ผู้ตรวจการแผ่นดิน จัดกิจกรรม OSR “ผู้ตรวจการแผ่นดิน เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” เพื่อเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจผู้ตรวจการแผ่นดินและมอบคอมพิวเตอร์แก่สถานศึกษาสังกัดเทศบาลเมืองหนองคาย เพื่อการพัฒนาและส่งเสริมการศึกษาและคุณภาพชีวิตเยาวชน

                                           
วันที่ 7 พ.ย. 62 ที่หอประชุมเทศบาลเมืองหนองคาย ผู้ตรวจการแผ่นดิน จัดกิจกรรม OSR “ผู้ตรวจการแผ่นดิน เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ตามโครงการผู้ตรวจการแผ่นดินสัญจรครั้งที่ 40  โดยมี นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานเปิดกิจกรรม มีนายกำภล เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเมืองหนองคายกล่าวต้อนรับและนางสาวคมขวัญ กาญจนกุญชร ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ กล่าวรายงาน มี นางสาวสุภาพ นพเก้า นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ ส.ปชส.หนองคาย ผู้แทนส่วนราชการ สมาชิกสภาเทศบาล ผู้บริหาร คณะเจ้าหน้าที่สำนักงานเทศบาลเมืองหนองคาย ตัวแทนคณะครูนักเรียนโรงเรียนสังกัดเทศบาลเมืองหนองคายและผู้นำชุมชน เข้าร่วมกิจกรรม
         

นางสาวคมขวัญ กาญจนกุญชร ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นองค์กรตามรัฐธรมนูญ โดยรัฐธรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 ได้กำหนดให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีหน้าที่และอำนาจในการเสนอแนะต่อหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีการปรับปรุงกฎหมาย กฎข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง หรือขั้นตอนการปฏิบัติงาน ที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน หรือไม่เป็นธรรมแก่ประชาชน และมีบทบาทหน้าที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริง ตามคำร้องเรียนของประชาชน ในการปฏิบัติหน้าที่หรือละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ของข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ของรัฐ ด้วยหลักธรรมมาภิบาลโดยชอบธรรม รวมถึงมีหน้าที่ในการเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ให้ทราบถึงการที่หน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องครบถ้วน  ส่วนกิจกรรม OSR “ผู้ตรวจการแผ่นดินเราทำความดีด้วยหัวใจ” เป็นกิจกรรมผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อสังคม ด้านการพัฒนาและส่งเสริมการศึกษาและคุณภาพชีวิตเยาวชน โดยมอบเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 6 เครื่อง เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 ชำนาญอนุเคราะห์ โรงเรียนเทศบาล 5 มีชัยวิทยาและโรงเรียนบ้านหนองเดิ่น
         

สำหรับการสัมมนาโครงการผู้ตรวจการแผ่นดินสัญจรครั้งที่ 40 ที่จังหวัดหนองคาย กำหนดจัดขึ้นจำนวน  2 วัน ระหว่างวันที่ 6-7 พฤศจิกายน 2562 ที่โรงแรมรอยัลนาคาราและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์และสำนักงานเทศบาลเมืองหนองคาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินโดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนา จำนวนกว่า 800 คน ประกอบด้วย ภาคประชาชน หน่วยงานภาครัฐ และสื่อมวลชนในจังหวัดหนองคาย จังหวัดบึงกาฬ และจังหวัดอุดรธานี

สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จัดเสวนาผู้ตรวจการแผ่นดินพบสื่อมวลชน เพื่อให้สื่อมวลชนได้รับทราบการดำเนินงานของผู้ตรวจการแผ่นดินในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และอำนาจหน้าที่ขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560

วันที่ 6 พ.ย. 62 ที่ห้องประชุม กชมน 2 โรงแรมรอยัลนาคารา อำเภอเมืองหนองคาย สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้จัดเสวนาผู้ตรวจการแผ่นดินพบสื่อมวลชน ในหัวข้อ “หน้าที่และอำนาจขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560” โดยมีผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ตรวจการแผ่นดิน ทั้งนี้ เพื่อให้สื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ และจังหวัดอุดรธานี ได้รับทราบผลการดำเนินงานของผู้ตรวจการแผ่นดินในกรณีการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน บทบาทและอำนาจหน้าที่ขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560

พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินมีหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐและการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งในระดับชาติไปจนถึงระดับท้องถิ่น ซึ่งการทำงานของผู้ตรวจการแผ่นดิน ยึดหลักความเป็นกัลยาณมิตร ไม่ได้มุ่งจับผิดหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ แต่มุ่งหวังแสวงหาทางออกร่วมกัน ในการแก้ไขความเดือดร้อนอย่างเป็นระบบ เน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ส่งเสริมสนับสนุนและให้คำแนะนำ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ขจัดความเหลื่อมล้ำ อำนวยประโยชน์ให้แก่ประชาชนอย่างทัดเทียม และลดภาระที่เกิดขึ้นกับประชาชน โดยไม่จำเป็นหรือเกินสมควรแก่เหตุ เพื่อขับเคลื่อนให้สังคมไทยตั้งอยู่บนหลักความสุจริต หลักสิทธิมนุษยชน และหลักธรรมาภิบาล สื่อมวลชนมีบทบาทสำคัญในการช่วยผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ทำให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนได้รับการแก้ไขปัญหาจากภาครัฐอย่างถูกต้อง โดยผู้ตรวจการแผ่นดินมีหลักในการทำงาน 3 ประการ ที่นำมาใช้ที่ส่งผลดีต่อผู้ร้อง ผู้ถูกร้องละประชาชน ประการที่ 1 ลงพื้นที่ที่ประชาชนได้รับความเดือนร้อน ประการที่ 2 แก้ไขประชาชนให้พ้นจากความทุกข์ ไม่จับผิดหน่วยงาน บุคคล และทำงานอย่างเป็นระบบ

สำหรับปัญหาที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทั่วประเทศ จำนวน 47,394 เรื่อง ได้ดำเนินการแล้ว 45,540 เรื่อง  อยู่ระหว่างดำเนินงาน 1,805 เรื่อง ส่วนในพื้นที่จังหวัดหนองคายได้รับการร้องเรียน จำนวน 285 เรื่อง ได้รับการแก้ไข จำนวน 281 เรื่อง และอยู่ระหว่างดำเนินการ 4 เรื่อง สำหรับประชาชนที่ไม่สามารถมาใช้บริการยื่นเรื่องร้องเรียนได้สามารถส่งเรื่องร้องเรียนมายังช่องทางต่าง ๆ ของสำนักงานได้ ทั้งทางไปรษณีย์ถึงสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 5 เลขที่ 120 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 หรือโทรศัพท์สายด่วน 1676 (โทรฟรีทั่วประเทศ) ทางอินเทอร์เน็ตที่ www.ombudsman.go.th และทางโทรศัพท์สมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่นของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งการร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินนั้น ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น

สสจ หนองคาย และรพ.หนองคาย ร่วมกับ รพ.ศิริราช แถลงข่าวการจัดงานเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต เฉลิมพระเกียรติ ครั้งที่ 5 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี

วันที่ 5 พ.ย. 62 ที่สวนสาธารณะหนองถิ่น อำเภอเมืองหนองคาย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย และโรงพยาบาลหนองคาย ร่วมกับ โรงพยาบาลศิริราช  จัดแถลงข่าวการจัดงาน "เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต เฉลิมพระเกียรติ ครั้งที่ 5" โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าวประกอบด้วย นายแพทย์วิศณุ วิทยาบำรุง  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย,  นายสุรกิจ ยศพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองคาย  ,นายทองเลื่อน องอาจ สาธารณสุขอำเภอเมืองหนองคาย  พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย  ,นายปรีชา ทรงอยู่ ประธานชมรมเดินวิ่งจังหวัดหนองคาย ,นายอาภากร ตุลยานันท์ นายกสมาคมกีฬาจักรยานหนองคาย  , นายชัยยุทธ ภวภูตานนท์ นายกสมาคมกีฬาจักรยานจังหวัดหนองคาย  และนายสุเทพ พนาลิกุล ประธานชมรมจักรยานจังหวัดหนองคาย

นายแพทย์วิศณุ วิทยาบำรุง  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย  กล่าวว่า การจัดกิจกรรม เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต เฉลิมพระเกียรติ ครั้งที่  เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ที่ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชนชาวไทยในเรื่องการรักษาสุขภาพ และการออกกำลังกาย  เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง  เพื่อส่งแสริมให้มีกิจกรรมในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งจะมีผลลดค่าใช้จ่ายการรักษาและลดภาระ ของปัญหาโรคเรื้อรัง โดยให้ประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย ทุกหมู่เหล่า มีโอกาสออกกำลังกายอย่างง่าย ๆ เช่น การเดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยาน หากทำเป็นประจำจะทำให้มีสุขภาพดี ห่างไกลโรค โรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ถึงร้อยละ 90 หากมีความเข้าใจถึงการ ปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรค รวมทั้งหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ด้วยการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น ลดการรับประทานอาหารเค็ม ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่ เป็นตัน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการรักษาสุภาพขั้นฐาน  และสามารถทำได้ถ้ามีความตั้งใจจริงที่จะหันมาดูแลสุขภาพ การออกกำลังกายจึงเป็นจุดเริ่มตันที่ดีที่สามารถทำได้ทันที

สำหรับกิจกรรมเดินวิ่งปั่นป้องกันอัมพาต เฉลิมพระเกียรติ ครั้งที่ 5  จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2562  เวลา 05.00 น. ที่บริเวณลานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ซึ่งจะมีพิธีเปิดงานและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ และเริ่มปล่อยตัวผู้เข้าร่วมกิจกรรม เวลา 15.30 น. กิจกรรมประกอบด้วย การเดินวิ่งเพื่อสุขภาพ ระยะทาง 5  กิโลมตร  ค่าสมัครท่านละ 350 บาท  การแข่ชันวิ่งระยะทาง 10 กิโลมตร ค่าสมัครท่านละ 450 บาท การแข่งขันวิ่งระยะทาง 15 กิโลเมตร ค่าสมัครท่านละ 550 บาท การปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ ระยะทาง 15 กิโลเมตร ค่าสมัครท่านละ 350 บาท ผู้สมัครทุกประเภทจะได้รับเสื้อและเหรียญทุกคน

ส่วนรางวัลผู้ชนะเลิศการแข่งขันวิ่งระยะ 10 กิโลเมตร และ 15 กิโลเมตร เวลาดีที่สุด (Over Al) ประเภทชาย และหญิง จะได้รับถ้วยรางวัล และเงิน จำนวน 1,000 บาท  ผู้ชนะเลิศการแข่งขันวิ่งระยะ 10 กิโลเมตร และ 15 กิโลเมตร ประเภทชายและหญิง แต่ละกลุ่มอายุ จะได้รับรางวัล ดังนี้ เงินรางวัลที่ 1 จำนวน 1,000 บาท พร้อมหมวก เงินรางวัลที่ 2 จำนวน 600 บาท พร้อมหมวก  เงินรางวัลที่ 3 จำนวน 400 บาท พร้อมหมวก ส่วนลำดับที่ 4 และ 5 จะได้รับหมวกทุกประเภท ทุกกลุ่มอายุ  รายได้สมทบกองทุนรณรงค์ป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลหนองคาย 

ผู้สนใจสามารถสมัครได้ที่ ห้องการเงินผู้ป่วยใน (ห้องหมายเลข 53) ชั้น 1 โรงพยาบาลหนองคาย หรือ ทาง ออนไลน์ ที่ http://www.nkh.xn--g-d1f.th/ ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่คุณพิชิต บุตรสิงห์ โทร. 081- 8716690

ศุลกากรหนองคาย รวบหนุ่มเจ้าของอู่ซ่อมรถคาด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว พร้อมยาบ้าจำนวน 526 เม็ด อ้างเก็บไว้เสพเอง

       
วันที่ 5 พ.ย. 62  ที่ ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว อำเภอเมืองหนองคาย พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสส์ นายด่านศุลกากรหนองคาย มอบหมายให้ นายกิติภูมิ   คีรีวรรณ  ผอ.ส่วนบริการศุลกากร ด่านศุลกากรหนองคาย ,นายสมบัติ   ฆ้อนทอง หน.ผ่ายสืบสวนและปราบปราม ด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจับกุมแถลงข่าวการจับกุม  นายนิกร  ทองกัญญา อายุ 36 ปี ชาวอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ได้พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 526 เม็ด  ซุกมาในกระเป๋าเงินและกระเป๋ากางเกง ที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสส์ นายด่านศุลกากรหนองคาย
         

การจับกุมครั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ได้สังเกตเห็นนายนิกร  ทองกัญญา  สะพายกระเป๋าสีดำ ลงจากรถแท็กซี่โดยสารระหว่างสะพาน และเข้าทำพิธีการผ่านแดน ท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกตรวจค้น พบยาบ้าซุกซ่อนในกระเป๋าเงินและกระเป๋ากางกางขายาวที่สวมใส่  เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวมาทำการสอบสวนและแจ้งข้อหา ลักลอบนำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และนำตัวมาทำการสอบสวน
     

  
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายนิกร  ทองกัญญา ให้การรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพเปิดอู่ซ่อมรถชื่อ"นพเจริญการยาง" อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี และได้ข้ามไปเยี่ยมแฟนสาวที่ฝั่ง สปป.ลาว เมื่อวันที่ 4  พ.ย. 62 ที่ผ่านมา และได้เสพยาบ้าไป 4 เม็ด จากนั้นได้ซื้อยาบ้าจากเพื่อนที่เป็นชาวลาว จำนวน 526 เม็ด ในราคา 7,500 บาท และจะนำกลับมาไว้เสพเอง แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน
         
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินการตามกฎหมายและจะได้ทำการขยายผลต่อไป

ผู้ว่าพาไปยาม สวนส้มเจ้าจอมขวัญ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ภายใต้กิจกรรม "แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร อนาคตสดใส สร้างรายได้อย่างยั่งยืน"

วันที่ 31 ต.ค. 62 ที่ สวนส้มเจ้าจอมขวัญ บ้านนาโพธิ์ ตำบลหนองปลาปาก อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดโครงการผู้ว่าพาไปยาม ครั้งที่ 2 ประจำปี 2562 พร้อมเป็นประธานมอบผลผลิตส้มให้แก่ห้างสรรพสินค้าแมคโครและบริษัทไปรษณีย์ไทยจำกัด และร่วมปล่อยรถไปรษณีย์ไทย ขนส่งส้มเขียวหนองคาย สู่ผู้บริโภคทั่วประเทศ ซึ่งจังหวัดหนองคาย โดยเกษตรและสหกรณ์จังหวัดหนองคาย จัดโครงการขึ้น

นายอำไพ ประเสริฐสังข์เกษตรและสหกรณ์จังหวัตหนองคาย กล่าวว่า การจัดโครงการผู้ว่าพาไปยามในครั้นี้ ภายใต้กิจกรรม "แหล่งท่องเที่ยวเซิ่งเกษตร อนาคตสดใส สร้างรายได้อย่าวยั่งยืน" โดยคณะทำงานประชาสัมพันธ์การเกษตรและสหกรณ์จัหวัดหนองคาย เป็นเจ้าภาพหลัก ณ สถานที่สวนส้มเจ้าจอมขวัญ  ของนางสาวฤดี พวงจำปา ชื่งปลูกส้มเขียวหวานในพื้นที่กว่า 60 ไร่ โดยในปีนี้ได้มีการเพิ่มช่องทางการตลาดให้มากขึ้น ได้แก่ การจับคู่ค้ากับบริษัทไปรษณีไทย จำกัด โดยไปรษณีย์จังหวัดหนองคาย ช่วยขนส่งและกระจายสินค้าไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเท ในชื่อ "เขียวหนองคาย" ยอดจำหน่ายรวมกว่า 20 ต้น , ห้างแมคโครหนองคาย รอบปฐมฤกษ์ไนวันนี้จำนวน.100 กิโลกรัมและจัดส่งทุกวัน , บริษัท โซกู๊ด วิสาหกิจเพื่อสังคม จำนวน 2 ตัน ทั้งยังพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร กิจกรรมพายเรือชมสวนสัม ซึ่งมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจกว่า 12,000 คน ในรอบปีที่ผ่านมา สร้างรายได้กว่า 1,000,000 บาท

นอกจากนี้ในพื้นที่อำเกอศรีเชียงใหม่ ยังมีสินค้าเด่น ซึ่งจังหวัดหนองคายได้ส่งเสริมการผลิต คือ  "โควากิวหนองคาย" ของนายณัฐพณ กลางวิขัย ฟาร์มหนองคายวากิว บ้านโพนงาม ตำบลหนองปลาปาก อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นผลผลิตโควากืวที่ครบอายุขุนและส่งเข้าโรงแปรสภาพเนื้อสัตว์ อำกอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย และจะมีเนื้อโควากิวหนองคาย จัดจำหน่ายในห้วงเดือนพฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป  จะเห็นว่าสินค้าเกษตรของจังหวัดหนองคายนั้นมีหลากหลาย และเน้นการผลิตตามความต้องการของตลาด จึงมีตลาดรองรับที่แน่นอนช่วยให้เกษตรกรมีเป้าหมายการผลิตและวางแผนการผลิตได้อย่างชัตเจน และสร้างรายได้อย่างย่ำยืน