ผบ.ทบ. ลงพื้นที่หนองคาย ติดตามงานฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองกอมเกาะ

หนองคาย - พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ( ผบ.ทบ. )และ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (รอง ผอ.รมน.)ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ โดยความร่วมมือ ทบ.- มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ

       วันนี้ (27 เม.ย. 2561) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ( ผบ.ทบ. )และรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (รอง ผอ.รมน.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองกอมเกาะ  ต.เมืองหมี  อ.เมืองหนองคาย ซึ่งกองพันทหารช่างที่ 3 กองพลทหารราบที่ 3 รับผิดชอบ โดยความร่วมมือ ทบ. – มูลนิธิอุทกพัฒน์ ประจำปี 2560 โดยมี พันโทณัฐพล โรจนบุรานนท์ ผู้บังคับกองพันทหารช่างที่ 3 กองพลทหารราบที่ 3   บรรยายสรุปผลการปฏิบัติงาน โครงการปรับปรุงและฟื้นฟูแหล่งน้ำ (ความร่วมมือ ทบ. – มูลนิธิอุทกพัฒน์) ประจำปีงบประมาณ 2560  โดยมี นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชนตำบลเมืองหมี และชาวบ้านในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ

           

       โครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองกอมเกาะ  ครม.ได้มีมติ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2560 เห็นชอบในหลักการให้กองทัพบก ดำเนินโครงการปรับปรุงและฟื้นฟูแหล่งน้ำ (ความร่วมมือ ทบ. – มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ) ประจำปี 2560 จำนวน  22 โครงการ ในพื้นที่ 15 จังหวัด ซึ่งกองพันทหารช่างที่ 3 กองพลทหารราบที่ 3 รับผิดชอบในพื้นที่หนองกอมเกาะ ต.เมืองหมี  อ.เมือง จ.หนองคาย ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ

             

      หนองกอมเกาะ มีขนาดพื้นที่ 2,800 ไร่ มีราษฏรในพื้นที่ใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำจำนวน 3 ตำบล 8 หมู่บ้าน 2,878 ครัวเรือน ซึ่งในพื้นที่ประสบปัญหาน้ำไม่พอใช้ ในการอุปโภค-บริโภค คณะกรรมการหมู่บ้าน/ผู้นำชุมชน จึงได้แลกเปลี่ยนแนวความคิดกับชุมชน เครือข่ายและมูลนิธิอุทกพัฒน์ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะตื้นเขิน ให้มีความลึกเพิ่มขึ้น ราษฎรมีน้ำสำรองใช้ทำการเกษตรเลี้ยงสัตว์ และผลิตประปาสู่ชุมชน

            

       หนองกอมเกาะ มีลักษณะ ทางกายภาพคือเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ทำให้น้ำในบริเวณใกล้เคียงไหลมารวมกัน เกินเป็นหนองน้ำขึ้น ซึ่งในตัว หนองกอมเกาะ เองนั้น มีพื้นที่สูงต่ำ ไม่เท่ากัน โดยที่บริเวณกลางหนองมีลักษณะต่ำเป็นแอ่ง บริเวณขอบหนองเป็นเนินดินสูง ทำให้ราษฎรในพื้นที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำได้เต็มประสิทธิภาพ

     

       ทางกองพันทหารช่างที่ 3 กองพลทหารราบที่ 3 จึงได้เข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว ดำเนินการขุด ครอบคลุม พื้นที่ 70 ไร่ มีความกว้าง 50 ม. ยาว 2,200 ม. ลึก 3.0 – 3.5 ม. ความลาดชัน 1:1.5  นำดินดังกล่าวมากั้นแนวเขต พัฒนาเส้นทางสัญจร ลานสาธารณะ ลานกีฬา ถนน วัด และ อบต.  งานวางท่อรับน้ำแนวเดียว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 ม. พร้อมหินเรียงป้องกันการกัดเซาะ จำนวน 4 จุด และงานถนนลูกรัง กว้าง 6 ม. ยาว 2,450 ม.

    

       หลังจากดำเนินการแล้วเสร็จ หนองกอมเกาะจากเดิมเก็บน้ำได้ 2.2 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นเป็น 2.55 ล้านลูกบาศก์เมตร เกษตรกรและประชาชนจะได้รับประโยชน์มีน้ำใช้อย่างพอเพียงในช่วงหน้าแล้ง ประมาณ 2,878 ครัวเรือน ( 3 ตำบล , 8 หมู่บ้าน)   มีการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งเพิ่มมากขึ้น และจะกระจายน้ำเข้าสู่พื้นที่การเกษตร ประมาณ 2,560 ไร่   อีกทั้ง เกิดระบบเชื่อมต่อทางน้ำเข้า – ออก ได้ดียิ่งขึ้น ฟื้นคืนระบบนิเวศ.

พมจ.หนองคาย รวมพลังประชารัฐหยุดการค้าประเวณีและการค้ามนุษย์

หนองคาย - กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น  เพื่อเป็นการหาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้าประเวณีและการค้ามนุษย์

       วันนี้ (27 เม.ย. 256) ที่ห้องประชุมด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อำเภอเมืองดหนองคาย นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว และสื่อมวลชน ร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแนวทางการป้องกันแก้ไขปัญหาการค้าประเวณีและการค้ามนุษย์ โดยมี พ.ต.ท.หญิงธาราทิพย์ จำรัส รองผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ,นายอาทร จันทร์พิลา ประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย นำเสนอแนวทางการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง มี ร.ต.อ. อภิชาต  คลธา รองสารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย เป็นวิทยากรบรรยาย พร้อมนำคณะผู้บริหารและสื่อมวลชนเยี่ยมชมเครื่องตรวจพาสปอตของ ตม.

      สำหรับสถิติการประเวณี ในจังหวัดหนองคายพบว่า ตั้งแต่ปี 2558-2560 และในปี 2561 ตั้งแต่เดือน มกราคม-มีนาคม พบการค้าประเวณี  1 ราย และพบเตร็ดเตร่เพื่อค้าประเวณี  77 ราย เป็นคนลาว 66 คน ไทย 11 คน  ส่วนการค้ามนุษย์ในจังหวัดหนองคาย พบว่า ในปี 2558-2560 และปี 2561 ตั้งแต่เดือน มกราคม-มีนาคม จับกุมข้อหาค้ามนุษย์   6 คดี มีผู้ต้องหาคนไทย 9 คน ลาว 1 คน และมีผู้เสียหาย คนไทย 5 คน ลาว 6 คน

       จากนั้น ในช่วงบ่าย นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว พร้อมคณะได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดการเสวนา การพัฒนาบทบาทผู้นำทางสังคมด้านสตรีและครอบครัว เพื่อรวมพลัง หยุดยั้งการค้าประเวณี และการค้าการค้ามนุษย์ด้านสตรีและเด็ก ภายใต้กิจกรรมเสวนาสัญจรพลังบวกสาม ภาครัฐ สื่อและประชาสังคม เพื่อสตรีและครอบครัว มีนายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ,นางบุญรดา ทัพมงคล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองคาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมต่อจิ๊กซอร์ประกาศให้สังคมรับรู้ และแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือ “ประชารัฐรวมพลังหยุดค้าประเวณี ค้ามนุษย์” จากนั้น ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายจากภาครัฐ ภาคเอกชน นักเรียนประชาชน และสื่อมวลชนในพื้นที่และสื่อมวลชนส่วนกลาง ร่วมเดินรณรงค์ป้องกันการค้าประเวณีและการค้ามนุษย์ กว่า 300 คน เพื่อแสดงพลังประชารัฐหยุดการค้าประเวณีและการค้ามนุษย์.

พายุฤดูร้อนหอบลูกเห็บถล่ม 2 อำเภอ ในจังหวัดหนองคาย บ้านเรือนพังเสียหายหลายหลัง

หนองคาย – พายุฤดูร้อนหอบลูกเห็บถล่ม 2 อำเภอ ในจังหวัดหนองคาย ต้นไม้ใหญ่หักโค่น บ้านเรือนประชาชนพังเสียหายหลายหลัง

       เมื่อเย็นวานนี้ (25 เม.ย. 2561) ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดและมีลูกเห็บตกถล่มในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอท่าบ่อ และอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ทำให้มีต้นไม้ใหญ่หักโค่น ทั้งต้นมะม่วง ต้นโพธิ์ ต้นสักล้มทับบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก และมีหลังคาปริวออกจากตัวบ้านหลายหลัง

       โดยพื้นที่อำเภอท่าบ่อ พบว่ามีต้นมะม่วงล้มขวางถนนหมู่บ้าน และบ้านเรือนประชาชนพังเสียหายหนักสุดที่ตำบลกองนาง 4 หมู่บ้าน กว่า 100 หลังคาเรือน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ขณะนี้ นายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร นายอำเภอท่าบ่อ ได้มอบหมายให้ นายธรรมพล ไชยนาม ปลัดอำเภอท่าบ่อ(ฝ่ายความมั่นคง) พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอท่าบ่อ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเรือนที่อยู่ติดกับริมโขงที่ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโบราณที่หมู่ 11 สร้างเมื่อปี 2500 ถูกลุกเห็บขนาดเท่าไข่ไก่ตกถล่มหลังคาที่มุงด้วยกระเบื้องดินเผาโบราณได้รับความเสียหาย เป็นรูพรุนไปทั่วหลังคา รวมทั้งหลังคาที่นั่งพักริมโขงก็ได้รับความเสียหานเช่นกัน

       นางอนุสรณ์ ทองสังวรณ์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 235 หมู่ที่ 10 ตำบลกองนาง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย เจ้าของร้านเฝ๋อเวียงจันทน์ กล่าวว่า ช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. ของวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะนั้นตนกำลังทำกับข้าวอยู่ที่ห้องครัว ก็ได้เกิดลมกรรโชกแรง หลังจากนั้นก็มีฝนตามมาต่อด้วยลูกเห็บขนาดเท่าไข่ไก่ ตนและคนที่อยู่ในบ้านก็ได้ช่วยกันปิดประตูและหน้าต่างหมดทุกบาน แต่พายุมาแรงมากจนทำให้หลังคาบ้านปริวออกจากตัวบ้านไปอยู่อีกฝั่งถนน ประตูเหล็กหน้าบ้านก็ถูกพายุพัดเสียหายเช่นกัน รวมถึงข้าวของภายในตัวบ้านด้วย

          ด้านนายสุริยนต์ ทิพย์สมบัติ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148 หมู่ที่ 1 ตำบลกองนาง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ขณะที่เกิดพายุ ตนและหลานสาวนั่งอยู่ม้านั่งที่ห้องรับแขกในตัวบ้านหลบพายุ จู่ๆ ก็มีหลังคาของเพื่อนบ้านปลิวมาตกที่หลังคาบ้านตน ทำให้หลังคาบ้านพังเสียหาย และไม้ระแนงได้หล่นลงมาเฉียดลำตัวจนเป็นแผล ส่วนหลานสาวเศษกระเบื้องหลังคาได้หล่นลงมาใส่ขาได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

       ส่วนที่อำเภอศรีเชียงใหม่ พบว่าพายุฤดูร้อนและลูกเห็บได้พัดถล่มบ้านเรือนประชาชน 7 หมู่บ้าน ที่ตำบลพานพร้าว มีบ้านเรือนพังเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเรือนที่อยู่ติดริมโขง ซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ ต้นโพธิ์ และต้นสักที่ปลูกไว้ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้หักโค่นทับบ้านเรือนประชาชน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต รวมถึงเรือนสองเวียงที่บริเวณแลนมาร์คลานเบิ่งเวียง ถูกพายุถล่มพังเสียหายเช่นกัน  

        โดยทางอำเภอศรีเชียงใหม่ และเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ รนข.เขตหนองคาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจและให้การช่วยเหลือเบื้องต้น และแจ้งเตือนให้ประชาชนเตรียมตัว ในการรับมือกับพายุฤดูร้อน ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศ ให้ตรวจสอบความแข็งแรงมั่นคงของบ้านเรือน และหากเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง อย่าอยู่กลางแจ้ง ให้เข้ามาหลบภายในบ้าน รวมทั้งสัตว์เลี้ยงให้รีบนำเข้าคอก เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกฟ้าผ่า.