บ.กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด มอบตู้และหนังสือพระไตรปิฏก

หนองคาย - บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด จัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสฉลองวันก่อตั้งบริษัทฯ ครบรอบ 20 ปี  ถวายตู้เก็บหนังสือและหนังสือพระไตรปิฏก ให้กับวัดพระธาตุบังพวน

 

      เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่วัดพระธาตุบังพวน  อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย   นายประสิทธิ  คำเกิด รองกรรมการผู้จัดการบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด  นำคณะผู้บริหาร พนักงานและเจ้าหน้าที่ จัดกิจกรรมเนื่องในวันก่อตั้งบริษัทฯ 24 กุมภาพันธ์ 2561 ครบรอบ 20 ปี  ถวายตู้เก็บหนังสือและหนังสือพระไตรปิฏก ให้กับวัดพระธาตุบังพวน อีกทั้งเพื่อให้คณะผู้บริหาร พนักงานและเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันทำบุญและสืบทอดพระพุทธศาสนา  โดยครั้งที่ 1 ได้ถวายตู้เก็บหนังสือพร้อมหนังสือพระไตรปิฏกให้กับวัดพระราม 9 พระอารามหลวง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2  นอกจากนั้น ทางบริษัทฯ ยังได้ตั้งโรงทานบริการอาหารและน้ำดื่มให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทำบุญด้วย

       สำหรับวัดพระธาตุบังพวน มีประวัติศาสตร์เล่าต่อกันมามากมาย เชื่อกันว่า เป็นพระธาตุที่เก็บเอาพระธาตุบังคนหนักของพระพุทธเจ้าเอาไว้ตามความเชื่อของคนโบราณ นอกจากนั้น ยังมีสิ่งปลูกสร้างที่ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกับพระธาตุบังพวน ที่เป็นสัญลักษณ์ของเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในพุทธประวัติด้วย เรียกว่า “สัตตมหาสถาน” เป็นการจำลองเอา 7 สถานที่ มาไว้ที่นี่เพื่อให้ผู้คนได้รู้ว่าพระพุทธองค์ได้เดินทางไปที่ใดบ้าง เกิดเหตุการณ์ใดขึ้นบ้าง หลังจากที่ตรัสรู้ ซึ่งสถานที่ทั้ง 7 สถานที่นั้นได้แก่ โพธิบัลลังก์, อนิมมิสเจดีย์,รัตนจงกรมเจดีย์, รัตนฆรเจดีย์,อชาปาลนิโครธเจดีย์,มุจลินทเจดีย์ และราชายตนะเจดีย์  วัดพระธาตุบังพวนถือเป็นศาสนสถานและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของจังหวัดหนองคาย.

จังหวัดหนองคาย ฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ ประจำปี 2561

หนองคาย - จังหวัดหนองคาย ฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ ประจำปี 2561 เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

        วันที่ 26 มี.ค. 2561  ที่หอประชุมประจักษ์ศิลปาคม ศาลากลางจังหวัดหนองคาย  นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานการประชุมชี้แจงการฝึกซ้อมดับเพลิงและซ้อมอพยพหนีไฟ ซึ่งนายเกษมสันต์ เครือเจริญ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดหนองคาย ได้จัดขึ้น เพื่อซักซ้อมผู้ที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับแผนการดับเพลิง วิธีการดับเพลิง แผนการอพยพ วิธีการอพยพหนีไฟ การค้นหา ช่วยเหลือและเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย 

       จากนั้น ในช่วงบ่าย ที่จุดรวมพลศาลากลางจังหวัดหนองคาย โดยมี นายจิรศักดิ์  ศรีคชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานการฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ การระงับอัคคีภัย และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

       สำหรับการฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ ครั้งนี้ ได้จำลองเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ชั้น 2 อาคารศาลากลางจังหวัดหนองคาย  ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ได้หนีไฟมาที่จุดรวมพล โดยมีทีมวิทยากรจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองคาย, โรงพยาบาลหนองคาย  ไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เทศบาลเมืองหนองคาย, เทศบาลตำบลหาดคำ, องค์การบริหารส่วนตำบลหนองกอมเกาะ ,องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย อาสากู้ภัยประจักษ์ มูลนิธิสว่างคงคาธรรมสถานหนองคายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมฝึกซ้อม.

อาสาพิทักษ์ป่า สร้างจิตสำนึก ร่วมแรงร่วมใจทำแนวกั้นไฟ ปกป้องป่าชุมชน

หนองคาย - กิจกรรมดี ๆ... สร้างจิตสำนึกชาวบ้านห้วยหินขาวและภูพนังม่วงปกป้องป่าชุมชน ร่วมแรงร่วมใจทำแนวรั้วกันไฟป่า ยาว 4 กม. เพื่อป้องกันไฟป่าในช่วงหน้าแล้งได้ทั้งประโยชน์ ได้ทั้งความสามัคคี

       วันที่ 24 มี.ค. 2561 ที่บริเวณป่าชุมชนบ้านห้วยหินขาว หมู่ 6 และป่าชุมชนบ้านภูพนังม่วง หมู่ที่ 8 ตำบลด่านศรีสุข อำเภอโพธิ์ตาก จังหวัดหนองคาย  นายบุญศรี   ชาติมนตรี ผู้ใหญ่บ้านบ้านห้วยหินขาว,ประธานอาสาพิทักษ์ป่าบ้านห้วยหินขาว,นายพันธลภ  แสงทอง ผู้สื่อข่าว ททบ.5 หนองคาย/หนองคายฮอตนิวส์ (Nongkhai Hotnews), โฮมเคเบิลหนองคาย (Home cable Nongkhai), หนองคายกระจายข่าว,   ตัวแทนจาก ทกจ.หนองคาย , ส.ปชส.หนองคาย , ฝ่ายปกครองอำเภอโพธิ์ตาก, เจ้าหน้าที่ ปภ.อบต.ด่านศรีสุข ร่วมกับผู้นำชุมชนและชาวบ้านในพื้นที่  ทำแนวป้องกันไฟป่าในพื้นที่ป่าชุมชน ที่มีระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร กว้าง 4 เมตร

       สำหรับการแนวป้องกันไฟป่าครั้งนี้  สืบเนื่องจากทุกปีในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม มักจะเกิดไฟป่าลุกลาม และปัญหาหมอกควันไฟ สร้างความเดือดร้อนไปยังชุมชุน และพื้นที่ใกล้เคียง และที่ผ่านมาปัญหาเพลิงไหม้ และปัญหาไฟป่า ยังสร้างความสูญเสีย ด้านทรัพยากรป่าไม้ และพืชผลทางเกษตร เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมบริเวณดังกล่าว อย่างไรก็ตามในการทำรั้วแนวกันไฟ  เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืน และต้องการปลูกจิตสำนึกให้ชาวบ้านเกิดความรัก และหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม

      อีกทั้ง ยังสามารถป้องกันไฟไหม้ลุกลามไปยังพื้นที่ป่าชุมชน  เนื่องจากในปัจจุบันนี้ พบว่าชาวบ้านเริ่มลักลอบจุดไฟเผาป่าเพื่อหาของป่าและแกล้งเผาป่า ซึ่งถือเป็นสาเหตุหลักของการเกิดไฟป่าด้วย สร้างความเดือดร้อนและความเสียหายให้กับประชาชนในพื้นที่ และป่าผืนดังกล่าวเป็นป่าต้นน้ำที่หล่อเลี้ยงผู้คนในหลายหมู่บ้าน.

ทีมขับเคลื่อนไทยนิยมฯ ระดับตำบล ลงพื้นที่จัดเวทีประชาคม ตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน

หนองคาย - ทีมขับเคลื่อนไทยนิยมฯ ระดับตำบล ลงพื้นที่บ้านส้มโฮง ตำบลนาข่า อำเภอท่าบ่อ จัดเวทีประชาคม ตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน พร้อมให้คำปรึกษา

       วันนี้(26 มี.ค. 2561) ที่วัดสระวังทอง หมู่ที่ 4 บ้านส้มโฮง ตำบลนาข่า อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายประกอบ มีใจใส กำนันตำบลนาข่า พร้อมด้วยทีมขับเคลื่อนไทยนิยมฯ ระดับตำบล ลงพื้นที่จัดเวทีประชาคมตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน เพื่อให้คำปรึกษา แนะนำ และสร้างขวัญกำลังใจแก่ชาวบ้านที่มาร่วมประชาคม

       ทั้งนี้จังหวัดหนองคาย ได้มอบหมายให้คณะทำงานระดับจังหวัด และอำเภอ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามและให้คำปรึกษาแนะนำคณะกรรมการระดับอำเภอ และทีมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ตามโครงการไทยนิยมยังยืน ระดับตำบล และร่วมเวทีประชาคมหมู่บ้านเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การดำเนินงานใน 9 อำเภอของจังหวัด ซึ่งการทำประชาคมครั้งนี้ยังได้ให้ชาวบ้านแสดงความพึงพอใจของการทำประชาคมครั้งนี้ ว่ามีความความพึงพอใจมากน้อยแค่ไหน สำหรับความต้องการของชาวบ้านในการทำประชาคมครั้งนี้นั้น ส่วนใหญ่มีความต้องการท่อระบายน้ำเสียพร้อมบ่อพัก ไฟฟ้าแรงดันต่ำ และถนน คสล.

       นอกจากนี้ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดหนองคาย ยังได้ออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ประกันสังคมแรงงานนอกระบบ (มาตรา 40) สู่ชุมชนให้กับชาวบ้าน หมู่ที่ 4 บ้านส้มโฮง โดยเชิญชวนผู้ประกอบอาชีพอิสระที่มีอายุตั้งแต่ 15-60 ปี สมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เพื่อเป็นสวัสดิการให้กับประชาชนทั่วไปด้วย.

โจรงัดบ้าน เข้าไปขโมยของกลางวันแสกๆ

หนองคาย – โจรงัดบ้าน เข้าไปขโมยของกลางวันแสกๆ อาศัยช่วงที่เจ้าของบ้านออกไปเลี้ยงวัว ฉกทรัพย์สินลอยนวล

       วันนี้ (26 มี.ค. 2561) ผู้สื่อข่าวได้รับรับแจ้งจากชาวบ้านในตำบลนาข่า ว่ามีคนร้ายก่อเหตุงัดบ้านเข้าไปลักทรัพย์ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 52 หมู่ที่ 3 บ้านโพนตาล ตำบลนาข่า อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นบ้านสองชั้น พบนางเวริสา อุ่นคำ อายุ 52 ปี กำลังยืนอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว โดยได้พาผู้สื่อข่าวไปดูรอบ ๆ บริเวณที่คนร้ายเข้างัดบ้าน พร้อมกล่าวว่า ตนเป็นเพียงคนมาเฝ้าบ้านให้กับนางทองดี ทองสด ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านและเป็นน้องสาวของตน ซึ่งนางทองดีไม่อยู่บ้านไปทำงานที่กรุงเทพฯ โดยเมื่อวานนี้(25 มี.ค.) ตนไม่ได้อยู่บ้าน เพราะจูงวัวออกไปกินหญ้า ห่างจากประมาณ 1 กิโลเมตร โดยไม่มีใครอยู่บ้าน จนกระทั้งช่วงเย็น เวลาประมาณ 18.00 น. ตนก็นำวัวกลับเข้าคอก จากนั้นก็เข้าบ้านตามปกติ

       เมื่อเข้าไปในตัวบ้านก็สังเกตุเห็นประตูตู้เสื้อผ้าเปิดอยู่ก็เอะใจ จึงเดินไปดูหลังบ้านก็เห็นประตูข้างบ้านติดกับโรงจอดรถเปิดทิ้งไว้เช่นกัน โดยมีรอยงัดแงะ จึงรีบขึ้นไปดูบนบ้านก็พบประตูห้องนอนเปิดทิ้งไว้ เมื่อเข้าไปดูก็เห็นข้าวของกระจัดกระจายเหมือนถูกรื้อค้น ตนจึงมั่นใจแน่ว่าถูกโจรงัดบ้านแน่นอน จึงได้ทำการสำรวจข้าวของภายในบ้าน พบพระเครื่องจำนวนหนึ่งที่สะสมมานานได้หายไปหมด รวมทั้งเงินที่เก็บอยู่ในตู้เสื้อผ้าที่มีอยู่ จำนวน 10,000 บาท หายไป 6,000 บาทที่เป็นธนบัตร เหลือแต่เงินเหรียญ จำนวน 4,000 บาท และยังมีพานโบราณที่เป็นทองแดงขนาดใหญ่ รวมทั้งเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงไว้ล้างรถได้หายไปด้วย คาดว่าโจรน่าจะมางัดบ้านช่วงเวลาบ่ายโมง ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่มีใครอยู่บ้าน แต่เป็นที่น่าแปลกใจตรงที่ว่าโน้ตบุ๊กของหลานสาววางไว้บนที่นอนกลับไม่เอาไป และยังเห็นล่องลอยโจรกระโดดออกตรงกำแพงบริเวณครัวหลังบ้านด้วย

        เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ได้เก็บลายนิ้วมือของคนร้ายในที่เกิดเหตุ เพื่อเปรียบเทียบกับแฟ้มประวัติอาชญากรรม และเร่งติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.