นายกกิ่งกาชาดอำเภอท่าบ่อ นำทีมช่วยเหลือชาวบ้าน หลังพายุฤดูร้อนพัดถล่ม

หนองคาย – นายกกิ่งกาชาดอำเภอท่าบ่อ นำทีมช่วยเหลือชาวบ้าน หลังได้รับความเดือดร้อนจากเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนกว่า 100 หลังคาเรือนได้รับความเสียหาย เช่นเดียวกับฟาร์มไก่

       วันนี้ (27 เม.ย. 2561) ที่ศาลาการเปรียญวัดสระสุวรรณ หมู่ที่ 11 บ้านกองนาง ตำบลกองนาง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร นายกกิ่งกาชาดอำเภอท่าบ่อ พร้อมด้วยสมาชิกกิ่งกาชาดอำเภอท่าบ่อ หัวหน้าส่วนราชการ  เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลกองนาง ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือน จนทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย

       โดยกาชาดอำเภอท่าบ่อ ได้มอบถุงยังชีพให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนในเบื้องต้น ขณะที่เทศบาลฯในพื้นที่ได้นำช่างเข้าซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย จากการถูกลมพายุพัดหลังคาปลิวหายไป และลูกเห็บตกใส่หลังคาจนเป็นรูมองเห็นท้องฟ้า เหมือนท้องฟ้าจำลอง ซึ่งอำเภอท่าบ่อถูกพายุฤดูร้อนและลูกเห็บถล่ม 3 ตำบล เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2561 ที่ผ่านมา โดยตำบลกองนางมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 196 หลังคาเรือน ตำบลบ้านถ่อน 5 หลังคาเรือน และฟาร์มไก่ 2 โรงเรือน ตำบลโพนสา 1 หลังคาเรือน รวมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 202 หลังคาเรือน ฟาร์มไก่ 2 โรงเรือน

      เบื้องต้นได้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 3 ตำบล เร่งสำรวจความเสียหายและจัดงบประมาณไปให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นก่อน แต่หากตำบลใดที่งบประมาณไม่เพียงพอก็ให้รายงานมายังทางอำเภอ เพื่อเสนอรายงานจังหวัดพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการอย่างเร่งด่วนต่อไป.

ผู้ว่าฯหนองคาย เหล่ากาชาดจังหวัด มอบถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชน อ.ศรีเชียงใหม่ ถูกพายุฤดูร้อนถล่ม

หนองคาย – ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัด นำทีมลงพื้นที่มอบถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชนอำเภอศรีเชียงใหม่ ถูกพายุฤดูร้อนถล่ม ทำให้ต้นไม้ล้มทับบ้านและรถจักรยานยนต์พังเสียหาย

       วันนี้ (27 เม.ย. 2561) ที่ศาลาการเปรียญวัดสุมงคลมังคราราม ตำบลพานพร้าว อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยนางวัชรินทร์ จิตรวิเศษ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย นายโสภณ ห่วงญาติ นายอำเภอเมืองหนองคาย(รักษาราชการแทนปลัดจังหวัดหนองคาย) นายวรรณพล ต่อพล นายอำเภอศรีเชียงใหม่ นางสาววรางคณา ศิลปะกิจ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองคาย พ.ต.อ.ชัยณรงค์ บุญด้วง ผกก.สภ.ศรีเชียงใหม่  ร.ต.ศราวุฒิ ปาระศรี ผบ.หมวดรักษาความสงบ ที่ 2 กกล.รส.จังหวัดหนองคาย และสมาชิกเหล่ากาชาด เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2561 ที่ผ่านมา โดยมีในพื้นที่อำเภอศรีเชียงใหม่มีประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อน 2 ตำบล คือ ตำบลพานพร้าว 268 ครัวเรือน และตำบลพระพุทธบาท 1 ครัวเรือน รวมจำนวน 269 ครัวเรือน และยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติมอีก ทั้งนี้พายุฤดูร้อนพัดถล่มอำเภอศรีเชียงใหม่ ทำให้ต้นไม้ล้มทับบ้านและรถจักรยานยนต์พังเสียหาย พายุยังพัดเข้าบ้านประชาชน หอบเอาหลังคาหายไปทั้งหลัง เคราะห์ดีที่ไม่ใครได้รับอันตรายจากเหตุการณ์นี้

      ขณะเดียวกัน สำนักสนองงานพระราชดำริ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยโครงการพัฒนาลุ่มน้ำทอน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดหนองคาย นำโดย นายชัยพิชิต สอนสมนึก หัวหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำทอน อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ นำเจ้าหน้าที่จิตอาสาเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนในเบื้องต้น ด้วยการร่วมกันปรับปรุงและซ่อมแซมหลังคาบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหาย เป็นการลดภาระค่าใช้จ่าย สร้างขวัญและกำลังใจให้ทุกคนสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมีความสุข.

ผบ.ทบ. ลงพื้นที่หนองคาย ติดตามงานฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองกอมเกาะ

หนองคาย - พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ( ผบ.ทบ. )และ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (รอง ผอ.รมน.)ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ โดยความร่วมมือ ทบ.- มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ

       วันนี้ (27 เม.ย. 2561) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ( ผบ.ทบ. )และรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (รอง ผอ.รมน.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองกอมเกาะ  ต.เมืองหมี  อ.เมืองหนองคาย ซึ่งกองพันทหารช่างที่ 3 กองพลทหารราบที่ 3 รับผิดชอบ โดยความร่วมมือ ทบ. – มูลนิธิอุทกพัฒน์ ประจำปี 2560 โดยมี พันโทณัฐพล โรจนบุรานนท์ ผู้บังคับกองพันทหารช่างที่ 3 กองพลทหารราบที่ 3   บรรยายสรุปผลการปฏิบัติงาน โครงการปรับปรุงและฟื้นฟูแหล่งน้ำ (ความร่วมมือ ทบ. – มูลนิธิอุทกพัฒน์) ประจำปีงบประมาณ 2560  โดยมี นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชนตำบลเมืองหมี และชาวบ้านในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ

           

       โครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองกอมเกาะ  ครม.ได้มีมติ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2560 เห็นชอบในหลักการให้กองทัพบก ดำเนินโครงการปรับปรุงและฟื้นฟูแหล่งน้ำ (ความร่วมมือ ทบ. – มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ) ประจำปี 2560 จำนวน  22 โครงการ ในพื้นที่ 15 จังหวัด ซึ่งกองพันทหารช่างที่ 3 กองพลทหารราบที่ 3 รับผิดชอบในพื้นที่หนองกอมเกาะ ต.เมืองหมี  อ.เมือง จ.หนองคาย ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ

             

      หนองกอมเกาะ มีขนาดพื้นที่ 2,800 ไร่ มีราษฏรในพื้นที่ใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำจำนวน 3 ตำบล 8 หมู่บ้าน 2,878 ครัวเรือน ซึ่งในพื้นที่ประสบปัญหาน้ำไม่พอใช้ ในการอุปโภค-บริโภค คณะกรรมการหมู่บ้าน/ผู้นำชุมชน จึงได้แลกเปลี่ยนแนวความคิดกับชุมชน เครือข่ายและมูลนิธิอุทกพัฒน์ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะตื้นเขิน ให้มีความลึกเพิ่มขึ้น ราษฎรมีน้ำสำรองใช้ทำการเกษตรเลี้ยงสัตว์ และผลิตประปาสู่ชุมชน

            

       หนองกอมเกาะ มีลักษณะ ทางกายภาพคือเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ทำให้น้ำในบริเวณใกล้เคียงไหลมารวมกัน เกินเป็นหนองน้ำขึ้น ซึ่งในตัว หนองกอมเกาะ เองนั้น มีพื้นที่สูงต่ำ ไม่เท่ากัน โดยที่บริเวณกลางหนองมีลักษณะต่ำเป็นแอ่ง บริเวณขอบหนองเป็นเนินดินสูง ทำให้ราษฎรในพื้นที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำได้เต็มประสิทธิภาพ

     

       ทางกองพันทหารช่างที่ 3 กองพลทหารราบที่ 3 จึงได้เข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว ดำเนินการขุด ครอบคลุม พื้นที่ 70 ไร่ มีความกว้าง 50 ม. ยาว 2,200 ม. ลึก 3.0 – 3.5 ม. ความลาดชัน 1:1.5  นำดินดังกล่าวมากั้นแนวเขต พัฒนาเส้นทางสัญจร ลานสาธารณะ ลานกีฬา ถนน วัด และ อบต.  งานวางท่อรับน้ำแนวเดียว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 ม. พร้อมหินเรียงป้องกันการกัดเซาะ จำนวน 4 จุด และงานถนนลูกรัง กว้าง 6 ม. ยาว 2,450 ม.

    

       หลังจากดำเนินการแล้วเสร็จ หนองกอมเกาะจากเดิมเก็บน้ำได้ 2.2 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นเป็น 2.55 ล้านลูกบาศก์เมตร เกษตรกรและประชาชนจะได้รับประโยชน์มีน้ำใช้อย่างพอเพียงในช่วงหน้าแล้ง ประมาณ 2,878 ครัวเรือน ( 3 ตำบล , 8 หมู่บ้าน)   มีการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งเพิ่มมากขึ้น และจะกระจายน้ำเข้าสู่พื้นที่การเกษตร ประมาณ 2,560 ไร่   อีกทั้ง เกิดระบบเชื่อมต่อทางน้ำเข้า – ออก ได้ดียิ่งขึ้น ฟื้นคืนระบบนิเวศ.