หนองคาย - ชาว ต.น้ำโมง ร้องคนไร้จิตสำนึกลักลอบทิ้งขยะข้างทางริมลำห้วยโมง หวั่นน้ำขยะจะไหลลงลำห้วย ที่เป็นสายน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตของคนในพื้นที่

       วันที่ 17 พ.ค. 62 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ว่า มีกลุ่มคนไร้จิตสำนึกลักลอบนำขยะไปทิ้งตามที่สาธารณะข้างทางริมลำห้วยโมง เกรงว่าขยะอันตรายเหล่านั้น จะปนเปื้อนในดินและน้ำขยะจะไหลแหล่งน้ำที่เปรียบเสมือนสายชีวิตของคนในพื้นที่ ก่อให้อันตรายกับผู้คน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งติดตามจับกุมและแก้ปัญหาในพื้นที่อย่างเร่งด่วน

      จากการลงพื้นที่พบที่บริเวณตั้งแต่หัวสะพานข้ามลำห้วยโมง ระหว่างบ้านน้ำโมง หมู่ 8 ตำบลน้ำโมง กับบ้านสามขา หมู่ 6 ตำบลกองนาง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย พบกองขยะขนาดใหญ่บริเวณฝั่งบ้านน้ำโมง หมู่ 8 หรือคนในพื้นที่เรียกว่าง"ท่าควายน้อย" ที่ถูกพวกมักง่ายไร้จิตสำนึกลักลอบนำไปทิ้งข้างทางริมลำห้วยโมง เส้นทางไปบ้านโคกถ้ำ ขยะบางชิ้นไหลลงไปในน้ำบ้างก็มี ขยะที่ผู้คนนำไปทิ้งมีทั้งขยะธรรมดา ขยะอันตราย เศษกระเบื้อง เศษแก้ว เศษฝ้าเพดาน ที่นอนเก่า ขยะสารเคมี เมื่อถูกน้ำฝนน้ำขยะก็จะลงไปในลำห้วย

      ชาวบ้านที่ผ่านไปมาทนดูไม่ได้ จึงได้แจ้งข่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ชาวบ้านบอกว่าปริมาณขยะจะเพิ่มขึ้นทุกวัน ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาจัดการกับขยะเหล่านี้สักที ที่สำคัญน้ำขยะอันตรายยังไหลลงสู่ลำห้วยโมง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่ชาวบ้านใช้อุปโภคบริโภค หล่อเลี้ยงชีวิตเป็นประจำอีกด้วย

หนองคาย - นายกตำบลพระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ นำคณะกรรมการชุมชน ศึกษาดูงานตามแนวพระริตามหลักปรัชญาเศรษฐพอเพียง ณ บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

      ที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง บ้านทุ่ม หมู่ 3 ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์ หรือครูแดงบ้านศิลป์ไทย ประธานชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย จังหวัดหนองคาย ได้ให้การต้อนรับนายยงยุทธ พึ่งชื่น นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเทศบาล พนักงานเทศบาล ในโอกาสนำคณะกรรมการชุมชน ผู้นำชุมชน เดินทางศึกษาดูงานตามแนวพระราชดำริตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เรื่องเกษตรผสมผสาน ตามโครงการอบรมและศึกษาษาดูงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่คณะกรรมการชุมชน

        นายยงยุทธ พึ่งชื่น นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์ กล่าวว่า เทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์ เล็งเห็นถึงความสำคัญเพื่อน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งครอบครัว สังคม ตลอดจนหน่วยงานของรัฐ ควรตระหนักถึงความสำคัญของแนวทางการพัฒนาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนบนพื้นฐานของการพึ่งตนเอง ความพอมีพอกิน พอมีพอใช้ การรู้จักความพอประมาณ การคำนึงถึงความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนมีคุณธรรมเป็นกรอบในการดำรงชีวิต จึงได้จัดโครงการฝึกอบรมและศึกษาดูงานแก่คณะกรรมการชุมชน หัวหน้าฝ่ายและประชาชนที่ปฏิบัติงานในฝ่ายต่างๆ ของคณะกรรมการชุมชนในชุมชนต่างๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพชุมชน ท้องถิ่น โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมศึกษาดูงาน ได้นำความรู้หรือประสบการณ์ที่ได้รับนำกลับมาใช้เป็นแนวทางเสริมสร้างความรัก ความสามัคคี ความร่วมมือในทุกภาคส่วนของชุมชน เกิดจิตสำนึกในการพัฒนาและสร้างรายได้ให้เกิดความเข้มแข็งแก่ชุมชน นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตต่อไป โดยมีผู้เดินทางมาศึกษาดูงานครั้งนี้จำนวน 90 คน

      สำหรับบ้านทุ่งศิลป์ครูแดง เป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมของชุมชน เป็นแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น แหล่งเกษตรกรรมผสมผสานตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ ซึ่งนำไปสู่การอนุรักษ์ สืบสาน ถ่ายทอด และการนำทุนทางวัฒนธรรมของชุมชนมาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ บนรากฐานของวัฒนธรรมชุมชน ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

กศน.อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ดำเนินโครงการ "สร้างป่าสร้างรายได้" ตามแนวพระราชดำริกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

     วันที่ 14 พ.ค. 62 ที่บ้านดอนก่อ หมู่ 3 ตำบลหนองปลาปาก อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย นายวรรณพล ต่อพล นายอำเภอศรีเชียงใหม่ ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ "สร้างป่าสร้างรายได้" ตามแนวพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  โดย กศน.อำเภอศรีเชียงใหม่ ดำเนินโครงการขึ้น เพื่อสร้างจิตสำนึกในการปลูกป่าและดูแลต้นไม้ที่ปลูกในพื้นที่ป่าชุมชน ตลอดจนสร้างกระบวนการเรียนรู้ในชุมชน ให้เกิดเป็นชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีการสร้างรายได้ ลดรายจ่ายในครัวเรือน

      นางชลธิชา โคตรชมภู ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอศรีเชียงใหม่ กล่าวว่า ตามที่ กศน.อำเภอศรีเชียงใหม่ ได้รับมอบหมายจากสำนักงาน กศน.จังหวัดหนองคาย ให้ดำเนินโครงการ "สร้างป่าสร้างรายได้" ตามแนวพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อสร้างรายได้ ส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกไม้ป่าควบไม้เศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูป่าไม้ ขณะที่ชาวบ้านยังได้อาศัยทำกินอยู่ร่วมกับป่าได้ โดยมีรายได้เสริมจากการปลูกพืชเศรษฐกิจโดยไม่ทำลายป่าไม้  อีกทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกด้วยกระบวนการให้ประชาชนร่วมกันฟื้นฟูป่าที่อยู่อาศัยหรือที่ทำกิน เพื่อประโยชน์ของชุมชน การดำเนินโครงการครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนกล้าไม้จากหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นค.1 สังคม ตลอดจนยานพาหนะในการขนกล้าไม้จากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ  ทหาร ตำรวจ ผู้นำท้องที่/ท้องถิ่น ครูกศน. นักศึกษาและประชาชนจิตอาสาร่วมโครงการ

ศุลกากรหนองคายรวบหนุ่มลาวลักลอบขนน้ำมันกัญชา ถูกรวบตัวทันขณะทำพิธีการผ่านแดน สารภาพมีผู้ป่วยมะเร็งจ้างให้ไปรับที่ฝั่งลาว

      วันที่ 11 พ.ค. 62  เวลา 17.30 น.ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ฝั่งขาเข้า อำเภอเมืองหนองคาย นายนิมิต แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย นายสมบัติ ค้อนทอง หัวหน้าฝ่ายปราบปรามศุลกากรหนองคาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้แถลงข่าวการจับกุม นายพรพิลม วิชิด อายุ 45 ปี ชาวลาว พร้อมของกลางน้ำมันกัญชา ยี่ห้อ “เมจิกเลิฟ”  จำนวน 65 กล่อง/ขวด ๆ ละ 30 มล.  มูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท  เจ้าหน้าที่สามารถรวบตัวได้ขณะที่นายพรพิลมฯ  ลงจากรถโดยสารพร้อมกับหิ้วกล่องกระดาษ ท่าทางมีพิรุธ จึงได้ขอแสดงตัวตรวจค้นพบเป็นน้ำมันกัญชา ซึ่งภายในกล่องบรรจุกระดาษระบุสรรพคุณรักษาโรค และวิธีการใช้ เป็นภาษาไทย

     จากการสอบถามนายพรพิมลฯ ทราบว่า ได้รับจ้างจากเพื่อนชาวลาว  5,000 บาท  เพื่อไปรับน้ำมันกัญชาดังกล่าวจากลาว แล้วน้ำไปส่งที่จังหวัดอุดรธานี ทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งน้ำมันกัญชาผลิตที่ สปป.ลาวราคาขวดละ 2,000 บาท จะซื้อขายในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งทั้งชาวลาวและชาวไทยที่เชื่อว่าสามารถรักษาโรคมะเร็งได้  ส่วนน้ำมันกัญชาที่ลาวก็ห้ามซื้อขาย แต่ก็จะมีการลักลอบซื้อขายในกลุ่มผู้ป่วยเพื่อนำไปรักษา 

      นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า การจับกุมน้ำมันกัญชาครั้งนี้ เป็นครั้งแรก  จากการสอบถามผู้ต้องหาราคา 2 พันบาท แต่เชื่อว่า ราคาไม่ต่ำกว่า 3 พันบาท เป็นความผิด พรบ.ยาเสพติด น้ำมันกัญชาไม่ว่าจะมีสรรพคุณดีหรือไม่ดีอย่างไร ต้องผ่านขบวนการวิชาการ ประเทศไทยต้องรับรองการผลิต ไม่มีหลักฐานการรับรองจาก อย. ผู้บริโภคจะเชื่อได้อย่างไร   ถ้าจะมีการซื้อขายหรือใช้รักษาโรค ต้องผ่านขบวนการรับรองจากไทย ที่รัฐบาลไทย หรือกม.ไทยรับรองเท่านั้น  กรณีนี้นำเข้าไม่ได้เด็ดขาด
เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สาวใหญ่ซุกทองคำแท่งในชุดชั้นใน หนีไม่พ้นสายตาเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรนองคาย รวบตัวได้ทันพร้อมทองคำแท่ง น้ำหนัก 7.18 กก. มูลค่าประมาณ 7 ล้านบาท

      วันที่ 11 พ.ค. 62  ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ฝั่งขาเข้า อำเภอเมืองหนองคาย นายนิมิต แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้แถลงข่าวการจับกุมนางสมจิต จันตะนี  อายุ 57 ปี  ชาวไทย อยู่บ้านหาดคำ อำเภอเมืองหนองคาย  และของกลางทองคำแท่ง  99.99% จำนวน  6 แท่ง น้ำหนักแท่งละประมาณ   1.00 - 1..25 kg.  รวมน้ำหนักทั้งหมด 7.18 kg. มูลค่าประมาณ 7ล้านบาท 

      นายนิมิต แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย  กล่าวว่า จากงานการข่าวสืบทราบว่า จะมีขบวนการลักลอบนำเข้ายาเสพติด ทองคำแท่งและเงินเข้าออก  จึงได้มีการตรวจเข้มบุคคลเข้าออก ซึ่งจากการตรวจค้นนางสมจิตร ฯ มีท่าทางพิรุธ พบว่า ได้ซุกซ่อนทองคำแท่งมาในกระเป๋าข้างเสื้อชั้นในด้านละ 2 แท่ง รวม 4 แท่ง และ ซุกตรงอวัยวะเพศด้านนอก อีก 2 แท่ง ผลการพิสูจน์  เป็นทองคำบริสุทธิ์ 99.99%  คาดว่า ทองคำแท่งจะส่งไปยังพ่อค้าที่กรุงเทพฯ โดยเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลต่อไป จากการสอบสวนนางสมจิตฯ เบื้องต้น สารภาพว่า ลักลอบขนเป็นครั้งแรก

      เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 242 ลักลอบนำสิ่งของเข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร ซึ่งไม่มีโทษปรับแต่ต้องถูกยึดทองคำ โดยเจ้าของยินยอมให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรยึดตามกระบวนการถือเป็นสิ้นสุดคดี