วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

พ่อค้ายาเสพติดข้ามชาติฉายเดี่ยว! ขนยาบ้าขึ้นริมฝั่งโขงตำบลเวียงคุก อ.เมืองหนองคาย ทหาร บก.ควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี ตรวจยึดได้ 3 แสนเม็ด มูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท ส่วนพ่อค้าทิ้งยาบ้ากระโดดลงเรือเผ่นหนีกลับประเทศ

วันที่ 16 พ.ย. 63 ที่วัดศิลาเลข หมู่ 6 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พันเอกมงคล หอทอง ผู้บังคับการ กองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง แถลงผลการตรวจยึดยาบ้า จำนวน 300,000 เม็ด ได้ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านนาเหล่า หมู่ 1 ต.เวียงคุก อ.เมือง จ.หนองคาย ภายใต้การอำนวยการของ พลตรีบุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ,นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายภิญโญ โฆสิต ผอ.สนง.ป.ป.ส.ภาค 4, พลตำรวจตรี กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย, พันเอกณรงค์ สวนแก้ว รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี , พันเอกมงคล หอหอง ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี, พันตำรวจเอกเพิ่มศักดิ์ ตาตะนันทน์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24, นาวาเอกวรัท โกพลรัตน์ ผู้บังคับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตหนองคาย, พันเอกเรวัฒ ธรรมจิรเดช รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี




ด้วยสถานการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ประเทศไทย ในพื้นที่ อ.เมือง จ.หนองคาย มีการตรวจยืดยาเสพติดรายใหญ่ได้หลายครั้ง เป็นพื้นที่ที่กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดใช้เป็นช่องทาง เส้นทางในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนใน เนื่องจากมีช่องทาง/ท่าข้ามธรรมขาติหลายจุด มีโครงข่ายเส้นทางเข้าสู่พื้นที่ตอนในได้หลายเส้นทาง ดังนั้น กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบยาเสพติดจังหวัดหนองคาย จึงกำหนดนโยบายร่วมกันในการบูรณาการระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วน เพิ่มขีดความสามารถในการสกัดกั้น การลำเลียงยาเสพติด ตามนโยบายดังกล่าว เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานในพื้นที่ ได้ให้ความสำคัญในการปฏิบัติภารกิจและร่วมมือกันทุกภาคส่วน ตลอดจนได้รับความร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี จนมีผลงานประจักษ์ 



สำหรับการตรวจยึดยาเสพติดครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 63 เวลาประมาณ 18.00 น. จ่าสิบเอกยุทธนา สุขเกษม ผู้บังคับหมวดเคลื่อนที่เร็วที่ 2 กองร้อยเคลื่อนที่เร็วที่ 2 กองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พร้อมกำลังพลได้ออกทำการลาดตระเวนเพื่อสกัดกั้นการลักลอบนำยาเสพติดให้โทษ, การลักลอบหลบหนีเข้าเมือง และการกระทำผิดเงื่อนไขอื่นๆ ตามแนวชายแดนในพื้นที่รับผิดชอบ ตามแผนงานป้องกันชายแดน ปี 2564 และแผนงานป้องกันปราบปรามยาเสพติดให้โทษ ปี 2564

กระทั่งเวลาประมาณ 20.30 น. ขณะ จนท.กำลังลาดตระเวนถึงบริวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านนาเหล่า หมู่ 1 ต.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย พบเรือกีบเพลายาว 1 ลำ มีชายต้องสงสัยนั่งมาในเรือ 1 คน แล่นเรือมาจากประเทศเพื่อนบ้าน มุ่งหน้ามายังฝั่งประเทศไทย และได้นำวัตถุต้องสงสัย ลงจากเรือเดินขึ้นฝั่งท่าทางมีพิรุธ จนท.ชุดลาดตระเวน จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบและขอตรวจค้น ชายต้องสงสัยเมื่อเห็นจนท. เกิดตกใจ ได้ทิ้งวัตถุต้องสงสัยและวิ่งลงเรือ ลีบแล่นขับเรือมุ่งหน้ากลับไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอย่างรวดเร็ว จนท.จึงได้เข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย จำนวน 1 กระสอบ และได้ทำการเปิดดูพบภายในบรรจุยาบ้า จำนวน 51 แพ็ค จึงได้ทำการตรวจยึดและนำมายังหมวดเคลื่อนที่เร็วที่ 2 กองร้อยเคลื่อนที่เร็วที่ 2 เพื่อตรวจนับอย่างละเอียด เป็นยาบ้าชนิดสีส้ม จำนวน 297,000 เม็ด และสีเขียว จำนวน 3,000 เม็ด รวมจำนวน 300,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท จึงได้ทำบันทีกการตรวจยึดอย่างละเอียด ก่อนส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเวียงคุก เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป





วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

หวิดปะทะเดือด! หมวด คทร.ที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี สนธิกำลังทหารเรือ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง บุกยึดยาบ้ากว่า 2 แสนเม็ด ไอซ์ 2 กก. หลังแก๊งค้ายาข้ามชาติลักลอบขนเข้ามาในพื้นที่ริมโขง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย และยิงปะทะ จนท. ก่อนหลบหนีกลับประเทศ

วันที่ 11 พ.ย. 63 ที่วัดศิลาเลข บ.ศิลาเลข หมู่ 6 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย  พ.อ.ณรงค์ สวนแก้ว รองผู้บังคับบัญชากองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (รอง ผบ. กกล.สรุศักดิ์มนตรี), ร.ท.คมกริช จันทสุข ผู้บังคับกองร้อยเคลื่อนที่เร็วที่ 2 (ผบ.ร้อย.คทร.ที่ 2) กองบังคับการควบคุมที่ 2 (ร.13) กกล.สุรศักดิ์มนตรี, พ.ต.ท.วชรกร แต้มกลางวิเชียร รอง ผกก.สส.สภ.ท่าบ่อ, นายทักษิณ สุวรรณศรี ปลัดอาวุโสอำเภอท่าบ่อ, จ.ส.อ.ยุทธนา สุขเกษม ผู้บังคับหมวด คทร.ที่ 2, นายแสงเพช โพธิรัตน์ กำนันตำบลโพนสา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ นรข.เขตหนองคาย (สถานีเรือศรีเขียงใหม่) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการตรวจยึดยาบ้า จำนวน 222,000 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 2 กิโลกรัม ได้ที่กระท่อมน้อยติดริมโขงบ้านปากมาง ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท





ในการตรวจยึดครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 พ.ย.63 เวลา 20.45 น. จนท.ชุดปฏิบัติการของหมวด คทร.ที่ 2 ร้อย.คทร.ที่ 2 ได้ทำการลาดตะเวนซุ่มเฝ้าตรวจพื้นที่รับผิดชอบที่กระท่อมน้อยติดริมโขงบ้านปากมาง ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ. หนองคาย ในขณะที่ทำการลาดตะเวนอยู่นั้น ได้พบเรือกีบเพลายาวจำนวน 1 ลำ มีชาย 2 คนนั่งเรือแล่นออกมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านข้ามแม่น้ำโขงตรงมายังฝั่งประเทศไทย จนท.ชุดปฏิบัติการจึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด กระทั่งเรือแล่นมาเข้ามาจอดริมฝังแม่น้ำโขง และชายที่นั่งมากับเรือได้ลำเลียงวัตถุต้องสงสัยขึ้นฝัง จนท.จึงแสดงตัวและขอเข้าตรวจคัน ในระหว่างนั้นคนในเรือได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดขนาด ยิงเข้าใส่ จนท.จำนวนหนึ่งนัด จนท.จึงยิงตอบโต้เพื่อป้องกันตัว จากนั้นเรือลำดังกล่าวได้ขับหลบหนีข้ามกลับไปประเทศเพื่อนบ้านอย่างรวดเร็ว 




จากนั้น จนท.จึงได้ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยตรงที่จอดเรือ พบเป็นยาบ้าและยาไอซ์จำนวนดังกล่าว จึงทำการตรวจยึดไปไว้ที่ บก.ควบคุม.ที่ 2 จ.หนองคาย เพื่อทำการบันทึกการตรวจยึด แล้วจะได้ดำเนินการนำของกลางส่ง สภ.ท่าบ่อ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.




ไฟไหม้บ้านพักพนักงานศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดหนองคายวอดทั้งหลัง

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 11 พ.ย.63 ตำรวจ สภ.ศรีเชียงใหม่ ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านพักพนักงาน ภายในศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดหนองคาย เลขที่ 152 หมู่ 12 บ้านหัวทราย ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย จึงไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงจาก นรข.เขตหนองคาย(สถานีเรือศรีเชียงใหม่) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ใกล้เคียง จำนวน 5 คัน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่ระดมเข้าทำการดับเพลิงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านพักพนักงาน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ ถูกเพลิงลุกไหม้บ้านวอดหมดทั้งหลังอย่างรวดเร็ว จนท.ใช้เวลาฉีดน้ำดับเพลิงอยู่นานประมาณ 30 นาทีเพลิงจึงสงบลง



เบื้องต้นพนักงานที่พักอาศัยอยู่ในศูนย์วิจัยฯให้ข้อมูลว่า ก่อนกิดเหตุไฟฟ้าได้ดับไปสองครั้ง หลังจากนั้นได้ยินเสียงระเบิดจากห้องพักคนงานหลังดังกล่าวที่ชั้นสองของบ้านพักและมีไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยควบคุมเพลิงไว้ได้




นายศศิศ บทมาตร อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นผู้พักอาศัยบ้านพักหลังดังกล่าว เล่าว่า ก่อนกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิดสองครั้งบนฝ้าเพดาน แต่ไม่เอะใจอะไร กระทั้งเวลา 06.00 น. ก็ออกเดินทางไปราชการที่ จ.บึงกาฬ เมื่อถึงพื้นที่อำเภอโพนพิสัย เพื่อนร่วมงานได้โทรศัพย์มาบอกว่าบ้านพักถูกไฟไหม้ จึงย้อนกลับมา พบบ้านพักถูกไฟไหม้วอดทั้งหลังไปแล้ว เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ของใช้ต่าง, รถ จยย. เอกสารทางราชการ โดยเฉพาะพระเครื่องที่สะสมมานานหลายสิบปีถูกไฟไหม้หมด ส่วนค่าเสียหายยังประเมินไม่ได้ต้องรอเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ 






เจ้าหน้าที่ปกครองพร้อมสื่อลงพื้นตรวจสอบฝายชะลอน้ำลำห้วยซวก เกิดการทรุดตัว หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ต้องนำแผงเหล็กและไม้มากั้นห้ามผ่านเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านที่สัญจรไปมา

วันที่ 10 พ.ย. 63 นายจรัล  กลางประดิษฐ์ ปลัดอาวุโสฯ รักษาราชการแทนนายอำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย,นายพิทยา ชำนาญเนียม ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริการปกครอง,นายสมเกียรติ สุทธิสาร กำนันตำบลพระพุทธบาท,สื่อมวลชน พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสอบฝายชะลอน้ำลำห้วยซวก ทรุดตัว ในพื้นที่บ้านโคกซวก หมู่ 3 ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน

         



จากการตรวจสอบ พบฝายชะลอน้ำเกิดหลุมกว้างประมาณ 3 เมตร ลึกประมาณ 1.5 เมตร และมีน้ำไหลกัดเซาะดินตลอดเวลา ทำให้เกิดเป็นโพรงกว้างภายใต้ฝาย อาจเกิดทรุดตัวลงได้ เบื้องต้นทางผู้นำหมู่บ้าน ได้นำแผงเหล็กและไม้มาปิดกั้นไว้เพื่อความ ปลอดภัย ของชาวบ้านในพื้นที่ และพระสงฆ์ที่ใช้เป็นเส้นทางเดินออกบิณฑบาต ซึ่งที่ผ่านมามีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ปริมาณน้ำในฝายมีจำนวนมาก ประกอบกับฝายดังกล่าวสร้างมากว่า 7 ปี  ฝายชะลอน้ำแห่งนี้สร้างเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ฤดูแล้งก่อนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำโขง และยังเป็นทางสัญจรของชาวบ้าน


ซึ่งฝ่ายปกครองอำเภอศรีเชียงใหม่ ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เข้ามาดำเนินการแก้ไขเป็นการด่วน ก่อนจะทรุดตัวพังลงเกิดความเสียหายมากไปกว่านี้ 








วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

พิษโควิด-19 ทำหนุ่มศรีเชียงใหม่ตกงาน หวนคืนกลับบ้านเปิดร้านกาแฟสดขายสไตล์บ้านๆ ล้อมรอบด้วยผักสวนครัวปลอดสารพิษ

วันที่​ 10 พ.ย.63​ ที่ร้านกาแฟชื่อว่า "DAY BY DAY Cooffe" (เดย์ บาย เดย์ คอฟฟี่) ตั้งอยู่ริมถนนหลวงสาย 211 ศรีเชียงใหม่-สังคม ของนายนิรันดร์ บัวราช หรือหนึ่ง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 บ.ท่ากฐิน หมู่ 4 ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นร้านกาแฟสูตรโบราณ รูปแบบกระท่อมมุงหญ้าคา  ล้อมรอบด้วยผักสวนครัวปลอดสารพิษ​ ให้ลูกค้าเดินชมสวน หรือถ่ายรูปตามอัธยาศัย




นายหนึ่ง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนมีอาชีพหลายอย่าง ไม่ว่าจะรับจ้างทั่วไปและรับเหมาทำความสะอาด ทั้งในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา และพื้นที่ จ.ขอนแก่น พอเกิดวิกฤตโควิด-19 ทำให้ตนตกงาน จึงตัดสินใจพาภรรยากลับมาบ้านเกิด ก็กักตัวอยู่ 14 วัน หวังว่าเมื่อทุกอย่างดีขึ้นแล้วก็จะกลับไปทำงานใหม่ แต่ช่วงที่อยู่บ้านคิดอยากหารายได้เลี้ยงครอบครัว จึงคิดว่าหากรอต่อไปอย่างนี้ไม่ทำอะไรสักอย่างคงต้องไม่มีเงินไว้ใช้จ่ายแน่นอน ประจวบเหมาะที่พ่อมีที่ติดริมถนนประมาณ 1 ไร่เศษ และปล่อยทิ้งไว้รกร้างว่างเปล่าไม่ทำอะไร จึงตัดสินใจลงทุนเปิดเป็นร้านกาแฟสดสูตรโบราณ โดยได้ไอเดียร์มาจากร้านกาแฟแถวเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ที่ทำเป็นกระท่อมมุงหญ้าคาเล็กๆ ซึ่งตนก็เคยไปเป็นลูกจ้างเช่นกัน ส่วนตัวก็เป็นคนที่ชอบดื่มกาแฟอยู่แล้ว  ก็ได้เรียนรู้วิธีทำกาแฟแบบดั้งเดิมมาจากร้าน โดยจะบดเมล็ดกาแฟแบบดั้งเดิมด้วยมือ สกัดน้ำกาแฟและชาด้วยหม้อต้มโมก้าพอทแบบดั้งเดิม ส่วนเมนูที่ทำขายก็จะมี เอสเปรสโซ่, อเมริกาโน, คาปูชิโน่, ลาเต้, มอคค่า, โกโก้, นมสด, นมเย็น, ชาเขียว, ชาไทย 




และเนื่องจากภรรยาตนนั้นเป็นชาวไร่ชาวสวน จึงใช้พื้นที่ปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษ เพื่อให้ดูเป็นร้านขายกาแฟสดกลางธรรมชาติแนวบ้านๆ ริมทาง และให้ลูกค้าเดินชมสวน หรือถ่ายรูปตามอัธยาศัย ซึ่งก็มีผลตอบรับที่ดี มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยร้านจะเปิดให้บริการวันจันทร์-วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 น.-16.00 น. โดยจะหยุดทุกวันอาทิตย์ โทรสอบถามได้ที่เบอร์ 083-427-3727 หรือเข้าไปที่ เฟสบุ๊คเพจ "DAY BY DAY Coffee"








จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...