ชาวบ้านน้ำโมง สืบสานงานประเพณีแข่งขันเรือพายพื้นบ้าน ในวันห่อข้าวประดับดิน ประจำปี 2562

วันที่ 29 ส.ค. 62 ที่บริเวณท่าน้ำหน้าวัดศรีชมภูองค์ตื้อ บ้านน้ำโมง ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ชาวบ้านน้ำโมง 3 หมู่บ้าน 4 ชุมชน ได้แก่ หมู่ 1, 2, 8 ประกอบด้วยชุมชนศรีบุญเรือง, ชุมชนศรีมงคล, ชุมชนศรีชมภู และชุมชนโรงเรียนเก่า ตลอดจนห้างร้านต่างๆในพื้นที่จัดงานประเพณีแข่งขันเรือพายพื้นบ้าน ในวันห่อข้าวประดับดิน ประจำปี 256 โดยมี ดร.สมเกียรติ ตระกูลฟาร์มธวัช รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดกาาแข่งขัน

นางเนือง ศรีอ้วน ประธานชุมชนศรีบุญเรือง กล่าวว่า การแข่งขันเรือเป็นกีฬาพื้นบ้านที่นิยมเล่นสืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงปัจจุบัน ชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำจะใช้เรือเป็นพาหนะ บางแห่งจัดการแข่งขันเรือเพื่อบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือ โดยในการจัดแข่งเรือครั้งนี้เพื่ออนุรักษ์การแข่งขันเรือให้คงอยู่สืบไป ก่อให้เกิดความรักสามัคคี รวมทั้งถ่ายทอดประเพณีแข่งขันเรือให้ลูกหลานได้ซีมซับรับรู้ นำไปปฏิบัติเมื่อพวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า

สำหรับในปีนี้จัดให้มีการแข่งขันเรือพายพื้นบ้าน 2 ประเภท คือประเภทเรือพื้นบ้านชุมชน (เรือประมง) จำนวน 5 ฝีพาย  มีเรือส่งเข้าแข่งขัน 7 ทีม และประเภทเรือพื้นบ้านทั่วไป จำนวน 5 ฝีพาย มีเรือที่ส่งเข้าแข่งขันรวม 27 ทีม ผลการแข่งขันประเภทชุมชน ชนะเลิศได้แก่ชุมชนศรีบุญเรือง, รองชนะเลิศอันดับ 1 ชุมชนโรงเรียนเก่า 2, รองชนะเลิศอันดับ 2 ชุมชนโรงเรียนเก่า 1และรองชนะเลิศอันดับ 3 ชุมชนศรีมงคล รับเงินรางวัล 3,000, 2,500, 2,000, 1,500 บาทพร้อมถ้วยรางวัล ส่วนประเภทเรือทั่วไป ชนะเลิศได้แก่พรหลวงพ่อทองแสน, รองชนะเลิศอันดับ 1 มิดเดิ้ลฟิวรีสอร์ท, รองชนะเลิศอันดับ 2 เจ้าพ่อดอนเขียว, รองชนะเลิศอันดับ 3 เจ้าพ่อดอนลาน  รับเงินรางวัล 5,000, 3,000, 2,000, 1,000 บาทพร้อมถ้วยรางวัลจากนายอมรวิทย์ เปียผ่อง อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองท่าบ่อ มีประชาชนทั้งในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงร่วมชมการแข่งขันทั้งสองฝั่งริมน้ำจำนวนมาก

ชาวบ้านและฝีพายบ้านกองนาง ทำพิธีบวงสรวงแม่ย่านางเรือยาว "หนุ่มตังค์เซน" เพื่อความเป็นสิริมงคลและสร้างขวัญและกำลังใจให้กับฝีพาย ก่อนที่จะทำการแข่งขันสนามแรกที่เมืองหนองคาย วันห่อข้าวประดับดิน 29 สิงหาคมนี้

วันที่ 28 ส.ค. 62 ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านกองนาง หมู่ 11 ตำบลกองนาง  อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ได้มีชาวบ้านและฝีพายบ้านกองนาง ประกอบพิธีบวงสรวงแม่ย่านางเรือยาว 55 ฝีพาย ซึ่งเป็นพิธีเก่าแก่ที่บรรพบุรุษชาวเรือยาวในเขตลุ่มแม่น้าโขงปฏิบัติสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน  ก่อนที่จะนำเรือยาวเพื่อทำการแข่งขันในสนามลุ่มน้ำโขงในจังหวัดหนองคาย โดยมีนายศิระ ศรีชมภู สมาชิกสภาองค์กานบนิหารส่วนจังหวัดหนองคาย ร่วมในพิธีพร้อมมอบเสื้อให้กับฝีพายไว้สวมใส่สำหรับทำการแข่งขันด้วย

สำหรับการทำพิธีบวงสรวงแม่ย่านางเรือ เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับฝีพายเรือยาว 55 ฝีพายขื่อว่า "หนุ่มตังค์เซน" โดยสนามแรกที่ลงทำการแข่งขัน คือ สนามอำเภอเมืองหนองคาย วันบุญห่อข้าวประดับดิน 29 สิงหาคมนี้  ซึ่งถือเป็นสนามที่ชาวเรือยาวทั่วทั้งจังหวัดมาทำการแขางขันกัน เพื่อให้ได้รับชัยชนะ เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยก่อนทำการแข่งขันในสนามต่อๆไป

ทั้งนี้พิธีบวงสรวงแม่ย่านางเรือนั้น จะมีเครื่องบวงสรวง ประกอบไปด้วยอาหารเครื่องคาวหวาน ดอกไม้ ธูปเทียน น้าหอม พวงมาลัย รวมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ จากนั้นสายสินมาผูกกับเรือแล้วนำมาที่โต๊ะเครื่องเซ่นไหว้แม่ย่านาง พราหมณ์ขวัญจะประกอบพิธีตามตำหรับประเพณีโบราณ เพื่ออัญเชิญแม่ย่านางประทับยังเรือยาว จากนั้นพราหมณ์ขวัญก็จะประกอบพิธีบวงสรวง เพื่อให้เรือเกิดความเข้มขลัง ตามความเชื่อ โดยมีฝีพายเรือและชาวบ้านที่มาร่วมพิธีก็จะนั่งกราบไหว้บูชาร่วมพิธีกันอย่างพร้อมเพรียงกัน โดยมีทั้งผู้สูงอายุและเยาวชนต่างๆร่วมพิธีดังกล่าว  จากนั้นก็จุดประทัดหรือพลุให้เกิดเสียงดังๆเพื่อบอกเทพ เทวดา 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้น ดิน และพระแม่ธรณี พระแม่คงคา ให้รับรู้ว่าจะอัญเชิญเรือเพื่อไปสู้ศึกการแข่งขันเรือยาวในสนามต่างๆ ทั่วจังหวัดให้ได้รับชัยชนะกลับมาทุกสายน้ำ

ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย สำนักงานพัฒนาภาค 2 และ นพค. 25 เร่งติดตั้งสะพานเครื่องหนุนมั่น ช่วยเหลือชาวบ้าน อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย หลังน้ำจากห้วยทอนนอนล่างไหลทะล้กกัดเซาะถนนขาด ล่าสุดเปิดใช้งานได้แล้ว รับน้ำหนักได้ 13 ต้น สร้างความดีใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก

วันที่ 28 ส.ค. 62 เวลา 20.30 น. ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย สำนักงานพัฒนาภาค 2 และหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 (นพค.25) หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย โดยพลตรีกิตติพงศ์ กาญจนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 2 และพันเอกณัฐพงศ์ พรหมศร ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 ได้สนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ รถสะพานเครื่องหนุนมั่น ดำเนินการเชื่อมต่อเส้นทางเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน กรณีถนนเชื่อมต่อบ้านสาวแล หมู่ 4 ตำบลโพธิ์ตาก ถึงศูนย์กลาง หมู่ 3 ตำบลด่านศรีสุข อำเภอโพธิ์ตาก จังหวัดหนองคาย ช่วงระหว่างทางออกหมู่บ้านสาวแล หมู่ 4 ประมาณ 30 เมตร เนื่องจากมีมวลน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยทอนตอนล่าง ไหลทะลักกัดเซาะถนนขาดเสียหายเป็นวงกว้าง 8 - 10 เมตร มาตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค. 62 ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถใช้สัญจรได้ โดยต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นอ้อมแทนซึ่งมีระยะไกล  สิ้นเปลืองระยะทางไปทำไร่ทำนาทำสวนและขนส่งพืชผลทางการเกษตร

โดยทันทีที่รถสะพานเครื่องหนุนมั่นเดินทางมาถึงจุดติดตั้ง ทางกำลังพลของสำนักงานงานพัฒนาภาค 2 และ นพค.25 ได้ดำเนินการปรับพื้นที่บริเวณจุดที่ถนนภูกมวลน้ำกัดเซาะขาดเสียหาย และดำเนินการติดตั้งสะพานเครื่องหนุนมั่นทันที โดยใช้เวลาติดตั้งไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นก็สามารถเปิดให้ประชาชนได้สัญจรไปมาได้ชั่วคราว ซึ่งสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 13 ตันและบรรทุกพืชผลผลิตทางการเกษตรได้

นายสุเทพ ทุมมาจันทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ตาก ,ชาวบ้านในพื้นที่ ตลอดจน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้เดินทางมาดูการติดตั้งสะพานจนแล้วเสร็จ ต่างแสดงความดีใจที่หน่วยทหารพัฒนาให้ความช่วยเหลือนำสะพานมาติดตั้งให้ จนสามารถใช้เส้นทางสัญจรเข้าออกไปทำไร่ทำนาและขนพืชผลทางการเกษตรออกไปจำหน่ายได้ตามปกติ โดยชาวบ้านได้แสดงความขอบคุณกำลังพลที่เข้ามาช่วยติดตั้งสะพานจนเสร็จสิ้น

อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย ฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลาก ซัดถนนระหว่างบ้านสาวแล-บ้านศูนย์กลาง ขาด

วันนี้ 28 ส.ค. 62 เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าสู่ลำห้วยทอนตอนใต้  เป็นเหตุทำให้น้ำทะลักล้นลำห้วย ผ่านสวนปาล์มของชาวบ้าน ซัดถนนระหว่างบ้านสาวแล ตำบลโพธิ์จาก กับบ้านศูนย์กลาง ตำบลด่านศรีสุข อำเภอโพธิ์ตาก จังหวัดหนองคาย ขาดพังได้รับความเสียหาย ขนาดประมาณ 6*10 เมตร ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ซึ่งถนนเส้นนี้ยังเป็นถนนสายหลักที่ปนะชาชนใช้สัญจรไปติดต่อราชการ ณ ที่ว่าการอำเภอโพธิ์ตาก ด้วย

สาเหตุน้ำป่าไหลหลากเนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ ประจวบกับฝายห้วยบุ่นบ้านด่านศรีสุขแตก และปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยทอนตอนบน มีปริมาตรน้ำเกินความอ่อ่างล้นสปริงเวย์ และยังมีน้ำที่ไหลมาจากจากอ่างเก็บน้ำห้วยหินแก้ว, อ่างเก็บน้ำห้วยไฮ ไหลมาสมทบลำห้วยทอนตอนใต้  เป็นเหตุทำให้ถนนขาดและทรุดตัวพัง เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันที่ 27 ส.ค. 62 ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าช่วยเหลือซ่อมแซมให้ เพื่อสามารถเดินทางได้ โดยมวลน้ำจำนวนมากได้ไหลเข้าท่วมไรอ้อย นาข้าว สวนพลไม้ และบ่อเลี้ยงปลาของชาวบ้านได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ทาง อบต.โพธิ์ตาก ได้นำแผงมากั้นเส้นทาง เพื่อไม่ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนผ่าน ซึ่งผู้ที่จะไปติดต่อราชการ ณ ที่ว่าการอำเภอโพธิ์ตาก หรือเดินทางไปบ้านศูนย์กลาง ให้ใช้เส้นทางวัดป่าเวฬุวัน(ป่าบง) แทน