วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2562

เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหนองคาย รวบหนุ่มลาวขนยาอี หรือยาเลิฟ 10,095 เม็ด มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ได้คาด่าน ขณะโดยสารมากับรถแท็กซี่รับจ้าง สารภาพ ได้ค่าจ้าง 5,000 บาท และถูกหลอกว่าเป็นไม้กฤษณา

           
     เมื่อคืนที่ 7 ส.ค. 62  ที่ ด่านพรมแดนหนองคาย สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อำเภอเมืองหนองคาย เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหนองคาย โดยการอำนวยการของนายนิมิต แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย ,นายสมบัติ ค้อนทอง หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย ร่วมกันเจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดหนองคาย (ศอ.ปส.จ.นค.) และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย , ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย, นรข.เขตหนองคาย ,ตชด.245 และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายสุริโย พุทธวงษ์ อายุ 20 ปี ชาวลาว  พร้อมของกลางยาอีหรือยาเลิฟ จำนวน 10,095 เม็ด



      นายสมบัติ ฆ้อนทอง หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม  กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้  ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติหน้าที่บริเวณจุดสกัดกั้นยาเสพติด ด่านพรมแดนหนองคาย  พบผู้ต้องหามีท่าทางพิรุธโดยสารมากับรถแท็กซี่รับจ้างระหว่างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว  ได้ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองตรงจุดตรวจรถยนต์ส่วนบุคคลแล้ว ได้เดินไปขึ้นรถแท็กซี่รับจ้าง  เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจค้นสัมภาระที่ผู้ต้องหานำติดตัวมา เป็นกระเป๋าสะพายหลังสีดำ  พบยาอี หรือยาเลิฟ สีเขียวอ่อน และสีชมพู ที่ตัวยามีสัญลักษณ์รูปมงกุฏและดาว 3 ดวงอยู่ด้านล่าง  บรรจุอยู่ในถุงพลาสติก จำนวน 14 ถุง รวมทั้งสิ้น 10,095 เม็ด  สำหรับยาอีหรือยาเลิฟ มักนิยมกันในกลุ่มวัยรุ่น ราคาซื้อขายที่ลาว เม็ดละ 400-500 บาท  หากนำมาขายที่ไทยจะราคาเม็ดละ 800-1,000 บาท มูลค่ายาอีหรือยาเลิฟครั้งนี้กว่า 10 ล้านบาท




     จากการสอบสวน  นายสุริโยฯ ให้การรับสารภาพว่า ทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก มีคนติดต่อให้รู้จักกับนายโต้ คนลาว ว่าจ้างให้นำกล่องกระดาษซึ่งแจ้งว่าข้างในบรรจุไม้กฤษณา ให้นำไปส่งให้ลูกค้าที่ บขส.อุดรธานี   ได้รับค่าจ้างเป็นเงิน  5,000 บาท  เมื่อมาถูกจับกุมจึงรู้ว่าถูกหลอกไม่ใช่ไม้กฤษณาตามที่ว่าจ้างที่แท้เป็นยาอี เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิดฐานนำเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร อันเป็นความผิดตามนัยมาตรา 242 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และมีความผิดฐานนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) เข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและมียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายอันเป็ความผิดตามนัยมาตรา 16,65, 66 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522  และได้ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...