สนง.ทกจ.อุดรธานี จัดกิจกรรม ปั่น 2 ขา 2 ล้อ 2 น่อง ท่องเมืองมรดกโลก เพื่อเป็นการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวจากการได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และอีกทั้งยังเป็นการยกระดับกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวและกีฬาของจังหวัดอุดรธานีสู่สากล

นางบำเพ็ญพร สุริยกมล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า จังหวัดอุดรธานี บูรณาการร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุดรธานี และชมรมจักรยานจังหวัดอุดรธานี ได้ดำเนินการจัดโครงการส่งเสริมกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวและกีฬา "ปั่น 2 ขา 2 ล้อ 2 น่อง ท่องเมืองมรดกโลก" โดย  มีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี  เป็นประธานเปิดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้โครงการส่งเสริมกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวและกีฬา "ปั่น 2 ขา 2 ล้อ 2 น่อง ท่องเมืองมรดกโลก"  สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวจากการได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และอีกทั้งยังเป็นการยกระดับกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวและกีฬาของจังหวัดอุดรธานีสู่สากล. เพื่อการออกกำลังกายให้มีสุขภาพที่ดี เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการรณรงค์ส่งเสริมการปั่นจักรยาน และเพื่อเป็นการส่งเสริมประชาสัมพันธ์แหล่งโบราณคดีบ้านเชียงและแหล่งศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านชุมชนบ้านเชียง ตลอดจนกระตุ้นให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวซึ่งเป็นมรดกโลกที่อยู่ภายในจังหวัดอุดรธานีเพื่อดึงดูดประชาชนและนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมการดำเนินวิถีชีวิตของชุมชนบ้านเชียงและพักผ่อนในพื้นที่  

             

ด้าน นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี  กล่าวว่า ขอขอบคุณหน่วยงาน องค์กร ทุกภาคส่วน ที่เกี่ยวข้องที่เล็งเห็นความสำคัญของกิจกรรมการออกกำลังกาย โดยใช้โครงการส่งเสริมกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวและกีฬา "ปั่น 2 ขา 2 ล้อ 2 น่อง ท่องเมืองมรดกโลก"เป็นสื่อเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวได้มีกิจกรรมได้พบปะสร้างสัมพันธไมตรีอันดีซึ่งกันและกัน และเป็นการส่งเสริมยกระดับการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดประชาชนและนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงเป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญที่ทำให้รับรู้ถึงการดำรงชีวิตในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปกว่า 5,000 ปีแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่มีพัฒนาการหลายๆด้าน โดยเฉพาะด้านความรู้ความสามารถหรือภูมิปัญญา อันเป็นเครื่องมือสำหรับช่วยให้ผู้คนสามารถดำรงชีวิตและสร้างสังคม-วัฒนธรรมของมนุษย์ได้สืบเนื่องต่อกันมาเป็นระยะเวลายาวนานด้วยเหตุนี้องค์การยูเนสโก จึงได้ขึ้นบัญชีแหล่งวัฒนธรรมบ้านเชียงไว้เป็นมรดกโลก อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวซึ่งเป็นมรดกโลกและเป็นการส่งเสริมยกระดับการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดประชาชนและนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมจังหวัดอุดรธานี

สำหรับกิจกรรมประกอบด้วย การแบ่งกลุ่มนักปั่นจักรยาน ออกเป็น 6 กลุ่ม โดยให้นักปั่นแต่ละกลุ่มเข้าศึกษาแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านชุมชนบ้านเชียง จำนวน 6  ฐาน ฐานที่ 1  การใช้ดินดำทำลูกปัดแบบโบราณและปั้นหม้อ ฐานที่ 2 การย้อมผ้าคราม ฐานที่ 3 ชมบ้านไทพวน ฐานที่ 4 การทำพวงกุญแจ ร้อยดอกไม้ ฐานที่ 5 ฐานการย้อมผ้าโคลนคราม (บ้านดงเย็น) และฐานที่ 6 ฐานอุโบสถดอกบัวกลางน้ำ  นอกจากนั้น ช่วงรับประทานอาหารกลางวัน ยังได้จัดเตรียมอาหารเพื่อการท่องเที่ยวของชุมชนท่องเที่ยวในจังหวัดอุดรธานี  เพื่อให้นักปั่นได้รับประทานเป็นอาหารจากชุมชน อาหารจากชุมชนบ้านเชียง  ตำบลบ้านเชียง อำเภอหนองหาน   อาหารจากชุมชนกุดหมากไฟ ตำบลกุดหมากไฟ อำเภอหนองวัวซอ อาหารจากชุมชนนาดี ตำบลนาดี อำเภอหนองแสง   อาหารจากชุมชนโนนสวรรค์ ตำบลท่าลี่  อำเภอกุมภวาปี  นอกจากนั้น ทางสมาคมหลวงปู่เครื่อง อำเภออุทุมพรวิสัย จังหวัดศรีสะเกษ ยังได้สนับสนุนนางรำมาร่วมกิจกรรมและศึกษาดูงานในครั้งนี้ด้วย

โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จัดกิจกรรม“วันครอบครัวของเด็กพิเศษ รพร.ท่าบ่อ” ประจำปีงบประมาณ 2563

วันที่ 4 ต.ค. 63 ที่ บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง หมู่ 3 ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย แพทย์หญิงชลดา ฤทธิ์วีระเดช  กุมารแพทย์โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ เป็นประธานเปิดกิจกรรม“วันครอบครัวของเด็กพิเศษ รพร.ท่าบ่อ” ประจำปีงบประมาณ 2563 โดยมีนางสาวจุฑามาศ  เหล่าไพบูลย์ นักจิตวิทยา โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ กล่าวรายงาน มีครูแดง บ้านศิลป์ไทย ครูเบิ้ม เติมศิลป์ และครูสดใส ครูศิลปะโรงเรียนเทศบาลเมืองท่าบ่อ ร่วมให้การต้อนรับพร้อมพาเด็กและผู้ปกครองเดินเยี่ยมชมสวนในบ้านทุ่งศิลป์ครูแดงและสอนวาดภาพระบายสี

นางสาวจุฑามาศ  เหล่าไพบูลย์ นักจิตวิทยา โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ กล่าวว่า เมื่อกล่าวถึงปัญหาเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า หรือเด็กพิเศษ ในสังคมไทยนั้น ยังเป็นปัญหาสำคัญที่ควรจะต้องได้รับการแก้ไขและดูแลอย่างถูกวิธี ในเด็กปฐมวัยถือเป็นช่วงวัยที่สมองกำลังมีการพัฒนา ครอบคลุมถึงพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ จึงควรได้รับการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกาย และจิตใจอย่างถูกวิธี  สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้สร้างโปรแกรม THAI Model (Thai Home-based Autism Intervention Model) เพื่อช่วย ผู้ปกครองในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กออทิสติก เด็กพิเศษ ที่บ้าน ผ่านการเล่นและกิจวัตรประจำวันในครอบครัว ซึ่งตัวโปรแกรมจะเน้นความสัมพันธ์ในเรื่องความผาสุกของครอบครัว THAI Model เน้นการสอนเทคนิควิธีการต่างๆ ในการสร้างความสัมพันธ์ สร้างแรงจูงใจให้เด็กเกิดการอยากเรียนรู้ที่บ้านได้  

คลินิกพัฒนาการเด็กในโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ เป็นคลินิกที่ทำงานร่วมกันเป็นสหสาขาวิชาชีพ มีทั้งพยาบาล นักจิตวิทยา และนักกิจกรรมบำบัด เพื่อมุ่งเน้นให้เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า ได้มีการพัฒนาได้ดีขึ้นตามศักยภาพของเด็กแต่ละบุคคล และโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อเป็นโรงพยาบาลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมทำการวิจัยโครงการ THAI Model ร่วมกับสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล รวมถึงทางโรงพยาบาลได้รับเงินสนับสนุนจาก “ครูปาน” ครูสมนึก คลังนอก ศิลปินนักวาดภาพประกอบที่มีชื่อเสียง ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาเด็กพิเศษที่อยู่ในต่างจังหวัด เพื่อใช้ในกิจกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการเด็กพิเศษและครอบครัว ทั้งนี้เพื่อเพิ่มสัมพันธภาพในครอบครัวเด็กพิเศษ การมีกิจกรรมร่วมกันนอกบ้าน จะช่วยลดภาวะความเครียดของผู้ปกครองที่ต้องเลี้ยงดูเด็กในบ้านตลอดเวลา และมีกิจกรรมเสริมทักษะให้เด็กพิเศษ จึงได้จัด  “วันครอบครัวของเด็กพิเศษ รพร.ท่าบ่อ”  ให้กับผู้ปกครองและเด็กพิเศษให้ใช้เวลาร่วมกัน ในการเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ทั้งการเล่านิทาน การใช้ศิลปะระบายสี และการเดินชมสวนตามเส้นทางธรรมชาติ เป็นการพัฒนาการเด็กทั้งทางร่างกาย อารมณ์และจิตใจ การจัดงานมีเด็กอายุ 1 ปี – 7 ปี และผู้ปกครองจำนวน 10 ครอบครัวร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

กลุ่มรักท่าบ่อน้ำโมง ก้าวหน้า ร่วมกับ อบจ.หนองคาย จัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนหนองคายต้านภัยโควิด19 คัพ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2563 และการแข่งขันเรือประเพณีโบราณไม่เกิน 5 ฝีพาย

วันที่ 4 ต.ค. 63 ที่สวนสมเด็จย่าเทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายยุทธนา ศรีตะบุตร นายก อบจ.หนองคาย เป็นประธานเปิดการแข่งขัน ฟุตบอลเยาวชนหนองคายต้านภัยโควิด19 คัพ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2563 และการแข่งขันเรือประเพณีโบราณไม่เกิน 5 ฝีพาย ซึ่ง ดร.สมเกียรติ ตระกูลฟาร์มธวัช รองนายก อบจ.หนองคาย ในฐานะประธานกลุ่มรักท่าบ่อน้ำโมง ก้าวหน้า และสมาชิกกลุ่มฯ ร่วมกันจัดขึ้น โดยมีสมาชิกสภา อบจ. แขกผู้มีเกียรติ นักกีฬา และประชาชนทั้ง 19 ชุมชนเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

ดร.สมเกียรติ ตระกูลฟาร์มธวัช รองนายก อบจ.หนองคาย กล่าวว่า ชมรมกีฬาฟุตบอลอาวุโสหนองคาย ร่วมกับชมรมคนรักฟุตบอลท่าบ่อ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย ได้จัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลเยาวชนหนองคาย ต้านภัยโควิด 19 คัพ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2563 เพื่อพัฒนาทักษะการเล่นฟุตบอลเยาวชนให้มีคุณภาพสูงขึ้น เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นเวทีให้เยาวชนในการรณรงค์และต่อต้านยาสพติดและปลอดภัยจากโรคโควิด 19 อย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความรัก ความสามัดดี มีน้ำใจเป็นนักกีพาแก่เพื่อนนักฟุตบอล งบประมาณในการจัดการแข่งขันได้รับเงินสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย เพื่อดำนินการเป็นเงิน 160,000 บาท โดยจัดการแข่งขันออกเป็น 3 รุ่น ดังนี้ 1. รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปื, 2. รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี, 3. รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปื รวมนักกีฬาฟุตบอล ผู้จัดการทีม และผู้เกี่ยวข้องเป็นชาวจังหวัดหนองคายประมาณ 700 คน โดยได้รับความอนุเคราะห์ผู้ตัดสินจากจังหวัดหนองคาย มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติวิทยาเขตอุดรธานี

สำหรับการแข่งขันเรือ กลุ่มรักท่าบ่อน้ำโมง กัาวหน้า ร่วมกับ กลุ่มรักหนองคาย ได้จัดการแข่งขันเรือประเพณีท้องถิ่นโบราณ ไม่เกิน 5 ฝีพายขึ้น เนื่องจากสวนสมเด็จย่าฯแห่งนี้เคยจัดการแข่งขันเรือประเพณีโบราณในสมัยก่อนเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว แต่ไม่มีการจัดการแข่งขันมาเนิ่นนาน เพื่อเป็นการรักษาประเพณีวัฒนธรรม เราจึงนำกลับมาจัดขึ้นอีกครั้ง เพื่อให้คนในชุมชนทั้ง 19 ชุมชนได้มีกิจกรรมผ่อนคลายมาตรการปลดล็อคทางสังคมตามนโยบายของรัฐบาลใน ระยะที่ 3 เพื่อให้คนในชุมชนได้มีส่วนร่วม ใช้เวลาว่างไห้เป็นประโยชน์และเกิดความรักสมัครสมานสามัคคีกันในหมู่คณะ การแข่งขันเรือประเพณีแบ่งการแข่งขันออกเป็นดังนี้ 1. การแข่งขันเรือประเภทชาย ไม่เกิน 5 ฝีพาย 2. การแข่งขันเรือประเภทหญิง ไม่เกิน 5 ฝีพาย 3. การแข่งขันประกวดกองเชียร์ 19 ชุมชน