ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เปิดโครงการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และรับบริจาคโลหิตเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

วันที่ 11 พ.ย. 62 โรงเรียนท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และรับบริจาคโลหิตเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยมี นายวิศณุ วิทยาบำรุง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย กล่าวรายงาน มี นางวัชรินทร์ จิตรวิเศษ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย ข้าราชการ ส่วนราชการ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย แพทย์ พยาบาล สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ครู อาจารย์และนักเรียน รวมทั้งประชาขน ร่วมพิธี ซึ่งจังหวัดหนองคาย มีกำหนดจัดกิจกรรมทั้งหมด 4 ครั้ง โดยครั้งนี้เป็นการจัดกิจกรรมครั้งที่ 3 เพื่อดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ และอำเภอโพธิ์ตาก

นายวิศณุ วิทยาบำรุง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า  การดำเนินโครงการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และรับบริจาคโลหิต ครั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในปีพุทธศักราช 2562 และเพื่อสนับสนุนโครงการหรือกิจกรรมอันเนื่องมาจากพระราชปณิธาน พระราชดำริ พระบรมราโชวาท และพระกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยโครงการมีกำหนดจัดกิจกรรมตามโครงการดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ระยะเวลาดำเนินการระหว่างวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 ถึง 4 พฤษภาคม 2563 ประกอบด้วยกิจกรรมการให้บริการ 4 ด้าน ได้แก่ บริการตรวจโรคทั่วไป  บริการทันตกรรมเคลื่อนที่   บริการตรวจตา บริการตรวจสุขภาพจิตเคลื่อนที่ รวมทั้งออกหน่วยบริการรับบริจาคอวัยวะและรับบริจาคโลหิต

อบต.น้ำโมง สืบสานประเพณีแข่งขันเรือพายพื้นบ้านชาวตำบลน้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

วันที่ 10 พ.ย. 62 ที่บริเวณแหล่งน้ำสาธารณะ หมู่ 3 ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ  จังหวัดหนองคาย นายศิระ   ศรีชมภู สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย เป็นประธานพิธีเปิดงานสืบสานประเพณีแข่งขันเรือพายพื้นบ้าน ประจำปี 2562 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำโมง ผู้นำชุมชน กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนทุกภาคส่วนในพื้นที่จัดขึ้น ทั้งนี้เพื่อความสมัครสมานสามัคคีให้เกิดขึ้นในชุมชน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนและเยาวชนในพื้นที่เห็นความสำคัญและสนใจประเพณีในท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์งานประเพณีเรือพื้นบ้าน และส่งเสริมการท่องเที่ยวของตำบลน้ำโมงให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย รวมทั้งอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีการแข่งขันเรือพื้นบ้านให้อยู่คู่กับท้องถิ่นสืบไป

ซึ่งในปีนี้จัดให้มีการแข่งขันเรือพายพื้นบ้าน 2 ประเภท มีประเภทเรือพายหาปลา (เรือประมง) จำนวน 5 ฝีพายชาย และประเภท 5 ฝีพายหญิง โดยมีทีมเรือของแต่ละหมู่บ้านเข้าร่วมการแข่งขันประเภทละ 12 ทีม

สิบตำรวจโท ชวลิต ชัยวี ปลัด อบต.น้ำโมง รักษาการแทนนายก อบต.น้ำโมง  กล่าวว่า การแข่งขันเรือพายพื้นบ้านเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ชาวตำบลน้ำโมงได้ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ด้วยสภาพพื้นที่ของทุกหมู่บ้านอยู่ติดกับลำห้วยโมงและหนองน้ำสาธารณะหลายแห่ง ประชาชนมีวิถีชีวิตอยู่กับสายน้ำ โดยจะทำการแข่งขันเรือกันภายในหมู่บ้านหรือหมู่บ้านใกล้เคียง ในช่วงเทศกาลออกพรรษาของทุกปี เพื่อสร้างความสนุกสนานสามัคคีของประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งในปีนี้มีทีมเรือที่ส่งเข้าแข่งขัน จำนวน 12 หมู่บ้าน ประเภทเรือหาปลา ซึ่ง อบต.น้ำโมงได้เล็งเห็นความสำคัญของประเพณีท้องถิ่นและวัฒนธรรมอันดี จึงอนุรักษ์รักษาไว้ให้ชนรุ่นหลังได้สืบทอด อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุน และส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น

ชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย จ.หนองคาย นำเด็กนักเรียนอายุระหว่าง 3 -12 ปี เข้าค่ายศิลปะการเกี่ยวข้าว เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ขั้นตอนการทำนา ก่อนนำมาวาดภาพระบายสี ฝึกให้เด็กเห็นความสำคัญของข้าวและวิถีชีวิตชาวนาไทย

วันที่ 10 พ.ย. 62 ที่บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง หมู่ 3 ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์ หรือ ครูแดง บ้านศิลป์ไทย ประธานชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย จังหวัดหนองคาย ได้นำเด็กนักเรียนอายุ 3-12 ปี จำนวน 12 คน เข้าค่ายศิลปะการเกี่ยวข้าว ค่ายลำดับที่ 64 โดยมีนายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร นายอำเภอท่าบ่อ เป็นประธานเปิดงาน

โดยครูแดง บ้านศิลป์ไทย ได้สอนให้เด็กที่เข้าค่ายทั้ง 12 คน ร่วมทำกิจกรรมเกี่ยวกับการปิ้งข้าวเกรียบว่าว (ภาษาท้องถิ่นเรียกว่า ปิ้งข้าวโป่ง)  เรียนรู้การทำและเผาข้าวหลาม จากนั้นได้ให้เด็กรู้จักขั้นตอนการเกี่ยวข้าว การหาบฟ่อนข้าว การตีข้าวแบบโบราณ การวีข้าว การฝัดข้าว และการตำข้าวด้วยครกกระเดื่องตำข้าวแบบตั้งเดิม ซึ่งเด็กนักเรียนทุกคนต่างสนุกสนานกับกิจกรรมที่ได้ร่วมกันทำเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นก็จะนำประสบการณ์ของการทำนาเกี่ยวข้าวมาวาดภาพระบายสี ตามที่ตัวเองได้สัมผัสมา

ครูแดง บ้านศิลป์ไทย กล่าวว่า กิจกรรมการปลูกข้าว การเกี่ยวข้าวสำหรับเด็กและเยาวชน ก็เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้ปฏิบัติสัมผัสการเกี่ยวข้าวแปลงนาจริง ได้รู้ถึงคุณค่าและบุญคุณของข้าว วิถีชีวิตของชาวนาไทยในแบบดั้งเดิม แทรกปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและการดำรงชีวิตอย่างมีคุณธรรม จริยธรรม ควบคู่การวาดภาพระบายสีในสถานที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ ให้เด็กได้จิตนาการอย่างอิสระ มีมิติ มีสีสัน และสอดคล้องเป็นธรรมชาติมากขึ้น