วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563

อำเภอท่าบ่อร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ จัดอบรมโครงการเสริมสร้างองค์ความรู้จิตอาสาพระราชทาน และการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ

วันที่ 23 ธ.ค.63 ที่หอศิลป์ครูแดงบ้านศิลป์ไทย แหล่งเรียนรู้ศิลปะและวัฒนธรรมของชุมชน ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายทักษิณ สุวรรณศรี ปลัดอาวุโสฯ รักษาราชการแทนนายอำเภอท่าบ่อ ได้จัดการอบรมโครงการเสริมสร้างองค์ความรู้จิตอาสาพระราชทาน และการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ โดยมี นายสมควร ใจซื่อ นายอำเภอโพธิ์ตาก, นายนฤทธิ์  จันทรัตน์ เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ และนายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์ ประธานชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย ร่วมเป็นวิทยากรให้องค์ความรู้ในการบรรยายเน้นให้เข้าใจการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการจิตอาสาพระราชทานถึงปรัชญาหลักการ แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง การสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมการวิเคราะห์ สังเคราะห์ การสร้างภาวะผู้นำ การปรับเปลี่ยนวิธีคิด การสร้างจิตสำนึกใหม่แบบพึ่งตนเอง การเรียนรู้กระแสการเปลี่ยนแปลงและรู้เท่าทัน ในการจัดอบรมครั้งนี้ มีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนเข้าร่วมกว่า 200 คน





จากนั้นนายทักษิณ สุวรรณศรี ปลัดอาวุโสฯ รักษาราชการแทนนายอำเภอท่าบ่อ ได้เป็นประธานเปิดป้ายศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย โดยนายทักษิณ สุวรรณศรี ปลัดอาวุโสฯ กล่าวว่า พื้นที่หอศิลป์ครูแดงบ้านศิลป์ไทย แห่งนี้ เป็นพื้นที่ที่เหมาะให้เป็นศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริระดับอำเภอท่าบ่อ เพราะมีปัจจัยหลายๆอย่างที่เหมาะสมในการขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริตามนโยบายกรมการปกครอง โดยกรมการปกครองได้จัดทำกรอบแนวทางการขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อให้อำเภอใช้เป็นแนวทางการดำเนินงานในพื้นที่ในด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านการศึกษาค้นคว้ารวบรวมพัฒนาองค์ความรู้ ด้านการเตรียมชุมชนและสร้างเครือข่าย ด้านการบูรณาการ และศูนย์เรียนรู้กลุ่มสาระด้านการเกษตรผสมผสาน เป็นต้น














วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ผู้ว่าฯหนองคาย ประกาศคำสั่งคุมเข้มชายแเดน สถาบันเทิง งานรื่นเริง ตลาดสด ผู้เดินทางมาจากสมุทรสาครและใกล้เคียง สกัดโควิด-19 ฝ่าฝืนโทษหนัก


วันที่ 22 ธ.ค.63 นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ลงนามในประกาศจังหวัดหนองคาย เรื่อง มาตรการควบคุมพื้นที่ และกำกับดูแลสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด- 19) ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติของสถานที่เสี่ยง เช่น เข้มงวดควบคุมการลักลอบเข้าประเทศ และการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว โดยตั้งเครื่องกีดขวางและเพิ่มการลาดตระเวนตลอด 24 ชม. หากพบมีการลักลอบเข้าประเทศให้ดำเนินการตามกฏหมายอย่างเข้มข้น จัดตั้งจุดคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้าออกจังหวัดหนองคาย บริเวณด่านตรวจหนองสองห้อง ต.ค่ายบกหวาน ถนนมิตรภาพ อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย โดยให้มีมาตรการคัดกรองประชาชนให้เป็นไปตามมาตรการทางสาธารณสุข


สำหรับประชาชนที่เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดสมุทรสาคร (จังหวัดสมุทรสงคราม ราชบุรี และจังหวัดนครปฐม) และจังหวัดที่มีข้อมูลผู้ติดเชื้อหรือเดินทางเข้ามาในพื้นที่เสี่ยงของจัหวัดสมุทรสาคร เช่น จังหวัดฉะเชิงเทรา สุพรรณบุรี และสมุทรปราการ ให้มีการรายตัวต่อเจ้าหน้าที่ฯ และต้องกักตัว 14 วัน


นอกจากนี้ยังได้กำชับและเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด เช่น กิจกรรมเคาท์ดาวน์ กิจกรรมทางศาสนา กิจกรรมตามประเพณี การจัดคอนเสิร์ต  สถานบันเถิง รวมถึงสถานที่ที่จะจัดงานรื่นเริง และตลาดสด ตลาดนัด โดยมีรายละเอียดดังนี้





ทหารมอบไออุ่น ให้ผู้สูงอายุ-ผู้ป่วยติดเตียง ที่ประสบภัยหนาว ในพื้นที่ อ.สังคม จ.หนองคาย

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.63 ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย  พ.อ.มงคล  หอทอง ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, พ.อ.ศิวดล  ยาคล้าย รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2  กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พร้อมคณะผู้บริหารหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ ระดับผู้บริหาร กองทัพภาคที่ 2 รุ่นที่ 3 ได้นำเสื้อกันหนาวกองทัพบกและผ้ากันหนาวให้กับผู้สูงอายุในพื้นที่ตำบลบ้านม่วง จำนวน 200 ตัว นำผ้าห่มเสื้อกันหนาวของกองทัพบกไปมอบให้ผู้ผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น 

         



ตำบลบ้านม่วงเป็นพื้นที่อยู่ติดกับภูเขาและติดแม่น้ำโขง  ทำให้อากาศหนาวเย็นกว่าพื้นที่อื่นอุณหภูมิวัดได้ 8 องศาเชลเซียน สร้างความประทับใจให้กับพี่น้องประชาชนและผู้ป่วยติดเตียงเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ พ.อ.มงคล  หอทอง ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี,พ.อ.ศิวดล  ยาคล้าย รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2  กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และคณะยังได้ เดินทางไปตรวจเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจกำลังใจ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็งบ้านหาดคำ ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย ที่จัดเวรยามตรวจตราแนวชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขง เพื่อป้องกันการลักกลอบนำเข้ายาเสพติดรวมไปถึงแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองมา ที่อาจจะนำไวรัสโควิด-19  เข้ามาระบาดในประเทศ













วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2563

สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดหนองคาย ลงพื้นที่เทศบาลเมืองท่าบ่อ ตรวจสอบการบริหารจัดการของกองการประปาฯ

วันที่ 21 ธ.ค.63 ที่ห้องประชุมลำโขง เทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายคฑาวุธ โมระพัฒน์ เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริต ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดหนองคาย ปฏิบัติราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วยคณะกรรมการ ป.ป.ช. และกลุ่มเครือข่ายป้องกันการทุจริตในนามชมรม STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดหนองคาย ลงพื้นที่ขอความร่วมมือเพื่อขอทราบข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารการประปาเทศบาลเมืองท่าบ่อ โดยมี นายประดับ สังฆะมณี ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ, จ่าเอกประดิษฐ์ อ่นจารย์ รักษาการผู้อำนวยการกองการประปาฯ นำเจ้าหน้าที่กองการประปาฯให้การต้อนรับ 




สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ของสำนักงาน ป.ป.ช. และชมรม STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดหนองคาย เพื่อสำรวจพื้นที่ การประกอบกิจการที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และนำข้อมูลภาคสนามสู่ชมรมฯ เพื่อกำหนดแผนแห่งการเฝ้าระวัง



ทั้งนี้กองการประปาเทศบาลเมืองท่าบ่อ มีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการควบคุมการผลิตและการจำหน่ายน้ำประปา การติดตั้งประปา การควบคุมการดำเนินการเกี่ยวกับการงบประมาณรายได้ รายจ่าย การบัญชี พัสดุ การวางแผน ปรับปรุงในข้อบกพร่องต่างๆ ของการประปา รวมทั้งการปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งระบบน้ำที่ใช้อุปโภคบริโภคภายในพื้นที่เทศบาลฯนั้น ได้มีการก่อสร้างมาตั้งแต่ยังเป็นสุขาภิบาล ปี 2498 มีพื้นที่ 2.08 ตารางเมตร ต่อมาเมื่อปี 2516 ได้ขยายพื้นที่ออกเป็น 12.62 ตารางเมตร และได้มีการเปลี่ยนแปลงฐานะจากสุขาภิบาลฯ เป็นเทศตำบลและเทศบาลเมืองตามลำดับ ทำให้ต้องมีการขยายเขตการจ่ายน้ำประปาให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 19 ชุมชน รวมประมาณ 5,800 ครัวเรือน ผลิตน้ำประปาได้ 400 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง 




จากการตรวจสอบการบริหารจัดการกิจการประปา พบว่ามีต้นทุนการผลิตสูงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับราคาจำหน่ายน้ำขั้นต่ำ ทำให้การบริหารกิจการประปา มีรายจ่ายมากกว่ารายรับ อีกทั้งคุณภาพระบบท่อส่งน้ำมีการใช้งานมานาน มีตระกอนตกค้าง ทำให้บางพื้นที่น้ำประปามีปัญหาน้ำไม่ไหล หรือไหลไม่ต่อเนื่อง น้ำไม่สะอาด ขุ่นเป็นตะกอนแดงและตะกอนขาว มีกลิ่นคลอรีน เป็นการเสียโอกาสที่ควรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปริมาณน้ำที่สูญเสีย รวมถึงการตั้งงบประมาณในการซ่อมแซมต้องผ่านการเห็นชอบจากสภาเทศบาลฯ ถึงจะดำเนินการได้









จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...