เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหนองคาย รวบหนุ่มลาวขนยาอี หรือยาเลิฟ 10,095 เม็ด มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ได้คาด่าน ขณะโดยสารมากับรถแท็กซี่รับจ้าง สารภาพ ได้ค่าจ้าง 5,000 บาท และถูกหลอกว่าเป็นไม้กฤษณา

           
     เมื่อคืนที่ 7 ส.ค. 62  ที่ ด่านพรมแดนหนองคาย สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อำเภอเมืองหนองคาย เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหนองคาย โดยการอำนวยการของนายนิมิต แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย ,นายสมบัติ ค้อนทอง หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย ร่วมกันเจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดหนองคาย (ศอ.ปส.จ.นค.) และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย , ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย, นรข.เขตหนองคาย ,ตชด.245 และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายสุริโย พุทธวงษ์ อายุ 20 ปี ชาวลาว  พร้อมของกลางยาอีหรือยาเลิฟ จำนวน 10,095 เม็ด

      นายสมบัติ ฆ้อนทอง หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม  กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้  ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติหน้าที่บริเวณจุดสกัดกั้นยาเสพติด ด่านพรมแดนหนองคาย  พบผู้ต้องหามีท่าทางพิรุธโดยสารมากับรถแท็กซี่รับจ้างระหว่างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว  ได้ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองตรงจุดตรวจรถยนต์ส่วนบุคคลแล้ว ได้เดินไปขึ้นรถแท็กซี่รับจ้าง  เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจค้นสัมภาระที่ผู้ต้องหานำติดตัวมา เป็นกระเป๋าสะพายหลังสีดำ  พบยาอี หรือยาเลิฟ สีเขียวอ่อน และสีชมพู ที่ตัวยามีสัญลักษณ์รูปมงกุฏและดาว 3 ดวงอยู่ด้านล่าง  บรรจุอยู่ในถุงพลาสติก จำนวน 14 ถุง รวมทั้งสิ้น 10,095 เม็ด  สำหรับยาอีหรือยาเลิฟ มักนิยมกันในกลุ่มวัยรุ่น ราคาซื้อขายที่ลาว เม็ดละ 400-500 บาท  หากนำมาขายที่ไทยจะราคาเม็ดละ 800-1,000 บาท มูลค่ายาอีหรือยาเลิฟครั้งนี้กว่า 10 ล้านบาท

     จากการสอบสวน  นายสุริโยฯ ให้การรับสารภาพว่า ทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก มีคนติดต่อให้รู้จักกับนายโต้ คนลาว ว่าจ้างให้นำกล่องกระดาษซึ่งแจ้งว่าข้างในบรรจุไม้กฤษณา ให้นำไปส่งให้ลูกค้าที่ บขส.อุดรธานี   ได้รับค่าจ้างเป็นเงิน  5,000 บาท  เมื่อมาถูกจับกุมจึงรู้ว่าถูกหลอกไม่ใช่ไม้กฤษณาตามที่ว่าจ้างที่แท้เป็นยาอี เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิดฐานนำเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร อันเป็นความผิดตามนัยมาตรา 242 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และมีความผิดฐานนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) เข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและมียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายอันเป็ความผิดตามนัยมาตรา 16,65, 66 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522  และได้ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โรงเรียนบ้านสมประุสงค์ จ.อุดรธานี จัดกิจกรรมค่ายศิลปะรุ่นเยาว์ "ตามรอยพ่อ ก่องานศิลป์" เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวง ร.9

วันที่ 7 ส.ค. 61 ที่โรงเรียนบ้านสมประสงค์ หมู่ที่ 8 ต.โนนทอง อ.นายูง จ.อุดรธานี นายทวี ตันนารัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสมประสงค์ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของกลุ่มโรงเรียนในโครงการตามพระราชดำริ ประจำปีงบประมาณ 2562 จัดกิจกรรมค่ายศิลปะรุ่นเยาว์ "ตามรอยพ่อ ก่องานศิลป์" ประจำปีการศึกษา 2562 โดยมี นายอุดม โทนไทย ประธานกลุ่มเครือข่ายโรงเรียนนายูงโนนทอง เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม มีผู้อำนายการโรงเรียนในกลุ่มเครือข่าย , คณะกรรมการสถานศึกษาฯ และบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนฯ ร่วมกิจกรรม

 นายทวี ตันนารัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสมประสงค์  กล่าวว่า ทางโรงเรียนฯได้มองเห็นถึงความสำคัญของการเรียนการสอนศิลปะ และช่วยให้นักเรียนมีศักยภาพทางด้านศิลปะเพิ่มขึ้น  จึงได้จัดกิจกรรมค่ายศิลปะรุ่นเยาว์ "ตามรอยพ่อ ก่องานศิลป์" ขึ้น ซึ่งเป็นการประมวลประสบการณ์ต่างๆ จากครูแดง บ้านศิลป์ไทย (นายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์ ประธานชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย จ.หนองคาย) และครูเบิ้ม บ้านเติมศิลป์ (นายไพบูลย์ ธรรมเรืองฤทธิ์) ผู้ที่มีความสามารถทางด้านศิลปะเป็นที่ประจักษ์ชัดเจน มาถ่ายทอดความรู้ให้กับนักเรียน เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร "องค์อัครศิลปิน"  และส่งเสริมสนับสนุนความสามารถทางด้านทัศนศิลป์ของนักเรียน ในรูปแบบหลากหลาย ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้นักเรียนมีสมรรถนะ  ทักษะ  และคุณลักษณะที่สำคัญจำเป็นในศตวรรษที่ 21 และส่งเสริมให้มีความรู้ ทักษะพื้นฐานทางด้านศิลปะ และเจตคติต่อการสัมมาอาชีพเพื่อการดำรงชีวิต โดยมีนักเรียนในระดับชั้นอนุบาล-ชั้นประถมปีที่ 6 ร่วมกิจกรรม 102 คน

สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ครูแดง บ้านศิลป์ไทย ได้นำรถจักรยานที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดีร่วมฉลอง 26 ปี ชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย แจกฟรี 27 คัน มอบให้กับเด็กนักเรียนที่ทำผลงานยอดเยี่ยมตามองค์ประกอบของภาพที่กำหนด จำนวน 2 คัน ได้แก่ ด.ช.สิทธิพร อินทร์กร หรือน้องโดม  เรียนอยู่ชั้น ป.1 และ ด.ญ.พิมพ์ชนก พันธ์จันทร์ หรือน้องตั๊ก เรียนอนุบาล 3

โรงเรียนอนุบาลจินลดา จัดกิจกรรมความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูก เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ในโครงการศิลป์สร้างสรรค์สัมพันธ์แม่และลูก ครั้งที่ 4

       วันที่ 6 ส.ค. 62 ที่โรงเรียนอนุบาลจินลดา  เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นางชลันดา สุทธากรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลจินลดา เป็นประธานจัดกิจกรรมส่งเสริมความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์จินตนาการ และความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูก เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2562 ในโครงการศิลป์สร้างสรรค์สัมพันธ์แม่และลูก ครั้งที่ 4 ประจำปีการศึกษา 2562   โดยมี ครูแดง บ้านศิลป์ไทย (นายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์ ประธานชมรมศิลปะเด็กบ้าศิลป์ไทย) และตรูเบิ้ม บ้านเติมศิลป์ (นายไพบูลย์ ธรรมเรืองฤทธิ์) ร่วมเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ เทคนิคการวาดภาพในการสร้างสรรค์งานศิลปะให้กับเด็กและผู้ปกครอง โดยมีคุณยายกวี  บุญยณกุล มารดาของผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลจินลดา เป็นเกียรติในการมอบรางวัลให้กับแม่และเด็กในกิจกรรมครั้งนี้

     นางชลันดา สุทธากรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลจินลดา กล่าวว่า เนื่องด้วยวันที่ 12  สิงหาคมของทุกปีเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชชนนีพันปีหลวง ทางโรงเรียนจึงได้จัดกิจกรรมวันแม่เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่าน โดยมีกิจกรรมให้นักเรียนร่วมร้องเพลง "ดอกไม้ของแม่" และทำพิธีไหว้แม่, กิจกรรมค่ายศิลป์สร้างสรรค์สัมพันธ์แม่และลูก ครั้งที่ 4 เป็นกิจกรรมวาดภาพระบายสีระหว่างแม่และลูก โดยครูแดง บ้านศิลป์ไทย, กิจกรรมเล่านิทานประกอบภาพวาด โดยครูเบิ้ม บ้านเติมศิลป์  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กเห็นความสำคัญของวันแม่ และได้แสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทีต่อแม่ เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการอย่างหลากหลายตามวัย รวมทั้งให้เด็กได้เรียนรู้และได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมกับครอบครัว ชุมชนและท้องถิ่น

จังหวัดหนองคาย ร่วมกับกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ฝึกและซ้อมแผนอพยพประชาชน เมื่อเกิดภัยพิบัติหรือภัยคุกคามจากภัยธรรมชาติ ขึ้นในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฎิบัติงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

     
     วันที่ 5 ส.ค. 62 ที่ หอประชุมอำเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย พันเอกสวราชย์  แสงผล รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี เป็นประธานเปิดการฝึกและซ้อมแผนการอพยพประชาชน เมื่อเกิดภัยพิบัติหรือภัยคุกคามจากภัยธรรมชาติ ขึ้นในพื้นที่ ประจำปี 2562 
           
    เนื่องจากสถานการณ์ ปัจจุบันของการเกิดพายุต่างๆ ที่เกิดฝนตกทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงและระดับน้ำในลำห้วยสาขา เพิ่มและลดระดับลงอย่างรวดเร็ว อาจทำให้เกิดภัยพิบัติจากภัยธรรมชาติขึ้นได้ในพื้นที่ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี จึงได้ฝึกและซ้อมแผนอพยพประชาชนด้วยการซักซ้อมแผนการปฎิบัติบนภูมิประเทศจำลอง
       

 
     การฝึกอบรมครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมความพร้อมในการปฎิบัติงานร่วมกัน กับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ให้มีความเข้าใจขั้นตอนการปฎิบัติเมื่อเกิดภัยพิบัติต่างๆ เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ป้องกันและระงับการก่อความไม่สงบเรียบร้อยที่อาจเกิดขึ้น  โดยมี พันเอกมงคล  หอทอง เสนธิการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ,พันเอกวรวุฒิ  สำราญ  รองเสนธิการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ,สำนักงานบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองคาย,โรงพยาบาลหนองคาย,สธารณสุขจังหวัดหนองคาย,สถานีตำรวจภูธรเมืองหนองคาย,เทศบาลเมืองหนองคาย,โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลมีชัย,ผู้นำชุมชนในพื้นที่ตำบลมีชัย เข้าร่วม