หนองคาย – วิทยาลัยอาชีวศึกษาหนองคายจัดการแข่งขันกีฬาภายใน นาคีเกมส์ ครั้งที่ 20 ประจำปีการศึกษา 2561

       วันนี้ 5 ม.ค. 2562 ที่สนามกีฬาวิทยาลัยอาชีวศึกษา อ.เมือง จ.หนองคาย นายมงคล แก้วรอด ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาหนองคายได้เป็นประธานการแข่งขันกีฬาภายใน นาคีเกมส์ ครั้งที่ 20 เพื่อให้นักเรียนนักศึกษาแสดงออกถึงด้านการเล่นกีฬาด้วยความสามัคคี มีวินัย มีน้ำใจ สุขภาพร่างกายแข็งแรงและห่างไกลยาเสพติด

       นางสาวจิราพร นาคำ นายกองค์การวิชาชีพฯ วิทยาลัยอาชีวศึกษาหนองคาย กล่าวว่า ด้วยองค์การวิชาชีพฯ งานกิจกรรมนักเรียนนักศึกษาฝ่ายพัฒนากิจการนักเรียนวิทยาลัยอาชีวศึกษาหนองคายกำหนดจัดโครงการแข่งขันกีฬาภายใน นาคีเกมส์ ครั้งที่ 20 ระหว่างวันที่ 3 – 5 มกราคม 2562 เพื่อให้นักเรียนนักศึกามีความสามัคคีในหมู่คณะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ซึ่งสอดคล้องกับ มาตรฐาน คุณลักษณะของผู้สำเร็จการศึกษาอาชีวศึกษาที่พึงประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นด้านคุณธรรม จริยธรรม

          สำหรับกิจกรรม มีการแบ่งออกเป็นสี ได้แก่สีชมพู,สีฟ้า,สีม่วงและสีแสดนอกจากนั้นมีการเดินขบวนพาเหรดเคารพประธานในพิธี การแสดง Cover Dance จากชมรมวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ,การแข่งขันส้มตำลีลา,การแข่งขันกองเชียร์,การแข่งขันกีฬาพื้นเมืองและกีฬาตามตารางการแข่งขันโดยมีนักเรียนนักศึกษาเข้าร่วมกว่า 900 คน

หนองคาย - หลังปีใหม่ ยังคงมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นภูหนอง เพื่อสัมผัสอากาศหนาว ชมพระอาทิตย์ขึ้น ท่ามกลางทะเลหมอกยามเช้าอุณหภูมิ 19 องศาฯ

       แม้หลายคนจะเริ่มเดินทางกลับ เพื่อเตรียมตัวทำงานหลังวันหยุดยาวปีใหม่แล้ว แต่ก็พบว่ายังมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปพักผ่อนและเที่ยวชมความสวยงามบนภูสูงของจังหวัดหนองคายจำนวนมาก

          โดยเฉพาะวันนี้ 5 ม.ค. 2562 ที่ภูหนอง ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย  นายบุญชิน แก้วทำมัง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 บ้านโนนสว่าง ตำบลบ้านม่วง เปิดเผยว่า ในเช้าวันนี้บนภูหนอง มีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นมารอชมทะเลหมอกยามเช้าและพระอาทิตย์ขึ้นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะไม่ค่อยมีทะเลหมอกให้ชมก็ตาม แต่นักท่องเที่ยวก็ไม่ย่อท้อ เดินทางขึ้นไปชมทะเลหมอกและแสงแรกของเช้านี้ที่ตัดกับยอดเขา พร้อมชมทิวทัศน์สองฝั่งโขงที่สวยงาม โดยอุณหภูมิยอดภูหนองเช้านี้ วัดได้ 19 องศาเซลเซียส และมีลมหนาวพัดเย็นตลอดเวลา ซึ่งตั้งแต่ปีใหม่มาจนถึงวันนี้มีรายได้เข้าชุมชน กว่า 50,000 บาท

พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองคาย จัดงานวันคนพิการสากล ประจำปี 2562 เพื่อเป็นการส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการของคนพิการและการต่อยอดการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

         วันที่ 4 ม.ค. 2562 ที่โรงแรมรอยัลนาคารา อ.เมือง จ.หนองคาย สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองคาย ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดหนองคาย  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ องค์กรคนพิการในจังหวัดหนองคายได้ร่วมกัน  จัดงานวันคนพิการสากล ประจำปี 2562 โดยมีนายสุชน ภัยธิราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายเป็นประธาน

       นายบรรณรัตน์ เก่งกสิกิจ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองคาย กล่าวว่า สืบเนื่องจากองค์การสหประชาชาติ  ได้ประกาศให้วันที่ 3 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคนพิการสากล เพื่อให้คนพิการได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม  มีโอกาสได้แสดงศักยภาพให้สังคมประจักษ์  ซึ่งทำให้สังคมเกิดเจตคติเชิงสร้างสรรค์ต่อคนพิการและความพิการ  ให้การยอมรับคนพิการในฐานะที่เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของสังคม ซึ่งได้กำหนดประเด็นหลัก “การส่งเสริมคนพิการ และการประกันการอยู่ร่วมกัน ในสังคมได้อย่างเสมอภาค ทั่วถึง เป็นธรรม”เพื่อรับรองการเปลี่ยนแปลงตามประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืน ภานใต้แนวคิด ไม่ทิ้งใคร ไว้ข้างหลัง

        สำหรับการจัดงานวันคนพิการสากลจังหวัดหนองคาย ประจำปี 2562 ในครั้งนี้  มีกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย   การมอบเงินสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ จำนวน 5 รายๆ ละ 2,000 บาท ,มอบรถวีลแชร์ให้แก่เด็กพิการ จำนวน 3 ราย  มอบเงินปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ จำนวน 5 ราย มอบเงินกู้ยืมกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จำนวน 9 ราย  มอบผ้าห่มกันหนาว จำนวน 10 ผืน มอบใบประกาศเกียรติคุณยกย่องบุคคล/องค์กร ที่ให้การสนับสนุนงานวันคนพิการ จำนวน 20 ราย และผู้ทำคุณประโยชน์แก่คนพิการ ชมการแสดงความสามารถโดยคนพิการทุกประเภท  บูธแสดงผลิตภัณฑ์คนพิการ  ชมนิทรรศการและจุดบริการจากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรคนพิการต่าง ๆ  การเสวนาในหัวข้อ “เติมพลังใจ ให้โอกาส พร้อมรับสิทธิคนพิการ” และการมอบของขวัญ  ของที่ระลึกแก่คนพิการและครอบครัวคนพิการที่มาเข้าร่วมงาน  โดยมีผู้ร่วมงานประกอบด้วย ผู้แทนคนพิการ  คนพิการ  ครอบครัว  ผู้ดูแลคนพิการ องค์กรด้าน คนพิการ  เครือข่ายหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง จำนวนกว่า 300 คน

หนองคาย - นักท่องเที่ยวจำนวนมาก ขึ้นสัมผัสลมหนาว รับแสงอรุณปีใหม่บนภูหนอง ท่ามกลางอุณหภูมิลดเหลือเพียง 17-19 องศาเซสเซียส

       วันนี้ 2 ม.ค. 2562 นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างพากันขึ้นไปสัมผัสลมหนาวและรับแสงอรุณของปีใหม่ 2562 บนภูหนอง เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวชมธรรมชาติสองฝั่งโขงของจังหวัดหนองคาย ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย

         โดยเช้าวันนี้เนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว ที่เดินทางขึ้นไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามของปีกุนหรือปีหมูทองเป็นวันที่สอง พร้อมสัมผัสลมหนาวและชมทะเลหมอกบนภูหนอง ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็น อุณหภูมิลดต่ำเหลือเพียง 17-19 องศาเซลเซียส

          สำหรับบริเวณจุดชมวิวภูหนอง  มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน มองเห็นทิวทัศน์สองฝั่งโขง และเป็นจุดที่สามารถมองเห็นทะเลหมอกและอาทิตย์ทอแสงยามเช้าในมุม 360 องศาอย่างสวยงามที่สุด ซึ่งมีนักท่องเที่ยวรอบันทึกภาพ ความงามของทะเลหมอกและแสงอาทิตย์สีเหลืองอร่ามเป็นภาพที่ระลึกกันอย่างเนืองแน่น

นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกบัวแดง ที่จังหวัดหนองคาย เริ่มเบ่งบานสวยงามเต็มพื้นที่กว่าสองพันไร่ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

         วันนี้ 31 ธ.ค. 2561 ดอกบัวแดงในหนองน้ำสาธารณะบ้านหนองบัง  หมู่ 7 ตำบลปะโค อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตอนนี้เริ่มเบ่งบานเต็มพื้นที่กว่า 2,400 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่สองตำบล คือตำบลปะโค และตำบลเวียงคุก อำเภอเมืองหนองคาย จนกลายเป็นวังบัวแดงของจังหวัด หลังจากห่างหายไปนานถึงสองปี ทำให้ตอนนี้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวหลายคนต่างเข้าไปชมความสวยงามของดอกบัวสีแดงอมชมพู สลับดอกสีขาวที่กำลังเบ่งบานสะพรั่งไปทั่วบริเวณ ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย

         โดยชาวบ้านได้เตรียมเรือหาปลา จำนวน 9 ลำไว้บริการนักท่องเที่ยวพายพาชมดอกบัวแดง คิดค่าบริการคนละ 50 บาท ไม่จำกัดเวลาชม และชาวบ้านยังได้ทำโป๊ะไว้กลางน้ำเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปถ่ายรูปเก็บความสวยงามมองทะเลบัวแดง เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

         ทั้งนี้ความสวยงามของวังบัวแดงจะมีให้ชมตั้งแต่เดือนธันวาคม ถึงเดือนมีนาคม และยังมีความเก่าแก่ของศาสนสถาน วัฒนธรรมประเพณี  วิถีชีวิต ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตพืชน้ำ ปลา นกนาๆ ชนิด  และตำนานรักพื้นบ้านอุสาบารส  "ตามรอย คืนรักษ์ อุสาบารส" @ วังบัวแดงปะโค ที่โดนเรื่องสอดคล้องกับสถานที่ปัจจุบัน