วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2566

สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ โดย รพร.ท่าบ่อ จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการฝาตัดมะเร็งตับและท่อทางเดินน้ำดี ระหว่างวันที่ 1-2 มีนาคม 2566 หวังให้เกิดศูนย์การผ่าตัดตับและท่อน้ำดีขั้นสูงอย่างน้อย 1 แห่งในทุกเขตบริการสุขภาพ สนองนโยบายกระทรวงสาธารณสุข

วันที่ 1 มี.ค. 2566 ณ ห้องประชุมอิสานฮอลล์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายแพทย์ณรงค์ จันทร์แก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการฝาตัดมะเร็งตับและท่อทางเดินน้ำดี ประจำปี 2566 ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ โดยโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จัดโครงการฯขึ้น ระหว่างวันที่ 1-2 มีนาคม 2566




พญ.ฤดีมน สกุลคู ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ กล่าวว่า ด้วยโรคมะเร็งตับและท่อทางเดินน้ำดี เป็นสาเหตุการตายอันดับต้น ๆ ของประชากรไทย การรักษาที่ให้ผลดีที่สุดในปัจจุบันยังเป็นการผ่าตัด และเป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อน สามารถทำได้ในโรงพยาบาลตติยภูมิที่มีศักยภาพสูงเท่านั้น ซึ่งเป็นข้อจำกัดการเข้าถึงรักษา  สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์  กระทรวงสาธารณสุข  จึงได้ทำโครงการพัฒนาศักยภาพศัลยแพทย์ด้านมะเร็งตับในเขตบริการสุขภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านการรักษาการผ่าตัดตับเน้นการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โดยมีความคาดหวังให้เกิดศูนย์การผ่าตัดตับและท่อน้ำดีขั้นสูงอย่างน้อย 1 แห่งในทุกเขตบริการสุขภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการบริการที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน




โดยในครั้งนี้สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ ได้เลือกโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีความพร้อมด้านศัลยแพทย์ ที่มีศักยภาพสูงในด้านการผ่าตัดส่องกล้องเป็นสถานที่ร่วมโครงการฯ  เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ในการพัฒนาศักยภาพและองค์ความรู้ของแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง  ให้เกิดความชำนาญด้านการผ่าตัดตับและท่อทางเดินน้ำดี ตามยุทธศาสตร์ของ Service plan ด้านโรคมะเร็ง ในการเตรียมความพร้อมเป็นศูนย์รับส่งต่อผู้ป่วยมะเร็งตับและท่อน้ำดี ในเขตบริการสุขภาพที่ 8 นี้




ในการดำเนินโครงการฯครั้งนี้ ประกอบด้วย การบรรยายหลักการผ่าตัดมะเร็งตับและท่อทางเดินน้ำดี และการสาธิตการผ่าตัดมะเร็งตับและท่อทางเดินน้ำดี โดยคณะวิทยากรจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย แพทย์ พยาบาลและสหสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องจากโรงพยาบาลทั่วประเทศ  นอกจากนี้ยังมีคณะแพทย์จากโรงพยาบาลมโหสถ ,โรงพยาบาลเจเนอรัลมิตรภาพ และโรงพยาบาลเสดถาทิลาด สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ให้ความสนใจและเข้าร่วมการประชุมวิชาการ อีกด้วย











ตร.สืบสวนหนองคาย ร่วมสาธารณสุข จับหนุ่มหนองคายออกคุกได้ 4 เดือน ในคดียาเสพติด ผันตัวเปิดเพจไลฟ์สดขายยาวาร์ป ยาเสียสาวทางออนไลน์ แถมยังคิดค้นทำสูตรผสมยาเอง เตรียมจำหน่ายให้ลูกค้าทางเฟซบุ๊ก ก่อน จนท.นำหมายศาลบุกค้นบ้านยึดของกลางยาอันตรายเพียบ

วันที่ 28 ก.พ. 2566 เวลา 16.30 น. ที่ หน้ากองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย นายราชันต์ ซุ้นฮั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พล.ต.ต.พรชัย ชะลอเดช ผบก.ภ.จ.หนองคาย , นพ.ณรงค์ จันทร์แก้ว นายแพทย์ สสจ.หนองคาย, พ.ต.อ.สุรกิจ ค้วนเครือ ผกก.สส.ภ.จ.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจและสาธารณสุข จ.หนองคาย ร่วมกันแถลงข่าวในการจับกุมนายต๋อ (ขอสงวนชื่อสกุลจริง) อายุ 27 ปี ราษฎรบ้านนาฮี ต.ค่ายบกหวาน อ.เมืองหนองคาย พร้อมของกลางประเภทวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทและยาอันตราย เช่น โคน่าซีแพม, ลอล่าซีแพม, เคตามีน, ยาเม็ดทรามาดอล, ฟาเทคไซรับ เป็นต้น และยังมียาน้ำผสมเองอีกจำนวนหนึ่ง




การจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า พบเพจใส่ชื่อ “หมอต๋อ ไม่เมาได้ไง” ทางเฟซบุ๊กชื่อ “Surathep Tor” ลักลอบจำหน่ายยาไม่ทราบชนิด เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย พร้อมชุดจับกุมจึงได้รายงานให้นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย  และ พล.ต.ต.พรชัย  ชลอเดช ผบก.ภ.จ.หนองคาย ทราบ จากนั้นได้ให้สายข่าวทำการติดต่อล่อซื้อยาดังกล่าวจากเฟซบุ๊ก “Surathep Tor” โดยสั่งซื้อผ่านทางไลน์ “Surathep Tor” โดยได้โอนเงินค่ายาผ่านระบบพร้อมเพย์




ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับพัสดุ เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 66 ภายในกล่องพัสดุมียาของกลางที่สั่งซื้อ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่เภสัชกร จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย มาทำการตรวจสอบ เบื้องต้น พบว่าเป็นยาออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 4 และยาอันตราย เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายต๋อ (ผู้ต้องหา) อยู่บ้านนาฮี ต.ค่ายบกหวาน อ.เมืองหนองคาย เจ้าหน้าที่ได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดหนองคาย


กระทั้งเมื่อเช้าของวันที่ 28 ก.พ. 66 เวลาประมาณ 07.30 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านที่นายต๋อ ตามหมายค้นของศาลฯ พบของกลางจำนวนมากอยู่ภายในบ้าน ซึ่งมีบางชนิดที่นายต๋อ ได้คิดและผสมขึ้นมาเอง เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าทั้งทางเฟซบุ๊ก “Surathep Tor”  และทางเพจ“หมอต๋อ ไม่เมาได้ไง”  รวมทั้งไลน์ “Surathep Tor” เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว พร้อมของกลางทั้งหมดมาที่  กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย


จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ทราบว่าเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทและยาอันตราย ต้องได้รับอนุญาตในการผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย มีไว้ในครอบครอง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา จำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทโดยไม่ได้รับอนุญาต , มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต , ผลิตยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต , จำหน่ายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต , มียาแผนปัจจุบันไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต , มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการตรวจสอบประวัติ ของผู้ต้องหาพบว่าเพิ่งพ้นโทษเพียง 4 เดือน เกี่ยวกับคดียาเสพติด จากนั้นได้เปิดขายยาทางออนไลน์มาแล้วเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป





วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

อบต.โพนสา ร่วมกับประมงจังหวัดหนองคาย ประมงอำเภอท่าบ่อ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดหนองคาย ปล่อยพันธุ์ปลายี่สกไทย 40,000 ตัว คืนสู่แม่น้ำโขง พร้อมเปิดหาด"ท่ามะเฟือง" รับนักท่องเที่ยวเล่นน้ำคลายร้อนไปจนถึงฤดูน้ำหลาก

วันที่ 28 ก.พ. 2566 ที่ ริมฝั่งแม่น้ำโขง หมู่ 6 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พันเอกสุภัทร ชูตินันทน์ รองผู้บังคับการ กองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี เป็นประธานเปิดโครงการเพาะพันธุ์ปลายี่สกไทยในแม่น้ำโขง และกิจกรรมเปิดเล่นน้ำหาดท่ามะเฟือง โดยองค์การบริหารส่วนตำบลโพนสา สำนักงานประมงจังหวัดหนองคาย  สำนักงานประมงอำเภอท่าบ่อ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดหนองคาย และทุกภาคส่วนที่เที่ยวข้อง จัดให้มีขึ้น  โดยร่วมปล่อยพันธุ์ปลายี่สกไทย จำนวน 40,000 ตัว คืนสู่แม่น้ำโขง เพื่อแพร่ขยายพันธุ์เพิ่มปริมาณจำนวนสัตว์น้ำให้มากยิ่งขึ้น และเป็นการสร้างความสมดุล คืนความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ธรรมชาติ เป็นการอนุรักษ์สัตว์น้ำและเป็นแหล่งอาหารโปรตีนให้กับชุมชน ที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขงให้มีสัตว์น้ำไว้บริโภคต่อไป เพื่อเสริมสร้างให้ประชาชนมีส่วนร่วม และรู้สึกหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น







พร้อมกันนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลโพนสา ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมเปิดเล่นน้ำหาดท่ามะเฟือง เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในตำบลโพนสาให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการสร้างงานสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในตำบลโพนสา และต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยว ในจังหวัดหนองคายเป็นจำนวนมาก




นายอภิสิทธิ์ วงศรีแก้ว นายก อบต.โพนสา กล่าวว่า วันนี้หาดท่ามะเฟืองได้เปิดอย่างเป็นทางการ  จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวที่สนใจในบรรยากาศกลางลำแม่น้ำโขงของหาดท่ามะเฟือง ซึ่งในบริเวณชายหาด จะมีจุดเช็คอินเป็นทุ่งทานตะวัน และทุ่งปอเทืองบนชายหาดกลางแม่น้ำโขง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำเป็นหาดท่ามะเฟืองแคมป์ปิ้งเป็นที่พักผ่อน พอหมดหน้าหนาวก็ต่อด้วย"หาดท่ามะเฟือง"  เพื่อให้นักท่องเที่ยวเล่นน้ำคลายร้อน ซึ่งเป็นหาดทรายที่มีชื่อในระดับหนึ่งของประเทศไทย ในเรื่องของการท่องเที่ยว ตอนนี้หาดท่ามะเฟืองมีทุกอย่างไว้รองรับ ไม่ว่าจะเป็นด้านความปลอดภัย มีเรือกู้ชีพ มีคนเฝ้ายามรักษาความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตลอดเวลา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยว ณ หาดท่ามะเฟือง และยังมีหลายสิ่งหลายอย่างไว้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร จำนวน 67 ร้าน มีซุ้มอาหารกว่า 200 ซุ้มไว้บริการนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ นอกจากนี้เรายังมีกล้องวงจรปิด CCTV และศูนย์ประชาสัมพันธ์ ยามชายฝั่งในการป้องกันรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี และบริเวณตรงนี้อยู่ตรงกลางระหว่างเกาะดอนต่ำกับฝั่งตลิ่งแม่น้ำโขงของประเทศไทย ซึ่งเกาะดอนต่ำเป็นเกาะกลางแม่น้ำโขง มีพื้นที่ 2,800 ไร่ เป็นของประเทศไทย 100 % กำลังพัฒนาสู่การท่องเที่ยวในอนาคตต่อไป จึงขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยว มาเที่ยวเล่นน้ำคลายร้อนที่หาดท่ามะเฟือง เริ่มตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสงกรานต์ หรือยาวจนถึงน้ำหลากช่วงพฤษภาคม ถึงมิถุนายน 


















จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...