเมืองพานพร้าวอยู่หลายแห่งในพงศาวดารลาว บางแห่งเป็น "ธารพร้าว" หรือ "พั่งพ่าว" ซึ่งต่างก็หมายถึงเมืองพานพร้าว ซึ่งเป็นชื่อเมืองโบราณปรากฏอยู่ในพงศาวดารลาวตั้งแต่ พ.ศ. 2078  เมืองพานพร้าวในสมัยปฏิรูปการปกครอง เป็นหัวเมืองในมณฑลลาวพวน ปี พ.ศ.2436 ภายหลังขึ้นกับเมืองหนองคาย  ต่อมามีการแบ่งเขตเป็นอำเภอ จังหวัด  เมืองพานพร้าวเป็นที่ตั้งของอำเภอท่าบ่อ ครั้นอำเภอท่าบ่อย้ายมาตั้งอยู่ที่บ้านท่าบ่อ (อำเภอท่าบ่อ ปัจจุบัน)  จึงตั้งตำบลพานพร้าวเป็นอำเภอศรีเชียงใหม่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500  ถือว่าเป็นอำเภอที่มีความใกล้ชิดกับเวียงจันทน์มากที่สุด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  อำเภอศรีเชียงใหม่ได้ย้ายที่ทำการมาตั้งอยู่ที่ปัจจุบัน เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2543










วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เทศบาลเมืองหนองคาย จัดประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2561 เป็นการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น



       คืนวันที่ 22 พ.ย.  2561 ที่บริเวณท่าน้ำวัดมีชัยท่า เขตเทศบาลเมืองหนองคาย อ.เมือง จ.หนองคาย นายจิระศักดิ์ ศรีคชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในการเปิดงานเทศกาลลอยกระทงของชาวเทศบาลเมืองหนองคายประจำปี2561โดยมีนายกำภล เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองคาย,นายวีระชัยโชค มงคลภูมิรัตน์ ,นายวินชัย ไวยพัฒน์,นายสุเทพ อินทะชัย รองนายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย พร้อมสมาชิกสภาเทศบาลเมืองหนองคาย ร่วมในพิธีเปิดงานเทศกาลลอยกระทงในครั้งนี้




       นายกำภล เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย กล่าวว่า สืบเนื่องจากประเพณีลอยกระทงของชาวจังหวัดหนองคาย ได้มีการกำหนดให้มีขึ้นในวันขึ้น 15  ค่ำ เดือน 12  ของทุกปี โดยในปีนี้ตรงกับวันที่  22 พ.ย.  61   จึงได้มีการจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงสืบไว้ส่งเสริมการท่องเที่ยวของท้องถิ่นนอกนี้ยังเป็นการหารายได้สมทบในการบุรณปฎิสังขรศาสนสถานของวัดมีชัยให้ถาวรคงอยู่คู่ชาวเมืองหนองคาย

      สำหรับกิจกรรมประกอบด้วย การประกวดนางนพมาศ,การประกวดหนูน้อยนพมาศ,การลอยกระทงตามลำน้ำโขง,การแต่งกายย้อนยุคและกิจกรรมรำวงย้อนยุคทั้งนี้มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใขเข้าร่วมกิจกรรมประเพณีลอยกระทงที่ ทางเทศบาลเมืองหนองคายได้จัดขึ้นในปีนี้เป็นจำนวนมาก












หนองคาย - เทศบาลตำบลวัดธาตุ จัดงานประเพณีลอยกระทงบึงหนองคาย ประจำปี 2561 นำชาวบ้านจาก 14 หมู่บ้านในตำบลวัดธาตุอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น




       วันที่ 22 พ.ย. 2561 ที่บริเวณหน้าเทศบาลตำบลวัดธาตุ บ้านสร้างประทาย ตำบลวัดธาตุ อำเภอเมืองหนองคาย นายปราโมทย์  สุขสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลวัดธาตุ ร่วมกับผู้นำ 14 หมู่บ้านในตำบลวัดธาตุ จัดงานประเพณีลอยกระทงบึงหนองคาย ประจำปี 2561 โดยมีนายสุชน ภัยธิราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดงาน 



        สำหรับการจัดงานประเพณีลอยกระทงบึงหนองคาย ทางเทศบาลตำบลวัดธาตุ ได้อนุรักษ์และสืบทอดประเพณีท้องถิ่น “วันลอยกระทง” เป็นปีที่ 16 เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น อีกทั้งให้ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลวัดธาตุและใกล้เคียงได้ร่วมกันแสดงออกถึงความสามัคคี ร่วมกันอนุรักษ์วัฒธรรมไทยไว้ให้ลูกหลานได้สืบทอดต่อไป

        นอกจากนั้น ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนด้วย ในส่วนกิจกรรมประกอบด้วยการประกวดกระทงยักษ์จาก 14 หมู่บ้านในตำบลวัดธาตุ  ที่ประดิษฐ์จากใบตอง การประกวดแข่งขันส้มตำลีลา ธิดาส้มตำ การประกวดนางนพมาศ ถนนอาหาร และการแสดงบนเวทีของนักเรียนจากโรงเรียนภายในตำบลวัดธาตุ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก





จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...