สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดหนองคาย จัดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและ มอบปัจจัยการผลิตและเครื่องเวชภัณฑ์กับเกษตรกร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตโคเนื้อ โคขุนหนองคายวากิว

       วันที่ 17 ก.ค. 61 ที่ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย ( ข้างศาลากลางจังหวัด หลังเดิม) อ.เมือง จ.หนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการเกษตรและอุตสาหกรรมที่สำคัญ และ มอบปัจจัยการผลิตและเครื่องเวชภัณฑ์กับเกษตรกร ทั้ง 9 อำเภอ เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการผลิตยังเป็นการเพิ่มคุณภาพของโคและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร

       นายวิบูลย์ เลิศวัฒนาสมบัติ ปศุสัตว์จังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ปัจจุบันจำนวนโคเนื้อในพื้นที่จังหวัดหนองคายมีปริมาณลดลง เนื่องจากความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้นทั้งจากความต้องการของประชาชน นักท่องเที่ยว และความต้องการตลาดต่างประเทศ ในขณะที่การผลิตโคเนื้อของประเทศไม่เพียงพอ โดยเฉพาะการผลิตโคเนื้อต้นน้ำที่ต้องใช้เงินทุนต่อฟาร์มสูง และระยะเวลาคืนทุนใช้เวลานาน ประมาณ 3 ปี ในการให้ตอบแทน ทางจังหวัดหนองคาย จึงได้กำหนดให้การเพิ่มจำนวนแม่โคเนื้อเป็นนโยบายเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อในพื้นที่ จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพการเลี้ยงโค เพื่อสร้างอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อ เพื่อเป็นอาชีพที่สร้างรายได้แก่เกษตรกรอย่างยั่งยืน มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเลี้ยงโคเนื้อในฟาร์มที่มีโรงเรือนขนาดพอดีกับจำนวนโค และปลูกพืชอาหารสัตว์ หรือมีแหล่งพืชอาหารสัตว์เพียงพอกับความต้องการของโคแทนการเลี้ยงแบบปล่อยแทะเล็มหญ้าทั่วไป ซึ่งจะทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากมูลโคอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ และพลังงานทดแทนเกษตรกรรมอื่น พร้อมทั้งเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการประกอบอาชีพสร้างความมั่นคงในอาชีพของเกษตรกร

       นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ยังได้ปัจจัยการผลิตและอุปกรณ์การเลี้ยงโคให้กับเกษตรที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 9 อำเภอ ประกอบด้วย เวชภัณฑ์รักษาโรคสัตว์,วัสดุวิทยาศาสตร์และการแพทย์,วัสดุการเกษตร ได้แก่ ถังหมัก แร่ธาตุก้อน ท่อนหญ้าเนเปียร์ปากช่อง 1และวัสดุก่อสร้าง (สังกะสี) เพื่อนำไปพัฒนาอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโคเนื้อ สร้างรายได้เพิ่ม มั่นคง มั่งคั่ง ยังยื่นต่อไป

ทีมข่าวจังหวัดหนองคาย

คณะทำงานพิจารณา ศึกษา การขออนุญาตขยายจุดผ่อนปรนบ้านหม้อ จ.หนองคาย เดินหน้าประชุมปรึกษา หารือแนวทางการดำเนินงานในการศึกษารายละเอียด ข้อดี ข้อเสีย และประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับ จากการขยายจุดผ่อนปรน เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต

               

       เมื่อวันที่ 16 ก.ค.61 ที่บริเวณจุดผ่อนปรนบ้านหม้อ ตำบลบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย นายรณชัย  จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย มอบหมายให้ นายจิรศักดิ์  ศรีคชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย หัวหน้าคณะทำงานเป็นประธานประชุมคณะทำงานพิจารณา ศึกษา การขออนุญาตขยายจุดผ่อนปรนบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย , พ.อ.สุทธ์พิชญพงษ์  สุธิราวุธ รอง ผอ.รมน.จังหวัดหนองคาย และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม และดูความพร้อมของพื้นที่รองรับการขอขยายจากจุดผ่อนปรนเดิมครอบคลุมไปถึงท่าเรือศรีเชียงใหม่ เฟอร์รี่ จำกัด

       

         

       ตามที่ จังหวัดหนองคาย ได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณา ศึกษา การขออนุญาตขยายจุดผ่อนปรนบ้านหม้อ เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บนพื้นฐานการบูรณาการของข้อมูลที่มีความถูกต้อง ครบถ้วน การจัดประชุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากท่าเทียบเรือศรีเชียงใหม่ เฟอร์รี่ จำกัด อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ได้ยื่นหนังสือถึงด่านศุลกากรหนองคาย เพื่อขอขยายพื้นที่จุดผ่อนปรนบ้านหม้อจากเดิมที่มีพื้นที่ความยาวตามแนวแม่น้ำโขง 55 เมตร ออกไปอีกเป็น 500 เมตร และครอบคลุมถึงท่าเรือศรีเชียงใหม่ เฟอร์รี่ จำกัด เพื่อให้เป็นจุดผ่อนปรนและรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจในอนาคต เนื่องจากจุดผ่อนปรนอื่นๆ จะมีความยาวตามแนวแม่น้ำโขงประมาณ 100 เมตร แต่จุดผ่อนปรนบ้านหม้อมีพื้นที่เพียง 55 เมตร เมื่อปริมาณสินค้าจำนวนมากทำให้เกิดการระบายออกสินค้าไม่ทัน และตกค้าง ซึ่งท่าเรือศรีเชียงใหม่ เฟอร์รี่ จำกัด เป็นท่าเรือเชิงอุตสาหกรรม ซึ่งจะไม่มีสินค้าที่ลงจุดผ่อนปรนเดิมไปลง หรือหากมีสินค้าล้นหรือส่งออกไม่ทัน ก็สามารถขยายไปลงที่ท่าเรือศรีเชียงใหม่ เฟอร์รี่ จำกัด ได้โดยอาศัยมาตรา 5 ทวิ เป็นครั้งคราวไป

        ด้วยเมื่อ ปี 2560 ครม.ได้มีมติ ต้องการให้เปิดจุดผ่อนปรนทางการค้าตามแนวแม่น้ำโขงให้มากขึ้น และยกระดับขึ้นมา เพื่อขายสินค้าหรือส่งออกได้มากขึ้น รองรับการเติบโตของเศรษฐกิจในอนาคต คณะทำงานจึงได้จัดให้มีการประชุมขึ้น เพื่อ ปรึกษา หารือแนวทางการดำเนินงานในการศึกษารายละเอียด ข้อดี ข้อเสีย และประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับ จากการขยายจุดผ่อนปรนดังกล่าว ซึ่งทางคณะทำงานได้ให้ทางอำเภอศรีเชียงใหม่ จัดเวทีประชาคมประชาชนในพื้นที่ แล้วให้คณะทำงานของแต่ละส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนำผลของการทำประชาคมเสนอไปยังจังหวัดหนองคาย พิจารณาและสรุปเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เพื่อที่จะเสนอกระทรวงมหาดไทยพิจารณาดำเนินการต่อไป

ทีมข่าวจังหวัดหนองคาย

ปลานิลพิฆาต บุกหักขามดง่ามพญางู คารัง 4-1

        ศึกหลูกหนัง “NONGKHAI YOUTH CUP 2018” นัดที่ 2 วันทึ่ 14 ก.ค. 2561 เจ้าบ้าน เฝ้าไร่ FC ฉายา "มดง่ามพญางู" เปิดสนามกีฬา อบต.หนองหลวง พบ THABO U-17 ฉายา "ปลานิลพิฆาต" ผลการแข่งขันจบภายใน 90 นาที่ ปรากฏว่า THABO U-17 บุกไปชนะถึงถิ่นเฝ้าไร่ FC 1 ต่อ 4 ประตู เก็บสามแต้มแรกได้สำเร็จ หลังผ่ายจุดโทษต่อ นาคาลูกไฟ "โพนพิสัย FC" คาบ้าน เมื่อวันเสาร์ที่ 7 ก.ค ที่ผ่านมา

       นัดต่อไป "ปลานิลพิฆาต" ยังคงลงใต้ไปเยือน "ลูกแก้วนาคราช" รัตนวาปี FC วันเสาร์ที่ 21 ก.ค เวลา 15.30 น. ที่สนามกีฬาโรงเรียนประชาบดีพิทยาคม

จิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ”...อบต.น้ำโมง พร้อมจิตอาสาตำบลน้ำโมง รวมพลังกำจัดวัชพืชในแหล่งน้ำดิบผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน

       วันนี้ 12 ก.ค. 2561 องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำโมง พร้อมนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองแวง และจิตอาสาตำบลน้ำโมง ร่วมดำเนินโครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” กำจัดวัชพืชหนองเลิงม่วง หมู่ 7 บ้านหนองแวง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบไว้ใช้ผลิตน้ำประปาเพื่ออุปโภค บริโภคแก่ประชาชน

       ส.ต.ท.ชวลิต ชัยวี ปลัด อบต.น้ำโมง กล่าวว่า บริเวณหนองเลิงม่วงแห่งนี้ ทาง อบต.น้ำโมง ได้ทำการขุดลอกเพื่อให้เป็นแหล่งน้ำดิบไว้ใช้ผลิตน้ำประปาให้แก่ประชาชนไว้ใช้อุปโภค บริโภค 2 หมู่บ้าน คือ หมู 7 บ้านหนองแวง และหมู่ 10 บ้านสว่าง ซึ่งปัจจุบันได้มีวัชพืชและผักตบชวาจำนวนมาก ทำให้กีดขวางทางน้ำที่ไหลไปยังท่อสูบน้ำขึ้นไปผลิตน้ำประปาไม่สะดวก วันนี้ทาง อบต.น้ำโมง ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร สามชิก อบต. เจ้าหน้าที่ พนักงาน รวมทั้งกำนัน ผู้ให้บ้าน นักเรียนจากโรงเรียนบ้านหนองแวง และจิตอาสาตำบลน้ำโมง มารวมพลังกันกำจัดวัชพืช ตามโครงการดังกล่าว และยังร่วมกันทำความสะอาด และเก็บขยะรอบบริเวณหนองเลิงม่วง และผักตบชวา อบต.จะนำไปทำปุ๋ยหมัก เพื่อแจกจ่ายให้กบเกษตรในพื้นที่ ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ทุกภาคส่วนร่วมกันแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะแหล่งน้ำ ซึ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตและมีความสำคัญต่อการเกษตร แหล่งน้ำให้สะอาด อันจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและประชาชน