วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ฝึกอาชีพเสริม ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย!!..สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดหนองคาย เดินหน้าจัดฝึกอาชีพเสริมสาขาการทำขนมไทยและสาขาการประกอบอาหารไทย ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ ในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ เพื่อนำไปประกอบอาชีพสร้างรายได้





       วันที่ 2 ก.ค. 2561 ที่อาคารลานกีฬา หมู่ที่ 2 บ้านป่างิ้ว ตำบลท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดหนองคาย จัดอบรมโครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ และความมั่นคงในชีวิต หลักสูตรการฝึกอาชีพเสริมให้แก่ผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ ในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ สาขาการทำขนมไทยและสาขาการประกอบอาหารไทย โดยมี นายประสิทธิ์ ฤทธิ์มหา ปลัดอาวุโสอำเภอท่าบ่อ เป็นประธานเปิดโครงการ

        สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดหนองคาย ได้จัดอบรมโครงการฯดังกล่าว ตามมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/ปี เพื่อให้ผู้ที่มีรายได้น้อย มีความรู้ ความสามารถ และทักษะฝีมือที่จะนำไปใช้ในการทำงาน หรือประกอบอาชีพอิสระได้ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถมีรายได้เพิ่มขึ้น และก้าวพ้นขีดความยากจน โดยการฝึกอบรบสาขาการทำขนมไทยและสาขาการประกอบอาหารไทย จะฝึกในระหว่างวันที่ 2-4 กรกฎาคม 2561 รวม 21 ชม. ชั่วโมง มีผู้เข้าฝึกอบรม จำนวน 47 คน






















วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

วงจรปิดช่วยจับโจร!!..ตำรวจท่าบ่อตามรวบโจรแสบวันเดียวตระเวนงัดบ้านสองท้องที่ หลังวงจรปิดจับภาพคนร้ายแอบงัดบ้านชัดเจน ได้ทรัพย์สินไปจำนวนมาก อ้างนำเงินไปจ่ายงวดรถ





      วันที่ 1 ก.ค. 2561  พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กรองทิพย์ ผกก.สภ.ท่าบ่อ พ.ต.ท.ปริวัฒน์ สัจจาพันธ์ รอง ผกก.(สืบสวน) สภ.ท่าบ่อ พ.ต.ท.วิริยภาพ วิริยะวังพรม สว.อก.ปฏิบัติหน้าที่ สว.สส.สภ.ท่าบ่อ พ.ต.ต.เนติพงษ์ จำนงนิตย์ สารวัตร(สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมตัวนายวัชรินทร์ สนโคกเนิน อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112/7 หมู่ 14 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น หลังร่วมกับพวกก่อเหตุงัดร้านท่าบ่อสัตวแพทย์  ร้านควิก ลิสซิ่ง สาขาท่าบ่อ ท้องที่ สภ.ท่าบ่อ และร้านเอบีคอมพิวเทค ท้องที่ สภ.สังคม กวาดทรัพย์สินไปจำนวนมาก

       พ.ต.ต.เนติพงษ์ จำนงนิตย์ สารวัตร(สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 61 เวลา 08.00 น. ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 หนองคาย ว่ามีเหตุลักทรัพย์ร้านท่าบ่อสัตวแพทย์ หมู่ที่ 13 ตำบลท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน  ถึงที่เกิดเหตุพบว่ามีเหตุลักทรัพย์ 2 แห่ง คือร้านท่าบ่อสัตวแพทย์ ของ น.ส.เกษสกุล เสาวพาน พบร่องรอยงัดแงะหน้าต่างหลังร้านและมีทรัพย์สินภายในร้านหายไป เป็นเงินสด 300 บาท กล้องถ่ายรูปขนาดเล็ก ยี่ฮ้อฟูจิ ราคาประมาณ 2,000 บาท นาฬิกาข้อมือ ยี่ฮ้อ G Shock ราคาประมาณ 3,000 บาท และไฟฉาย 3 อัน  และร้านควิก ลิสซิ่ง สาขาท่าบ่อ ที่อยู่ติดกัน ซึ่งมี น.ส.วิชชุดา สุรินทร์ แจ้งว่าเป็นพนักงานที่ร้าน โดยพบร่องรอยงัดแงะหน้าต่างหลังร้านและมีทรัพย์สินภายในร้านหายไป เป็นเงินสด จำนวน 3,105 บาท กล้องถ่ายรูป จำนวน 3 เครื่อง

         เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบภาพวงจรปิดทั้งสองร้าน พบภาพคนร้ายที่ปากฎในกล้องวงจรปิดที่ร้านท่าบ่อสัตวแพทย์ สามารถจับภาพคนร้ายที่ก่อเหตุได้อย่างชัดเจน เป็นชาย อายุประมาณ 20 ปี มีรอยตำหนิที่แก้มขวา และบริเวณต้นคอด้านขวามีรอยสักที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน  หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาข่าว พร้อมประสานความร่วมมือไปยังท้องที่ใกล้เคียง เพื่อสืบสวนหาคนร้ายที่มีพฤติกรรมลักทรัพย์




       ต่อมาได้รับแจ้งจาก สภ.สังคม ว่ามีเหตุลักทรัพย์ร้านเอบีคอมพิวเทค ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ เลขที่ 192/3 หมู่ 3 บ้านปากโสม ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย เป็นร้านของ น.ส.นฏกร ยางสมบัติ ได้โทรศัพท์มือถือหลายยี่ฮ้อจำนวนมาก สว่านไฟฟ้า ยี่ฮ้อ Bosch 1 เครื่อง เครื่องเจียรไฟฟ้า 1 เครื่อง เครื่องยิงตะปู 1 เครื่อง รวม 13 รายการ มูลค่า 127,420 บาท เหตุเกิดในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 04,00 น. โดยมีพยานพบเห็นกลุ่มคนร้ายเป็นชายประมาณ 3 คน ใช้รถยนต์กระบะ ยี่ฮ้ออีซูซุ ติดหลังคาแคร์รี่บอย สีเทา ซึ่งกล้องวงจรปิดสมารถจับภาพ ตำหนิ รูปพรรณคนร้ายหนึ่งคนมีลักษณะตรงกับคนที่ก่อเหตุที่ร้านท่าบ่อสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานจาก สภ.เมืองขอนแก่น ว่ากลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมลักทรัพย์ในเวลากลาวงคืน คือกลุ่มของนายบอล (วัชรินทร์) มีพฤติกรรมลักทรัพย์ในเวลากลาวงคืนตามร้านจำหน่ายโทรศัพท์และร้านสะดวกซื้อ ในพื้นที่ สภ.เมืองขอนแก่น

       ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 61 เวลาประมาณ 19,00 น. แหล่งข่าวแจ้งว่าได้พบตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ นั่งรถโดยสารประจำทาง บริษัท 407 พัฒนาทัวร์ สายศรีเชียงใหม่ – กรุงเทพ จึงได้ประสานด่านตรวจหนองสองห้องให้ตรวจสอบ และสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด

       สอบสวนนายวัชรินทร์ ยอมรับว่า ตนได้ร่วมกับพวกอีกสองคนมีอาชีพเร่โชว์งูตามงานต่างๆ และได้ก่อเหตุจริง โดยจะตระเวนลักทรัพย์ตามร้านต่างๆ ในเวลากลางคืน อาศัยจังหวะที่เจ้าของร้านไม่อยู่ หลังก่อเหตุก็ได้แยกย้ายกัน โดยทรัพย์สินที่ได้จะนำไปขาย เพื่อนำเงินไปจ่ายงวดรถ ตนกำลังจะกลับบ้านที่ขอนแก่น ก็มาถูกจับเสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อแกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดเพื่อการพาทรัพย์นั้นไป  หรือให้พ้นจากการจับกุมหรือรับของโจร และเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามผู้ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




คณะ สนช. ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการ "ไทยนิยม ยั่งยืน" และโครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จังหวัดหนองคาย





       วันที่ 1 ก.ค. 2561 ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายชาญวิทย์ วสยางกูล สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พร้อมคณะ ได้เดินทางมาเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนชาวอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ตามโครงการสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติพบประชาชน ตามวิถี "ไทยนิยม ยั่งยืน" เพื่อติดตามความก้าวหน้าและรับฟังปัญหาการดำเนินโครงการ "ไทยนิยม ยั่งยืน" หรือหมู่บ้าน ชุมชนละ 200,000 บาท และโครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ และความมั่นคงในชีวิตจังหวัดหนองคาย โดยมีนายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร นายอำเภอท่าบ่อ ให้การต้อนรับ มีประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมรับฟังการชี้แจงในครั้งนี้จำนวนมาก





       โครงการ "ไทยนิยม ยั่งยืน" เป็นโครงการของรัฐบาลที่ให้ประชาชนคิดเองทำเอง งบประมาณที่จัดสรรให้ชุมชน หรือหมู่บ้านละ 200,000 บาท สามารถทำประโยชน์ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้มาก ทั้งนี้อำเภอท่าบ่อ ได้จัดเวทีเสวนาการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ตามโครงการไทยนิยม ยั้งยืน ตามชุมชน/หมู่บ้าน ครบทั้ง 4 รอบ และได้สรุปความต้องการประชาชน จำนวน 109 โครงการ ได้รับการอนุมัติจาก สนง.งบประมาณแล้วทั้งหมดเป็นเงิน จำนวน 21,800,000 บาท แยกเป็นโครงการประเภทถนนลูกรัง จำนวน 29 โครงการ ประเภทถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวน 34 โครงการ ประเภทลานคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวน 15 โครงการ  ประเภทรางระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวน 18 โครงการ ประเภทศาลาเอนกประสงค์ จำนวน 1 โครงการ  ประเภทหอกระจายข่าว จำนวน 11 โครงการ และประเภทขุดลอก จำนวน 1 โครงการ

      ในเรื่องโครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ และความมั่นคงในชีวิต อำเภอท่าบ่อมีจำนวนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 12,999 ราย มีผู้แจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรกรพัฒนาชีวิต จำนวน 11,962 ราย มีจำนวนผู้เข้าร่วมจริง 6,191 ราย จำแนกได้เป็นความต้องการพัฒนาในด้านเกษตร จำนวน 4,679 ราย ต้องการมีงานทำ จำนวน 196 ราย และความต้องการด้านอาชีพอิสระ จำนวน 1,316 ราย นอกจากนี้อำเภอท่าบ่อได้มอบหมายให้คณะกรรมการหมู่บ้านและคณะกรรมการชุมชน ลงพื้นที่รับสมัครลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติม โดยปัจจุบันมีจำนวนผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการประชาคมจากคณะกรรมหมู่บ้าน/ชุมชนแล้ว จำนวน 913 ราย ประกอบด้วย ประเภทผู้พิการ 85 ราย ผู้สูงอายุ 337 ราย ผู้ป่วยติดเตียง 19 ราย ผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนในปี 2560 จำนวน 490 ราย รวมทั้งสิ้น 931 ราย ทั้งนี้อยู่ในระหว่างการรับสมัครลงทะเบียนสิ้นสุดในเดือนกรกฎาคม 2561





       สำหรับจังหวัดหนองคาย มีผู้ลงทะเบียนมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐผ่านเกณฑ์ที่กำหนดทั้งหมด 86,433 คน และผู้มีสวัสดิการแห่งรัฐมีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/ปี และแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการพัฒนาทักษะอาชีพของกระทรวงแรงงาน ภายใต้มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรายบุคคล ในพื้นที่ 9 อำเภอของจังหวัดหนองคาย จำนวน 2,038 คน สนง.พัฒนาฝีมือแรงงานหนองคาย ได้รับงบประมาณงวดที่ 1 จำนวน 5,082,000 บาท เพื่อใช้สำหรับดำเนินการพัฒนาทักษะอาชีพให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 1,688 คน โดยแยกตามกิจกรรม ได้แก่ ช่างเอนกประสงค์ จำนวน 110 คน วงเงิน 891,000 บาท, การฝึกอาชีพเสริมหรือทักษะเพิ่มเติม(หลักสูตร 18 ชั่วโมง) 1,251 คน วงเงิน 2,814,750 บาท, หลักสูตร 30 ชั่วโมง 287 คน วงเงิน 1,076,250 บาท และหลักสูตร 60 ชั่วโมง  40 คน วงเงิน 300,000 บาท โดยได้ดำเนินการพัฒนาทักษะอาชีพตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. – 30 มิ.ย. 2561 รวมทั้งสิ้น 31 รุ่น 679 คน คิดเป็น 41.29 % ส่วนที่เหลือคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2561

        จากนั้นช่วงบ่าย คณะ สนช.ได้ออกเดินทางไปยังบ้านวังน้ำมอก ตำบลพระพุทธบาท อำเภอศรีเชียงใหม่ เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปการขับเคลื่อนโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี และโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก หมู่บ้าน/ชุมชนละ 200,000 บาท.

















จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...