วันพุธที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2567

หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. เพื่อช่วยเหลือดูแลประชาขนที่อยู่ในเขตทุรกันดาร

จ.หนองคาย จัดกิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. เพื่อช่วยเหลือดูแลประชาชน ด้านการรักษา การส่งเสริมป้องกัน การฟื้นฟูสุขภาพอนามัย และพิธีเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ (2 มกราคม)


วันที่ 10 ม.ค. 2567 เวลา 09.00 น. ที่ โรงเรียนบ้านวังน้ำมอก หมู่ 5 ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเขียงใหม่ จ.หนองคาย นายจำลักษ์  กันเพ็ชร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธิเปิดกิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ครั้งที่ 4 ประจำปั 2567 ในพื้นที่อำเภอศรีเชียงใหม่ และพีธีเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ (2 มกราคม) โดยมี ว่าที่ ร.ต.นครชัย แสงมณี นายอำเภอศรีเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ , นายจามิกร ใจดี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีเชียงใหม่ กล่าวรายงาน พร้อมด้วยนางวรรณวิไล กันเพ็ชร์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย  นายแพทย์สุรพงษ์ ผดุงเวียง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย  หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ผู้นำหมู่บ้าน อาสาสมัคร พอ.สว. รวมทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รพ.ศรีเชียงใหม่ , รพ.สต.พระพุทธบาท รพ.สต.ห้วยไฮ  ประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม




จังหวัดหนองคาย ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้เป็นจังหวัด พอ.สว. ลำดับที่ 8 เมื่อปีพุทธศักราช 2512 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินทุนเริ่มแรก จำนวน 1 ล้านบาท ในการก่อตั้ง "มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จ พระศรีนครินทราบรมราชขนนี" (พอ.สว.) ขึ้น เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ด้อยโอกาส และข้าราชการที่อยู่ในเขตทุรกันดาร ห่างไกลการคมนาคม



ในวันนี้ เป็นการออกปฏิบัติงานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. เพื่อช่วยเหลือดูแลประชาชน ด้านการรักษา การส่งเสริมป้องกัน การฟื้นฟูสุขภาพอนามัย โดยการให้บริการตรวจโรคทั่วไป บริการทันตกรรม บริการแพทย์แผนไทย บริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยตนเอง บริการวัคซีนป้องกับโรคติดเชื้อโรคไวรัสโควืด-19 ให้แก่ประชาชนกลุ่นเปราะบาง และลงพื้นที่เยี่ยมผู้ป่วยติดเดียง จำนวน 5 ราย












วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2567

สายมูหนองคาย แห่ไหว้ศาลหลักเมืองเสาร์แรกของปี

กระแสโซเซียลแรง!! "สายมูเตลูหนองคาย" แห่ไหว้ศาลหลักเมือง ต้อนรับเสาร์แรกของปี 67 เชื่อเป็นการเปิดดวง เปิดชีวิตในปีใหม่วันใหม่ ช่วยเสริมสิริมงคลแก่ชีวิตตัวเองและครอบครัว


ค่ำวันที่ 6 ม.ค  2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ศาลหลักเมืองจังหวัดหนองคาย อ.เมืองหนองคาย ริมถนนมิตรภาพ สายหนองคาย-อุดรธานี  (ขาเข้า) พบประชาชนชาวจังหวัดหนองคายต่างพากันนำดอกไม้ ธูปเทียน มากราบสักการะศาลหลักเมือง ที่ตั้งอยู่ใกล้ศูนย์ราชการจังหวัดหนองคาย ทั้งนี้สื่อโซเซียลได้มีการแชร์ต่อกันเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการไหว้ศาลหลักเมืองเพื่อเป็นการเสริมสิริมงคลแก่ชีวิตตัวเองและครอบครัว


นางสาวภัทรานิษฐ์ ทรงคำ บอกว่า ตนนั่งดูโทรศัพท์ที่ผ่านสื่อโซเซียล facebook เห็นผู้คนแชร์กันเป็นจำนวนมากในการไปไหว้ศาลหลักเมือง เพื่อเป็นการเปิดดวงแต่ถ้าจะดีก็ต้องไปไหว้ศาลหลักเมืองที่บ้านเกิดหรือไม่ก็ไหว้ที่จังหวัดที่ต้นเองอาศัยและทำมาหากิน โดยตนเองเป็นชาวจังหวัดเชียงใหม่ ได้มาทำงานในพื้นที่จังหวัดหนองคาย จึงได้ถือเอาวันที่ 6 มกราคม 2567 วันเสาร์ของปี ก็เลยเดินทางมากราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล


ทางด้านผู้ที่สัญจรไปมาบริเวณถนนหน้าศาลหลักเมือง จ.หนองคาย เกิดความสงสัยก็เลยจอดรถลงมาสอบถามจึงได้ทราบว่าเป็นกระแสการกราบไหว้สักการะตามความเชื่อว่ากันว่า เป็นการเปิดดวง เปิดชีวิตของเราในปีใหม่วันใหม่ ช่วยเสริมสิริมงคล ต่อชะตาอายุ ใครตกอายุที่เคราะห์ จะได้หายเจ็บหายป่วย ไร้โรคภัยไข้เจ็บ มีความสุข ความเจริญนั่นเอง 






วันพฤหัสบดีที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2567

ทหารพราน กกล. สุรศักดิ์มนตรี ยึดรถ จยย.ขโมยมา เตรียมข้ามโขง 4 คัน

กองร้อยเฉพาะกิจทหารพราน 2110 หน่วยเฉพาะกิจทหารพราน 21 กกล.สุรศักดิ์มนตรี สนธิฝ่ายปกครอง อ.สังคม และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ตรวจยึดรถ จยย.4 คัน เตรียมส่งขายลาวบริเวณริมโขง จุดชมวิวหนองปลาบึก ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย ส่วนขบวนการค้ารถข้ามชาติหลบหนีไปได้ ตรวจสอบเป็นรถถูกโจรกรรมมาจากขอนแก่น


เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2567 (เวลาประมาณ 18.30น.) ที่ บริเวณ เขื่อนป้องกันตลิ่งริมฝั่งแม่น้ำโขง (จุดชมวิวหนองปลาบึก) บ้านหนอง ม.3 ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย ร.ท.พิชิตพล  เคนดา ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2104 (ร.13)  กกล.สุรศักดิ์มนตรี นายสมควร  ใจสื่อ  นอภ.สังคม  พร้อมด้วย จนท. ร้อย.ฉก.ทพ.2104 กกล.สุรศักดิ์มนตรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่จำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกันตรวจยึดและแถลงผลการตรวจยึด รถ จยย.จำนวน 4 คัน ที่เตรียมลักลอบนำข้ามฝั่งไป สปป.ลาว


การตรวจยึดครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อ วันที่ 3 ม.ค. 2567( เวลประมาณ 17.30 น.ร.ท.พิชิตพล  เดา ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2110 (ร.13) ฉก.ทพ.21 กกล.สุรศักดิ์มนตรี ได้รับแจ้งจากสายข่าว พบรถยนต์กระบะ(ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน) มีชายต้องสงสัย 4-5 คน บรรทุกรถ จยย.จำนวน 4 คันและนำลงจากรถจอดไว้บนฟุตบาทเขื่อนป้องกันตลิ่งริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณจุดชมวิวหนองปลาบึก บ้านหนอง ม.3 ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย เพื่อเตรียมส่งข้ามไปขายยัง สปป.ลาว จึงพร้อมด้วย ชป.ทพ.ที่ 1 (บ้านหนอง) เข้าตรวจสอบเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ไหวตัวและขึ้นรถกระบะขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยได้ทิ้งรถ จยย.ไว้บริเวณที่เกิดเหตุ


จากนั้น ร.ท.พิชิตพล  เคนดา ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2110 ฉก.ทพ.21 ได้ประสาน ผู้นำชุมชน, ฝ่ายปกครอง อ.สังคม, จนท.ตร.สภ.นางิ้ว และ สน.เรือสังคม เข้าทำการตรวจสอบรถ จยย.ดังกล่าว พบเป็นรถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟไอ จำนวน 4 คัน ของกลุ่มขบวนการโจรกรรมรถข้ามแดนที่ ขโมยมาจากพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพื่อนำมาส่งให้กลุ่มขบวนการส่งรถข้ามแดนไปยัง สปป.ลาว  จากการตรวจสอบรถทุกคันมีการหลักฐานการแจ้งความรถหาย แต่เจอ จนท.ทหารพราน ตรวจยึดไว้ได้ก่อน

การตรวจยึดครั้งนี้ภายใต้การอำนวยการของ นายสมควร ใจซื่อ นายอำเภอสังคม ,พ.อ.สุริวัชร์   อัครพรเดชาพงษ์ ผบ.ฉก.ทพ.21 ก่อนนำของกลางทั้งหมดส่ง พนง.สอบสวน สภ.นางิ้ว อ.สังคม จ.หนองคาย ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

นายพันธลภ  แสงทอง-ฉก.ทพ.2110 จังหวัดหนองคาย



วันพุธที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2567

จับสาวแสบ พนง.โรงรับจำนำ "อีซี่ มันนี่" เวียนจำนำทองนานกว่า 2 ปี โกย 170 ล้านบาท

ตม.หนองคาย รวบสาวแสบ อดีตพนักงานบัญชีโรงรับจำนำ "อีซี่ มันนี่" ย่านปากเกร็ด ลักทองคำลูกค้านำกลับมาเวียนจำนำใหม่นานกว่า 2 ปี มูลค่ากว่า 170 ล้านบาท เผ่นกลบดานในลาว อ้างนำเงินได้นำไปเล่นการพนันออนไลน์จนหมดตัว


วันที่  3 ม.ค. 2567 (เวลา 14.10 น.) ที่ งานสืบสวนปราบปราม ตม.หนองคาย พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.จว.หนองคาย, พ.ต.ท. ธียาฌพัตท์  รังสิพราหมณกุล  รอง ผกก.ตม.จว.หนองคาย,พ.ต.ท.อภิชาติ  คลธา สว.ตม.จว.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.หนองคาย ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม น.ส.จีรวรรณ  กระแสอินทร์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97/1 หมู่ 1 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 1038/2566 ลงวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ที่กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง” ได้ที่จุดตรวจฝั่ง ขาเข้า ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองค

การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องเมื่อประมาณต้นเดือน ตุลาคม 2566 ผู้แทนรับมอบอำนาจจากโรงรับจำนำอีซี่มันนี่ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเก็ด จ.นนทบุรี  ได้เข้าร้องทุกข์ กับ พงส.สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อดำเนินคดีกับ น.ส.วรรณ  สัญชาติไทย และ น.ส.ทิพย์  สัญชาติไทย ซึ่งเป็นพนักงานของโรงรับจำนำดังกล่าว เนื่องจากตรวจพบว่าจำนวนสร้อยคอทองคำ และทองคำแท่ง ที่รับจำนำไว้ มีมูลค่าน้อยกว่าจำนวนเงินที่จ่ายให้กับลูกค้าที่มาจำนำ และยังพบมีสร้อยคอทองคำปลอมปะปนอยู่ที่ห้องเก็บรักษาของรับจำนำ โดยทราบว่าพนักงานทั้งสองคนเมื่อรับจำนำทองแล้ว จากนั้นจะลักเอาทองคำของโรงรับจำนำ มาให้กับหน้าม้านำมาเวียนจำนำกับโรงรับจำนำอีกครั้ง เมื่อได้เงินมาแล้วจะแบ่งให้กับหน้าม้าครั้งละ 1,000 -2,000 บาท จากนั้นจะนำเงินสดโอนเข้าบัญชีของตนเอง โดยทำมาแล้วกว่า 2 ปี ได้เงินรวมกว่า 170 ล้านบาท 

ต่อมาศาลจังหวัดนนทบุรี ได้อนุมัติหมายจับคนทั้งสอง ในความผิด “ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง” ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี 1038/2566 และ 1039/2566 ลง 26 ธ.ค.2566  เบื้องต้นสามารถจับกุม  น.ส.ศรินทิพย์ แพนดาลิสกา และดำเนินคดีแล้ว ส่วน น.ส.จีรวรรณ กระแสอินทร์ อายุ 30 ปี สัญชาติไทย ได้หลบหนีออกนอกประเทศได้ไปกบดานที่ สปป.ลาว  ก่อนที่ศาลจะมีการอนุมัติหมายจับ ชุดสืบสวน ภ.1 ได้ประสานมายัง ชุดสืบสวน ตม.จว.หนองคาย จากนั้นได้ประสานกับทางการ สปป.ลาว เพื่อกดดันให้กลับมามอบตัว พร้อมเฝ้าระวังตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าทางช่องทางธรรมชาติ

จนกระทั่ง วันที่ 3 ธ.ค.2566 เวลาประมาณ 12.30 น.ส.จีรวรรณ  กระแสอินทร์ อายุ 30 ปี ได้เดินทางเข้ามาทางด่านพรมแดน สะพานมิตรภาพไทย – ลาว จ.หนองคาย ร.ต.อ.สราวุธ  เครือชาลี ร้อยเวรงานตรวจบุคคลและพาหนะ ได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัย จึงได้กักตัวไว้ ก่อนประสานชุดสืบสวน ตม.จว.หนองคาย และได้ควบคุมตัวพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบ เบื้องต้น น.ส.จีรวรรณ    กระแสอินทร์  ให้การรับว่าได้ร่วมกันลักทรัพย์ของโรงรับจำนำจริง ส่วนเงินได้นำไปเล่นการพนันออนไลน์จนหมดตัว  จากนั้น จนท.ได้ควบคุมตัวนำส่ง พงส.สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

นายพันธลภ  แสงทอง -ตม.จว.หนองคาย



วันจันทร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567

แห่ไหว้ "หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ" เสริมสิริมงคลเริ่มต้นปี 67

ชาวไทย ชาวลาว และนักท่องเที่ยวหลั่งไหลทำบุญไหว้ขอพร "หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ" พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สองฝั่งโขง เพื่อความเป็นสิริม งคลเอาฤกษ์เอาชัยในการเริ่มต้นป๊ 67


วันที่ 1 ม.ค. 2567  บรรยากาศภายในวัดศรีชมภูองค์ตื้อ ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ดูคึกคักทั้งวัน มีพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย ชาวลาว และนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศเดินทางมากราบสักการะขอพร "หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ" พบว่ามีทั้งมาเป็นกลุ่มคณะ มาแบบครอบครัว กลุ่มเพื่อน และคู่หนุ่ม-สาว 



โดยได้ทำบุญ ถวายสังฆทาน สะเดาะเคราะห์ ปล่อยปลา ตักบาตร 108 และไหว้ขอพรปีใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต และเอาฤกษ์เอาชัยในการเริ่มต้นปี 67 รวมทั้งเช่าบูชาหลวงพ่อพระพระเจ้าองค์ตื้อ กลับไปเคารพบูชาอีกด้วย

วัดศรีชมภูองค์ตื้อ เป็นอีกหนึ่งสถานที่อันเป็นที่เลื้องชื่อที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองประจำจังหวัดหนองคายมาช้านาน ซึ่งถ้าผู้ใดได้ไปเยือนถิ่นหนองคายแล้วไม่ได้แวะมาสักการะ "หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ" นับว่าน่าเสียดายมาก หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่หล่อด้วยทอง ฝีมือของช่างฝ่ายเหนือและช่างล้านช้าง ลักษณะงดงามมาก นั่งขัดสมาธิปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 3.29 เมตร สูง 4 เมตร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงเคารพนับถือ 



จากหลักฐานศิลาจารึกทำให้ทราบว่า พระเจ้าองค์ตื้อสร้างเมื่อพุทธศักราช 2105 สร้างในสมัยพระไชยเชษฐา กษัตริย์นครเวียงจันทร์ หล่อโดยใช้ทองคำ ทองเหลือง และเงินผสมกัน รวมน้ำหนักได้ 1 ตื้อ (ตื้อ เป็น มาตราโบราณของอีสาน) ใช้เวลาในการสร้าง 7 ปี 7 เดือน โดยทางวัดจะเปิดให้พุทธศาสนิกชนเข้าทำบุญไหว้สักการะ องค์หลวงพ่อฯ ถึงวันที่ 3 มกราคม นี้











จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา"...