หนองคาย – สาธารณสุขจังหวัดหนองคายร่วมกับวัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง จัดโครงการพัฒนาศักยภาพพระสงฆ์การอบรมพระคิลานุปัฏฐาก พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพ ประจําวัด เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

        วันที่ 21 มี.ค. 62 ที่ ห้องประชุมวัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง อำเภอเมืองหนองคาย พระศรีวชิรโมลี รองเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย เจ้าอาวาสวัดชัยพร ประธานฝ่ายสงฆ์ ,มีนายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานฝ่ายฆารวาส เปิดโครงการพัฒนาศักยภาพพระสงฆ์การอบรมพระคิลานุปัฏฐาก พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพ ประจําวัด ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคายจัดขึ้น

        นายแพทย์วิศนุ วิทยาบำรุง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จังหวัดหนองคาย ปี 2560 มีพระสงฆ์-สามเณร อาพาธ ผู้ป่วยนอก จำนวน 2,785 รูป  ผู้ป่วยใน 398 รูป โดยสาเหตุของการเกิดโรคส่วนใหญ่มาจากปัญหาการบริโภคไม่ถูกหลักโภชนาการ อีกทั้งพระสงฆ์ ไม่สามารถเลือกฉันอาหารเองได้ ต้องฉันอาหารตามที่ฆราวาสตักบาตร หรือนำอาหารมาถวาย ประกอบกับสถานภาพของพระภิกษุ ไม่เอื้อต่อการออกกำลังกาย ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรค จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนให้พระสงฆ์และวัดมีบทบาทในการส่งเสริมสุขภาพเป็นศูนย์กลางสุขภาพชุมชนและจัดสภาพแวดล้อมที่ดีให้เอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพ

         ดังนั้นกรมอนามัย และภาคีเครือข่าย อาทิ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพและพระสงฆ์นักพัฒนาได้ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรพระคิลานุปัฏฐาก เพื่อส่งเสริมสุขภาพพระสงฆ์และวัดรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literate Temple) และขับเคลื่อนการดำเนินงานธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ เพื่อเป็นกรอบและแนวทาง การส่งเสริมสุขภาวะพระสงฆ์ทั่วประเทศโดยมีเป้าหมายสำคัญคือ พระสงฆ์กับการดูแลสุขภาพตนเอง ตามหลักพระธรรมวินัย ชุมชนและสังคมกับการดูแลอุปัฏฐากพระสงฆ์ที่ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัย และบทบาทพระสงฆ์ในการเป็นผู้นำด้านสุขภาวะของชุมชนและสังคม โดยมีพระคิลานุปัฏฐาก เป็นผู้ปฏิบัติดูแลพระสงฆ์อาพาธ รวมทั้งการสร้างเสริมสุขภาพ และการจัดการปัจจัยที่คุกคามสุขภาพของพระสงฆ์

       ทั้งนี้จังหวัดหนองคาย โดยสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดหนองคาย จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพพระสงฆ์ การอบรมพระคิลานุปัฏฐาก พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจําวัด เฉลิมพระเกียรติ เพื่อสร้างแกนนำพระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด จะมีระยะเวลาในการฝึกอบรม 2 วัน เนื้อหาการอบรมประกอบด้วย การสื่อสารเรื่องสุขภาพพระสงฆ์ การเฝ้าระวังสถานการณ์ด้านสุขภาพในวัดและชุมชน  การประสานงานด้านสุขภาพพระสงฆ์กับคณะสงฆ์และหน่วยงานด้านสาธารณสุข การให้บริการสุขภาพเบื้องต้นแก่พระสงฆ์ในพื้นที่ รวมถึงการให้คำปรึกษา แนะนำ ถ่ายทอดความรู้พื้นฐานด้านสุขภาพ แก่ชุมชน และการดำรงตนเป็นตัวอย่างที่ดีด้านสุขภาพ ตามหลักพระธรรมวินัยโดยมีพระสงเข้าร่วม จำนวน 102 รูป

หนองคาย - อำเภอศรีเชียงใหม่ เตรียมจัดงานประเพณีสงกรานต์ศรีเชียงใหม่รื่นรมย์ปีใหม่ไทย-ลาว 2562 ยิ่งใหญ่

      วันที่ 20 มี.ค. 62 เวลา 06.30 น.ที่ศาลาลานวัฒนธรรมเบิ่งเวียงริมโขง หน้าวัดหาดปทุม ตำบลพานพร้าว อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย นายวรรณพล ต่อพล นายอำเภอศรีเชียงใหม่ เป็นประธานนำส่วนราชการ พ่อค้า และประชาชนทุกภาคส่วนในพื้นที่ ร่วมเสวนาสภากาแฟ "ซุม..ยามเช้า  เว้าเรื่องงาน เฮ็ดบ้านแปลงเมือง ศรีเชียงใหม่ หนองคาย" ครั้งที่ 3/2562 เพื่อส่งเสริมพัฒนาอำเภอให้ครอบคลุมทุกมิติ เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประเพณี ความสงบเรียบร้อย ตลอดจนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอศรีเชียงใหม่เป็นที่ทราบโดยแพร่หลาย เกิดการสร้างรายได้แก่คนในพื้นที่

       โดยได้มีการหารือรายละเอียดในจัดงานประเพณีสงกรานต์ศรีเชียงใหม่รื่นรมย์ปีใหม่ไทย-ลาว 2562 โดยจะมีขึ้นในวันที่ 14 เมษายนนี้ ณ บริเวณลานวัฒนธรรมเบิ่งเวียงริมโขง ภายในงานจะมีการนำพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองตั้งแต่สมัยล้านช้างโบราณ มาประดิษฐานไว้บริเวณลานวัฒนธรรม เพื่อให้ประชาชนร่วมสรงน้ำพระเพื่อเป็นสิริมงคล รวมทั้งจัดรถซาเล้งไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการสรงน้ำพระ 9 วัดในพื้นที่อำเภอศรีเชียงใหม่ นอกจากนี้ในงานยังมีอุโมงค์น้ำให้นักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำสงกรานต์อย่างสนุกสนาน และเวลากลางคืนมีการแข่งขันชกมวยเชื่อมสัมพันธ์ไทย ลาว โดยจะมีนักมวยจากประเทศลาวเข้าร่วมกิจกรรมด้วย รวมทั้งกิจกรรมลำวงย้อนยุค และพิธีบายศรีสู่ขวัญสองฝั่งโขง ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมสืบสาน อนุรักษ์ประเพณีไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องที่ยวของอำเภศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย หวังดึงนักท่องเที่ยวเข้าสู่อำเภอในช่วงวันหยุดยาว โดยบูรณาการความร่วมมือทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ในพื้นที่

หนองคาย - ช่างตัดผมชาวอำเภอโพธิ์ตาก หันมาสร้างอาชีพเสริม ด้วยการเจาะน้ำในต้นไผ่กิมซุงใส่ขวดขาย ช่วยขับสารพิษในร่างกาย รายได้ดี

       นายศิวกุล จันทาคีรี อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 6 บ้านดอนไผ่ ตำบลโพนทอง อำเภอโพธิ์ตาก จังหวัดหนองคาย สามารถนำน้ำที่อยู่ในต้นไผ่กิมซุงออกมาใส่ขวด และวางจำหน่ายได้ในราคาขวดละ 20 บาท ด้วยปริมาณบรรจุ 250 ซีซี เป็นน้ำบริสุทธิ์จากต้นไผ่ สามารถขับสารพิษในร่างกายได้

        นายศิวกุล กล่าวว่า ตนมีอาชีพเป็นช่างตัดผมอยู่ที่เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร เมื่อ 6 ปีที่ผ่านมาพ่อได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง ตนจึงมีแนวคิดที่จะหาวิธีคิดค้นสมุนไพรป้องกันเชื้อมะเร็ง กระทั้งมีลูกค้าชาวจีนมาตัดผมกับตน จึงได้รับการแนะนำให้ปลูกไผ่กิมซุง ซึ่งน้ำของไผ่กิมซุงจะช่วยขับสารพิษในร่างกาย ด้านมะเร็งได้ ตนจึงกลับมาบ้านเพื่อทำการปลูกไผ่กิมซุงในพื้นที่รอบสระน้ำในสวนของตน จำนวน 100 ตน  พอมีอายุ 3-4 ปี ก็ลงมือใช้สว่านเจาะลงใต้ปล้อง หรือใต้ข้อต่อ แล้วใช้สายยางเสียบเข้าไป ก่อนปล่อยทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง ก็จะมีน้ำไหลออกมาจากต้นไผ่ ต้นละประมาณ 1.5-2.0 ลิตร โดยจะลงเจาะในเวลาเที่ยงคืน ยิ่งช่วงหน้าฝนจะได้บริมาณมากถึง 3 ลิตรต่อถุง  จากนั้นในวันถัดไปยังสามารถเจาะให้เป็นรูเท่าหลอดกาแฟที่ข้อต่อข้อต่อไป โดยจะเป็นข้อด้านบน หรือข้อด้านล่างก็ได้ แต่ควรเว้นระยะห่างกันประมาณ 1.5 เซนติเมตร ซึ่งจะทำให้ได้น้ำบริสุทธิ์จากต้นไผ่มาขายทุกวัน โดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก โดยจะไปขายตามตลาดนัดขวดละ 20 บาท ปริมาณ 250 ซีซี จึงนับเป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างอาชีพเสริมของตน ซึ่งตนไม่ได้เจาะทุกวัน เพราะต้องกลับไปตัดผม นอกจากมีลูกค้าสั่งถึงจะกลับมาเจาะขาย

       นายศวกุล กล่าวต่อว่า สำหรับคุณสมบัติของน้ำบริสุทธิ์จากต้นไผ่ จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเยื่อไม้ไผ่ แต่รสชาติเหมือนน้ำเปล่า และได้รับความนิยมกันมานานในกลุ่มคนรักสุขภาพ เพราะสามารถขับสารพิษออกจากร่างกาย และยังรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้อีกด้วย ซึ่งน้ำจากต้นไผ่หากเก็บไว้ในตู้เย็น จะมีอายุยาวนาน 5-7 วัน ซึ่งอนาคตตนกำลังจะทดลองปลูกอบเชยกับมัยลาภ เพื่อทำสมุนไพรรักษาเบาหวาน ส่วนวิธีการรักษาต้นใผ่ นำใบไผ่แห่งมาหมักเป็นปุ๋ยอินทรีย์ บำรุงต้นไผ่ เพราะใบไผ่มีจุลินทรีย์บำรุงดินได้

      นอกจากนี้ หน่อไม้จากต้นไผ่ ยังขายได้ถึงกิโลกรัมละ 20-30 บาท และหากนำมาแปรรูปก็จะมีราคาสูงขึ้นอีก ทำให้ตนมีรายได้ตลอดทั้งปี หรือเฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท ซึ่งยังมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถโทรสอบถามได้ที่ 085 -156 - 9601

หนองคาย - มอบแล้วรางวัลกาชาด งานอนุเสาวรีย์ปราบฮ่อ ใต้ร่มพระบารมี เมืองหนองคาย ผู้โชคดีรับรางวัลที่ 1 เป็นชาว ต.บ้านถ่อน อ.ท่าบ่อ รับรถยนต์เก๋งมาสด้า 3 อี มูลค่ากว่า 8 แสนบาท

       วันที่ 15 มี.ค. 62 ที่บริเวณหน้าอนุสาวรีย์ ร.5 ศาลากลางจังหวัดหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และ นางวัชรินทร์ จิตรวิเศษ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย คณะกรรมการเหล่ากาชาดหนองคาย ได้มอบรางวัลแก่ผู้โชคดีที่ถูกสลากกาชาดรางวัลที่ 1 ,รางวัลที่ 2 และรางวัลที่ 3 ในงานฉลองอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ ใต้ร่มพระบารมี 192 ปี เมืองหนองคายและงานกาชาด ปี 2562
       

      สำหรับรางวัลที่ 1 เป็นรถยนต์เก๋ง MAZDA 3 E Sprot Hatchback (มูลค่า 857,000 บาท) รางวัลสลากหมาย 48105 ผู้นำสลากมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ คือ นางวันทนา โคตรชมภู   อยู่บ้านเลขที่ 324 หมู่ 7 ตำบล บ้านถ่อน อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย,  รางวัลที่ 2 เป็นรถยนต์กะบะ MITSUBICHI Triton Single Cap  รางวัลสลากหมายเลข 07244 ผู้นำสลากมารับรางวัล คือ นายพงศธร ทิพยสุทธิ์ อยู่บ้านเลขที่ 167 หมู่ 1 ต.หนองกอมเกาะ อ.เมือง จังหวัดหนองคาย

       นอกจากนั้นยังได้มอบรางวัลที่ 3 มีจำนวน 3 รางวัล เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ HONDA มูลค่าคันละ 45,000 บาท และรางวัลที่ 4 เป็นทองคำ มูลค่า 20,000 อีก 3 รางวัล ให้แก่ผู้โชคดีในครั้งนี้ด้วย