วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2562

ผู้ใหญ่บ้านพอเพียง ทำฟาร์มเลี้ยงหนูนาขาย สร้างรายได้เสริมกว่าหมื่นบาทต่อเดือนภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง จนกลายเป็นศูนย์เรียนรู้ฟาร์มตัวอย่าง ให้ผู้คนศึกษานำไปเลี้ยงทำเงิน


การเลี้ยงหนูนา เป็นอาชีพทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกรที่กำลังมองหาอาชีพเสริม จากการทำไร่ทำนา เช่นเดียวกับนายคำพอง โพธิจันทร์ อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านฝาง ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ได้สร้างอาชีพเกษตรทางเลือกใหม่ ด้วยการทำฟาร์มเลี้ยงหนูนา หรือที่ชาวบ้านอีสานเรียกว่า"หนูพุก" ซึ่งเป็นสัตว์ป่าที่เป็นที่ต้องการของตลาด เนื่องจากชาวบ้านนิยมนำไปปรุงเป็นอาหารเมนูเด็ดอีสาน  ทำให้ผู้ใหญ่คำพอง โพธิจันทร์ เกิดแนวคิดใหม่ที่จะนำมาเลี้ยงเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้ในครัวเรือน โดยยึดหลักแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง จนประสบความสำเร็จ สามารถสร้างรายได้เสริมอีกทาง ถึงเดือนละกว่า 10,000 บาท






ผู้ใหญ่คำพอง โพธิจันทร์  กล่าวว่า ตนมีอาชีพทำไร่ ทำนามาทั้งชีวิต จึงหาแนวทางสร้างอาชีพเสริมหลังฤดูทำนา โดยเริ่มแรกนั้นได้ทดลองทำฟาร์มเลี้ยงไก่พื้นเมือง แต่บางทีมีปัญหาเรื่องราคาไก่ตกต่ำ ขาดทุน จึงอยากจะหาแนวทางอื่น กระทั่งได้ดูในยูทูปพบว่ามีสัตว์ป่าพื้นบ้านที่สามารถเลี้ยงได้ นั้นก็คือ “หนูนา” หรือ “หนูพุก” ซึ่งถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่น่าจะสร้างรายได้ดี เพราะเห็นมีวางขายตามตลาด และเป็นที่ต้องการของชาวบ้าน ซื้อไปปรุงเป็นเมนูเด็ดของแซบอีสาน ซึ่งส่วนตัวรวมทั้งครอบครัวก็ชอบรับประทานหนูนาด้วยเช่นกัน  จึงไปซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาจากฟาร์มในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี คู่ละ 900 บาท ซื้อทั้งหมด 6 ตัว แยกเป็นพ่อพันธุ์ 2 ตัว แม่พันธุ์ 4 ตัว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,900 บาท นำมาเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ ลงทุนไปทั้งสิ้น 30,000 บาท






วิธีการเลี้ยงตนได้ศึกษาค้นคว้าทางยูทูป โดยวิธีการแยกคู่ผสมพันธุ์ ตั้งท้องได้ประมาณ 1 เดือน ออกลูกครั้งละ 4 -5 ตัว หลังจากนั้นก็ทำการแยกครอบครัวหนูโดยสร้างโรงเรือนก่ออิฐบล็อก เน้นเลี้ยงแบบธรรมชาติมากที่สุด ให้พืชเป็นอาหาร มีเสริมหัวอาหารเล็กน้อย และหญ้าเนเปียร์ ที่สำคัญจะต้องเลี้ยงด้วยความสะอาด ปลอดภัย ป้องกันการเกิดโรคระบาด ซึ่งได้ปรึกษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาวิธีในการดูแลป้องกัน โดยใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 2-3 เดือน เมื่อหนูนาโตได้ขนาดจะส่งออกขายกิโลกรัมละ 180 บาท ตกตัวละ 100 - 200 กิโลกรัม แล้วแต่ขนาด ส่วนพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ขายคู่ละ 500 บาท ซึ่งจะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงฟาร์ม เลี้ยงหนูนาไม่ถึงปีได้เงินทุนกลับมาหมด ปัจจุบันตนมีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ประมาณ 50 ตัว มีหนูนาทั้งหมดกว่า 300 ตัว จนฟาร์มของตนกลายเป็นศูนย์เรียนรู้ฟาร์มตัวอย่างเศรษฐกิจพอเพียง ให้ชาวบ้านและผู้ที่สนใจมาศึกษานำไปเลี้ยงสร้างรายได้เสริมต่อไป

นอกจากนี้ชาวบ้านในหมู่บ้าน ยังได้รวมกลุ่มกันทำฟาร์มเพาะเห็ดนางฟ้า โดยยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ขายบ้าง แบ่งบ้าง ตามวิถีทางของหมู่บ้าน







อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ทำพิธีรับมอบสิ่งของพระราชทานหมวกผ้าพันคอ และบัตรประชาชนจิตอาสา 904 วปร.


วันที่ 17  ก.ย. 62 เวลา 10.00 น. ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร นายอำเภอท่าบ่อ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราขทาน 904 วปร. อำเภอท่าบ่อ เป็นประธานในพิธีรับมอบสิ่งของพระราชทานหมวกผ้าพันคอ และบัตรประชาชนจิตอาสา 904 วปร. แก่ผู้ลงทะเบียนจิตอาสาที่ลงทะเบียนจิตอาสาเฉพาะกิจในรอบเดือนสิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยมี หัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ/ วิทยากรจิตอาสา 904 วปร. และประชาชนชาวอำเภอท่าบ่อที่ลงทะเบียน 128 คนเข้ารับสิ่งของพระราชทาน เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สำหรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่จิตอาสา ในโครงการจิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ ตามพระราชปณิธานฯ ในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นการพัฒนาสังคมและสร้างสรรค์ประโยชน์ให้ประเทศชาติ  โดยหลังเสร็จพิธีผู้เข้ารับสิ่งของพระราชทานได้ร่วมกันปลูกต้นรวงผึ้ง ต้นไม้มงคลประจำรัชกาลที่ 10 ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอท่าบ่อ







นายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร นายอำเภอท่าบ่อ กล่าวว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ "เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ" ด้วยมุ่งหวังให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่ามีความสมัครสมานสามัคคี ร่วมมือร่วมใจประกอบกิจกรรมสาธารณะ เพื่อประโยชน์สุขของชุมชนส่วนรวมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อให้เกิดความรักความผูกพันใน 4 สถานบันหลักของชาติ คือ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน  ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. อำเภอท่าบ่อ จึงถือกำเนิดขึ้นตามแนวพระราโชบายเป็นเครื่องมือทำหน้าที่ประสานความร่วมมือทำงาน ระหว่างหน่วยราชการในพระองค์ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทุกหมู่เหล่า   ให้มีส่วนร่วมทำงานแก้ไขปัญหาขั้นพื้นฐานของชาติ  ให้คนในชาติ ในชุมชน มีความสุขอย่างยั่งยืน สนองพระราชปณิธานที่ว่า รักษา สืบสาน ต่อยอด










วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2562

จนท.การไฟฟ้าหนองคาย ระดมพลเร่งรื้อเสาไฟฟ้าที่แตกร้าว พร้อมติดตั้งเสาใหม่ให้กับชาวบ้านได้อยู่อย่างปลอดภัย


จากกรณีนายพงศกร อาษานอก ได้ร้องเรียนมายังเพจหนองคายกระจายข่าว ว่า เสาไฟฟ้าหน้าบ้านเลขที่ 133 หมู่ 3 ต.บ้านฝาง อ.สระใคร จ.หนองคาย มีรอยแตกร้าวที่บริเวณโคนเสา เนื่องจากถูกพายุพัดเมื่อเดือน พ.ค. 62  เกรงว่าเสาจะหักล้มลงจนเป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชน

ล่าสุดวันนี้ 16 ก.ย. 62 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดหนองคาย ระดมเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ เร่งแก้ไขเสาไฟฟ้าต้นดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการรื้อถอนต้นที่แตกร้าวออก ก่อนนำเสาไฟฟ้าต้นใหม่ปักลงไปแทนต้นเดิม และทำการจ่ายกระไฟฟ้าได้ตามปกติ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ พร้อมประชาสัมพันธ์หากพื้นที่ใดพบเห็นเสาไฟหัก ชำรุด หรือสายไฟรั่ว ให้รีบแจ้งทันที เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เร่งเข้าไปดำเนินการแก้ไข





วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2562

สุดอันตราย!.เสาไฟฟ้าแตกร้าว ไร้หน่วยงานเหลียวแล ชาวบ้านหวั่นหักโค่นจนเกิดอันตราย


วันที่ 14 ก.ย. 62 นายพงศกร อาษานอก  ได้ร้องเรียนมายังเพจหนองคายกระจายข่าว ว่า เสาไฟฟ้าหน้าบ้านเลขที่ 133 หมู่ 3 ต.บ้านฝาง อ.สระใคร จ.หนองคาย มีรอยแตกร้าวที่บริเวณโคนเสา เนื่องจากถูกพายุพัดเมื่อเดือน พ.ค. 62  เคยร้องเรียนเรื่องนี้ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ได้แต่มาถ่ายรูป แต่ก็ไม่ได้รับการซ่อมแซมแก้ไขเลย ชาวบ้านต้องนอนผวา เกรงว่าเสาจะหักล้มลงจนเป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าทำการช่วยเหลือด่วน









วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2562

อ.ศรีเขียงใหม่ จ.หนองคาย จัดแข่งขันกีฬาเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างอำเภอศรีเชยงใหม่ กับเมืองสีโคดตะบอง นครหลวงเวียงจันทน์ มุ่งให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กองการเมืองสีโคดตะบองเสริมสร้างความสามัคคีอันดีต่อกัน ตามโครงการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน ประจำปี 2562


วันที่ 13 ก.ย. 62 ณ ที่ว่าการอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย นายวรรณพล ต่อพล นายอำเภอศรีเชียงใหม่ นำส่วนราชการ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับท่านนางภูเวียง แก้ววงวิจิต เจ้าเมืองสีโคดตะบอง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ในโอกาสนำคณะเจ้าหน้าที่กองว่าการเมืองสีโคดตะบองกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางมาแข่งขันกีฬาเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย กับเมืองสีโคดตะบอง นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศ สปป.ลาว ตามโครงการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน ประจำปี 2562






ในการจัดแข่งขันกีฬาครั้งนี้ เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีทั้งส่วนราขการและประชาชนทั่งสองฝ่ายได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สังสรรค์ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน เสริมสร้างความสามัคคี และความสัมพันธ์อันดีต่อกัน รวมทั้งเพื่อให้ผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันมีสุขภาพอนามัยที่ดี มีความรู้รักสามัคคีระหว่างเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยครั้งนี้ได้จัดการแข่งขันกีฬาประกอบด้วย ฟุตบอลชายและเปตอง มีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกว่า 200 คน




สำหรับโครงการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์จังหวัดประตูการค้าการท่องเที่ยวชายแดน เชื่อมโยงถึงการค้าชายแดน-การพาณิชย์ และธุรกิจอื่นๆ ที่ต่อเนื่องระหว่างไทยกับลาว ประเทศเพื่อนบ้าน







จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...