วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2563

เพื่อนเกษตร ม.ศ.5/3 บ้านผือพิทยาสรรค์ เลี้ยงสังสรรค์ (ซุมข้าวงาย) พบปะเพื่อนเก่าท่ามกลางกลิ่นอายธรรมชาติที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้

ที่บ้านสวนนายประสิทธิ์ ข้างหนองมน ทางเข้าบ้านวังสวย ต.จำปาโมง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี นายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์ ประธานรุ่นโปรแกรมเกษตร ม.ศ.5/3 โรงเรียนบ้านผือพิทยาสรรค์ ได้นัดเจอกันเพื่อจัดเลี้ยงรุ่น งานพบปะสังสรรค์เพื่อนๆ หลังเรียนจบมานานกว่า 40 ปี ซี่งงานนี้ยังได้รับเกียรติจากนายสามารถ หมั่นนอก นายอำเภอบ้านผือ มาร่วมกิจกรรมด้วย โดยท่านนายอำเภอบ้านผือ ยังได้มอบเมล็ดพันธ์พระราชทานให้บรรดาศิษย์เก่า ม.ศ.5/3 โรงเรียนบ้านผือพิทยาสรรค์ และร่วมปลูกต้นไม้ภายในบ้านสวนฯ หลังจากนั้นทุกคนก็ร่วมกันรับประทานอาหารเที่ยง ในรูปแบบซุมข้าวงายกลางสวน โดยบรรดาศิษย์เก่า ม.ศ.5/3ฯ ต่างคนต่างห่อข้าวมารับประทานกัน ตามวิธีชาวบ้าน บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ทุกคนก็ออกเดินทางไปเยี่ยมอาจารย์มอบของขวัญปีใหม่ให้กับอาจารย์อีกด้วย




นายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์ ประธานรุ่นฯ กล่าวว่า เพื่อนร่วมห้องกว่า 40 คน หลังจากเรียนจบ บางคนก็เรียนต่อบางคนก็ประกอบอาชีพ ต่างคนต่างไป เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก 40 ปีเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยง่าย จึงมีโอกาสรวมกลุ่มเลี้ยงรุ่นระลึกถึงความหลังสมัยเรียนอันแสนจะประทับใจ 




ประสิทธิ์ แก้วกงพาน เพื่อนร่วมห้องโปรแกรมเกษตร หลังจากเรียนจบเขาได้ใช้ชีวิตอยู่กับการทำไร่ ทำนา และเลี้ยงควายนั้นคือทางเลือกที่เขาต้องการเขาอยู่เบื้องหลังการผลักดันลูกให้ได้รับการศึกษา เพื่อที่จะได้นำความรู้ไปประกอบอาชีพที่สุจริตอย่างมีความสุข วันนี้เขาดีใจและมีความสุขที่เพื่อนๆมาเลี้ยงรุ่นที่บ้านเขาทำให้เขาได้มีโอกาสต้อนรับเพื่อนๆอย่างภาคภูมิใจ


นางละม่อม บำรุงสุข เพื่อนอีกคนที่เขาประกอบอาชีพค้าขาย(ลาบแม่ม่อม) เข้ารู้สึกภาคภูมิใจในอาชีพและมีความสุขกับงานบริการลูกค้า การที่พบปะของเพื่อนๆ ในครั้งนี้เขาได้ทำอาหารมาสมทบให้เพื่อนๆ ได้รับประทานด้วย 



นางลัคนา จันทะวงษ์ เพื่อนอีกคนที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เรียนรุ่นเดียวกัน หลังจากจบมหาวิทยาลัย เขาได้กลับมาทำงานที่บ้าน เป็นสมาชิก อบต.3 สมัย ต่อด้วยเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้านหญิง บ้านวังสวย ต.จำปาโมง จ.อุดรธานี รวมการทำงานเพื่อหมู่บ้าน เพื่อชุมชนร่วมเวลานานกว่า 20 ปี วันนี้เขาก็ได้นำปลาดุกปิ้งมาให้เพื่อนๆ ได้ร่วมรับประทานด้วย


รวมทั้ง"ลำพอง" เพื่อนอีกคน ทำงานเป็นแม่ค้าขายไข่อยู่ทางภาคใต้  ได้ส่งไข่ไก่มาให้เพื่อนเกษตรต้มรับประทาน 2 แผง นับว่าเป็นการส่งน้ำใจมาถึงเพื่อนๆ ยังมีเพื่อนอีกหลายคนที่ยังไม่สามารถติดต่อได้หวังว่าหลังจากมีข่าวการพบปะในครั้งนี้คงจะทำให้เพื่อนๆได้ติดต่อและเข้าร่วมการพบปะในครั้งต่อๆไป








วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2563

เจ้าหน้าที่ทหาร ตชด. และฝ่ายปกครอง รวบสาวลาวและคนไทย นั่งเรือหางยาวข้ามแม่น้ำโขงในช่วงเฝ้าระวังโควิด-19 สาวลาวอ้างนัดหมอทำจมูก ส่วนคนไทยข้ามไปดื่มเหล้ายันเช้าจึงขออาศัยกลับมาด้วย เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาลักลอบเข้า-ออกประเทศโดยผิดกฎหมาย

วันที่ 9 ธ.ค. 63 ที่หมวดเคลื่อนที่เร็ว ที่ 2 หมู่ 6 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย จ่าสิบเอก ยุทธนา สุขเกษม ผู้บังคับหมวดเคลื่อนที่เร็ว ที่ 2 กองบังคับการควมคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, ร้อยตำรวจโท ปกรณ์ จันทวงษ์ศรี ผู้บังคับหมวดเฉพาะกิจ ตำรวจตระเวนชายแดน 2453 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, นายแสงเพช โพธิรัตน์ กำนันตำบลโพนสา พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมจับกุม นางสีดาวอน เหืองสมัย (ชาวลาว) อายุ 27 ปี อยู่บ้านสีไค เมืองสีโคดตะบอง แขวงนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว, นายวิลุด วิชิตณรงค์ (ชาวไทย) อายุ 46 ปี อยู่ที่ 63/17 หมู่ 8 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้ที่บริเวณจุดจอดเรือริมฝั่งแม่น้ำโขง วัดกุมภประดิษฐ์ หมู่ 2 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย  

 

สอบสวนนางสีดาวอน (ชาวลาว) สารภาพว่า ตนได้นัดหมอไว้ที่คลีนิกแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี เพื่อจะทำจมูก ในราคา 20,000 บาท โดยวางเงินมัดจำไว้แล้วจำนวนหนึ่ง จึงจำเป็นต้องข้ามมา ซึ่งไม่รู้ว่าจะผิดกฏหมาย โดยได้จ้างเรือหางยาวส่งข้ามแม่น้ำโขงเป็นเงิน 3,500 บาท พอมาถึงฝั่งไทยตนยังให้ทิปคนขับเรือเพิ่มไปอีก 500 บาท รวมเป็นเงิน 4,000 บาท


ส่วนนายวิลุด (ชาวไทย) สารภาพว่า เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนและเพื่อนคนไทยอีกคนได้ร่องเรือหาปลาอยู่ในแม่น้ำโขง ในขณะร่องเรือหาปลาอยู่นั้นก็พบเพื่อนที่เป็นชาวลาวได้ชักชวนตนและเพื่อนไปนั่งดื่มเหล้าด้วยกันที่ชายหาด ฝั่งตรงข้ามบ้านโพนสา หมู่ 2 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ นั่งดื่มเหล้าสักพักเพื่อนที่หาปลาด้วยกันก็ได้ชักชวนกันกลับ แต่ตนติดลมจึงขออยู่ดื่มเหล้าต่อกับเพื่อนชาวลาวที่หาดยันเช้า เห็นเรือหางยาวแล่นมารับนางสีดาวอน ตนจึงขออาศัยนั่งเรือมาด้วย พอขึ้นฝั่งก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในที่สุด


จ่าสิบเอกยุทธนา สุขเกษม ผบ.หมวด คทร.ที่ 2 ฯ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมบูรณาการออกทำการลาดตระเวนเพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กระทั้งเวลา 05.30 น. ของวันนี้(9 ธ.ค.) พบเรือหางยาง 1 ลำ มีชายและหญิงรวม 3 คน แล่นเรือข้ามแม่น้ำโขงมาจากประเทศลาวและเทียบเรือยังฝั่งไทยบริเวณดังกล่าว มีชายและหญิง 2 คน เดินขึ้นมาบนฝั่ง เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการจับกุม ส่วนเรือหางยาวเมื่อส่งคนทั้ง 2 แล้ว ได้ขับเรือแล่นกลับไปยังประเทศลาวทันที เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหานางสีดาวอน เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนี้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้รับอนุญาต ส่วนนายวิลุด ได้แจ้งข้อกล่าวหา หลบหนีออก-เข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย พร้อมควบคุมตัวบุคคลทั้งสองดำเนินการตามขั้นตอนทางกฏหมายต่อไป

วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2563

เจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง ยึดยาเสพติดลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน 2 คดีใหญ่ ของกลางยาบ้า 2,402,000 เม็ด และไอซ์ 90 กิโลกรัม เคตามีน 30 กิโลกรัม


วันที่ 8 ธ.ค.63 ที่ศาลากลางจังหวัดหนองคาย นายณัฐวัสส์  วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พันเอกประภาส อ้อชัยภูมิ เสนาธิการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการตรวจยึดยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน 2 คดี โดยคดีแรกเป็นผลงานของฝ่ายปกครองตำบลกองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย โดยนางถนอม สมศรี กำนันตำบลกองนาง พร้อมนายสมพงษ์ ปลัดพรม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ตำบลกองนาง และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ภายหลังได้พลเมืองดีแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองฯ ว่าพบเห็นเรือต้องสงสัยแล่นข้ามมาจากประเทศเพื่อนบ้าน มาจอดริมแม่น้ำโขง หลังวัดถิ่นตอง หมู่ที่ 11 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ ชรบ. จึงได้เข้าดักซุ่มเพื่อสังเกตการณ์ และพบกลุ่มชายต้องสงสัยประมาณ 4 คน กำลังช่วยกันขนสิ่งของลงจากเรือขึ้นรถยนต์ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบ แต่กลุ่มชายดังกล่าวอาศัยความมืดหลบหนีไปได้ 




จากการตรวจสอบพื้นที่พบรถยนต์โตโยต้า ไฮลัครีโว้ สีขาว ทะเบียน ผม 8106 ขอนแก่น จอดอยู่ ตรวจสอบภายในรถพบกระสอบสีขาวอยู่บนรถและวางกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ จำนวน  6  กระสอบ ซึ่งทั้งหมดมียาบ้าบรรจุอยู่ภายในรวมจำนวน 2,402,000 เม็ด จึงทำการตรวจยึดแล้วนำมาที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอท่าบ่อ ที่ 6  เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงผู้ต้องสงสัยที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง พบหลักฐานทั้งใบขับขี่รถยนต์, ใบขับขี่รถจักรยานยนต์, บัตรประจำตัวประชาชน, สมุดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุชื่อนายไกรวิทย์ จันทริมา เป็นชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ และสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย ระบุชื่อนายวินัย จันทริมา นอกจากนี้ยังมีสำเนารายการจดทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าว, ใบคู่มือรถจักรยานยนต์ ทะเบียน กพก 916 ชัยภูมิ, ทะเบียน จงข 71 นครราชสีมา และทะเบียน กบช 922 กรุงเทพมหานคร




ส่วนคดีที่ 2 เป็นผลงานของเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 2105 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี นำโดย พันตรียุงยุทธ ดวงสุริยา ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 2105ฯ สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ บ้านแดนเมือง ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย จึงสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง และตำรวจตระเวนชายแดน เข้าดักซุ่มบริเวณท่าข้ามธรรมชาติ พบรถยนต์ฮอนด้า ซีอาวี สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 2 กค 8213 กรุงเทพมหานคร ขับมาจอดบริเวณใกล้เคียง จากนั้นก็มีเรือกีบดับเครื่องยนต์ลอยตามน้ำมาจอดบริเวณท่าน้ำ  กลุ่มคนต้องสงสัยประมาณ 4 คน ช่วยกันขนย้ายกระสอบขึ้นมาวางไว้ริมแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น แต่บุคคลดังกล่าวได้อาศัยความมืดหลบหนีขึ้นเรือไปได้ 




จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบสิ่งของบรรจุอยู่ในกระสอบจำนวน 4 กระสอบ ตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าเป็นไอซ์บรรจุอยู่ในห่อพลาสติก จำนวน 90 ห่อ/กิโลกรัม และเคตามีน 30 ห่อ/กิโลกรัม ส่วนเจ้าหน้าที่อีกชุดได้เข้าควบคุมตัวบุคคลที่อยู่บนรถยนต์ 2 คน ทราบชื่อคือ นายวัชรพงศ์  บุตรดี อายุ 23 ปี ชาวอำเภอสหัสขันธ์  จังหวัดกาฬสินธุ์ และ นางสาวปราณี  ปัสสา อายุ 20 ปี ชาวอำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งทั้งสองคนรับสารภาพว่า นายทุนจากประเทศเพื่อนบ้านจะนำยาเสพติดมาส่งให้ เพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้าที่จังหวัดปทุมธานี จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งดำเนินการตามกฎหมายต่อไป





วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2563

หน่วยเรือโพนพิสัย นรข.เขตหนองคาย ยึดยาบ้า 42,000 เม็ด หลังขบวนการค้ายาข้ามชาติ ขึ้นฝั่งทิ้งซุกพงหญ้าริมโขง แล้วเผ่นหนีกลับประเทศ

วันที่ 7 ธ.ค.63 ที่หน่วยเรือโพนพิสัย อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย น.ต.การันต์ มินวงษ์ หัวหน้าหน่วยเรือโพนพิสัย นรข.เขตหนองคาย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงผลตรวจยึดยาบ้า จำนวน 42,000 เม็ด ได้ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงหลังวัดศิริวารุกาลัย บ้านหัวหาด ต.บ้านเดื่อ อ.เมือง จ.หนองคาย 



สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.ของวันที่ 6 ธันวาคม 2563 น.ต.การันต์ มินวงษ์ หัวหน้าหน่วยเรือโพนพิสัย นรข.เขตหนองคาย ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการลักลอบส่งมอบยาเสพติดบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ซอยข้างโรงเรียนบ้านพวก หมู่ 9 ต.บ้านเดื่อ อ.เมือง จ.หนองคาย จึงรายงานให้ น.อ.วรัท โกพลรัตน์ ผบ.นรข.เขตหนองคาย ทราบ และวางแผนการจับกุม พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บ้านเดื่อ เข้าวางกำลังดักซุ่มตามที่สายลับแจ้งและบริเวณใกล้เคียง



จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. ได้พบมีเรือหางยาวพายมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีชายต้องสงสัย 2 คนอยู่บนเรือ เมื่อพายเรือมาถึงฝั่งแม่น้ำโขงของไทย ห่างจากจุดที่เจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่ประมาณ 300 เมตร ชายที่นั่งอยู่บริเวณหัวเรือได้ถือถุงกระสอบต้องสงใสขึ้นจากเรือ แล้วนำมาวางซุกซ่อนไว้บริเวณพงหญ้า จากนั้นได้วิ่งกลับขึ้นเรือแล่นข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.30 น. เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มอยู่ไม่พบการเคลื่อนไหวหรือบุคคลต้องสงสัย คาดว่าขบวนการค้ายาเสพติดคงไหวตัวทัน จึงได้เข้าตรวจสอบถุงที่ซุกซ่อนอยู่ในพงหญ้า พบเป็นยาบ้าจำนวน 7 แพ็ค จึงได้ทำการตรวจยึดไว้แล้วนำกลับมาที่หน่วยฯ เพื่อตรวจนับอย่างละเอียด จำนวน 42,000 เม็ด จึงบันทึกการจับกุม ภายหลังการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ได้ส่งของกลางให้กับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านเดื่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป





จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...