วันอังคารที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2566

คนบ้านเดียวกันจ้าง!!..นรข.สังคม - ทหารพราน รวบสองหนุ่มชาวผาตั้งเสพยานรกเต็มคาราเบล ก่อนรับจ้างขนยาบ้ากว่า 2.34 แสนเม็ดริมฝั่งโขง

จนท.สถานีเรือสังคม นรข.เขตหนองคาย สนธิกำลังทหารพรานและหน่วยงานความมั่นคง ซุ่มจับสองหนุ่มเสพยานรกเต็มคาราเบล ก่อนชวนกันมาขนยาบ้ากว่า 234,000 เม็ดริมแม่น้ำโขง สารภาพรับจ้างจากเพื่อนชาวผาตั้งด้วยกัน คนละ 5,000 บาท


เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2566 เวลา 13.00 น. ที่ สถานีเรือสังคม อ.สังคม จ.หนองคาย น.อ.จิรัฏฐ์ ผูกทอง ผบ.นรข.เขตหนองคาย, ร.อ.ไพรสน พลเสน หน.สน.เรือสังคม นรข.เขตหนองคาย, ร.ท.พิชิตพล เคนดา ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2110 ฉก.ทพ.21 พร้อมหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายสิทธิกร คำสุดที อายุ 28 ปี  และนายณัฐวุฒิ ชื่นตา อายุ 25 ปี ทั้ง 2 คนเป็น ราษฎร ต.ผาตั้ง หมู่ 1 อ.สังคม จ.หนองคาย พร้อมยาบ้า จำนวนกว่า 234,000 เม็ด ได้ที่บริเวณสวนเกษตรริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านผาตั้ง หมู่ 1 ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ภายใต้การอำนวยการของ พล.ร.ต.นรินทร์ ขาวเจริญ ผบ.นรข.,น.อ.จิรัฏฐ์  ผูกทอง ผบ.นรข.เขตหนองคาย, พ.อ.สุริวัชร์ อัครพรเดชาพงษ์  ผบ.ฉก.ทพ.21

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ต.ค.66 เวลา ประมาณ 17.00 น. ร.อ.ไพรสน พลเสน หน.สน.เรือสังคม ได้รับแจ้งจาสายลับว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านข้ามมายังฝั่งไทย บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ต.ผาตั้ง อ.สังคม จว.หนองคาย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงได้วางแผนกับ ร้อย.ฉก.ทพ.2110 และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จัดเจ้าหน้าที่จำนวน 2 ชุด ชุ่มเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณพื้นที่ดังกล่าว กระทั่งเวลาประมาณ 02.50 น. จนท.ได้สังเกตเห็นเรือกีบ จำนวน 1 ลำ ขับแล่นข้ามแม่น้ำโขงมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน มีผู้โดยสารเป็นผู้ชายนั่งมากับเรือ 2 คน มีวัตถุสีดำวางบริเวณหัวเรือโดยขับมุ่งหน้าเข้ามายังฝั่งไทยตรงใกล้กับจุดที่ จนท.ชุ่มอยู่ เมื่อเรือเทียบฝั่งชายที่โดยสารมากับเรือได้นำวัตถุบริเวณหัวเรือวางไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง


จากนั้นไม่นานได้มีชาย 3 คน เดินลงไปบริเวณที่วางวัตถุสีดำนั้น ซึ่งชายคนหนึ่งได้ขึ้นเรือไปและเรือก็ขับแล่นกลับไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอย่างรวดเร็ว ส่วนอีก 2 คน ช่วยกันนำวัตถุนั้นแบกขึ้นมาบนฝั่ง  จนท.จึงแสดงตัวเข้าจับกุม เมื่อทั้ง 2 คนเห็น จนท. จึงทิ้งของกลางและวิ่งหนีไปหลบอยู่บริเวณใกล้ๆ จนท.ทพ.ที่ชุ่มอยู่ จึงได้จับกุมตัวชายคนหนึ่งมา ทราบชื่อภายหลังคือ นายณัฐวุฒิชื่นตา อายุ 25 ปี และเจ้าหน้าที่ นรข.ได้จับตัวชายอีกคนหนึ่งได้ ทราบชื่อภายหลังคือ นายสิทธิกร คำสุดที่ อายุ 28 ปี จึงนำตัวมาที่บริเวณที่ทิ้งของกลางไว้ แล้วได้ทำการตรวจสอบของกลางเป็นกระสอบสีฟ้า มีตัวอักษร 1 เขียนที่กระสอบ ตรวจสอบภายในพบเป็นยาบ้าบรรจุอยู่เต็มกระสอบ จึงได้นำของกลางทั้งหมดมาตรวจสอบโดยละเอียดที่ สน.เรือสังคม ผลการตรวจสอบอย่างละเอียดพบเป็นยาบ้า จำนวน 50 ก้อน บรรจุอยู่ในกระสอบสีฟ้า จำนวน 1 ใบ รวมจำนวนประมาณ 234,000 เม็ด

จากการสอบสวนนายสิทธิกรฯ และนายณัฐวุฒิฯ ให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากนายธานินทร์ บัวพล อายุ 24 ปี ชาวบ้านผาตั้ง หมู่ 1 ต.ผาตั้ง อ.สังคม จว.หนองคาย เป็นจำนวนเงินคนละ 5,000 บาท ให้ไปช่วยนำของขึ้นมาจากริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยนายสิทธิกรฯ ได้ให้การว่าตนเดินทางมาถึงบ้านของนายธานินทร์ฯ เมื่อเวลา 19.00 น. โดยที่นายธานินทร์ฯ ไม่อยู่ที่บ้านจึงได้พักผ่อนรอในบ้าน ส่วนนายณัฐวุฒิฯ ได้ให้การว่าตนเดินทางมาถึงบ้านของนายธานินทร์ 22.30 น. เมื่อนายธานินทร์ฯเดินทางมาถึงบ้านของตนที่ทั้งสองคนรออยู่ จึงได้ร่วมกันเสพยาบ้าจนถึงเวลา 24.00 น. นายธานินทร์ฯ จึงได้ชักชวนนายณัฐวุฒิฯ ให้ขับรถจักรยานยนต์คนละคันเพื่อออกไปรับชาว สปป.ลาว ที่บริเวณก่อนถึงบ้านด่านศรีสุขและกลับมาถึงบ้านในเวลา 01.00  น. จึงได้ร่วมกันเสพยาบ้าต่อเพื่อรอเวลาที่ต้องไปขนของตามที่นายธานินทร์ฯได้ว่าจ้าง ในเวลาประมาณ 02.45 น.พวกตนทั้ง 4 คน จึงได้ดำเนินการตามที่ตกลงกัน โดยนายธานินทร์ฯ เป็นผู้ยืนดูต้นทางบริเวณริมถนน ส่วนอีก 3 คน ได้เดินลงไปยังริมฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณที่เรือมาเทียบฝั่งเพื่อทำการขนสิ่งของที่ได้รับการว่าจ้างให้ขน และส่งชายชาว สปป.ลาว ขึ้นเรือลำดังกล่าวกลับไปด้วย หลังจากนั้นพวกตนทั้งสองจึงช่วยกันขนสิ่งของที่ได้รับการว่าจ้างนั้นขึ้นจากริมตสิ่งแม่น้ำโขง เพื่อนำไปส่งมอบให้แก่นายธานินทร์ฯ ระหว่างที่ขนนั้นก็ถูกเจ้าหน้าทีแสดงตัวเข้าจับกุม เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่พวกตนรวมทั้งนายธานินทร์ฯ จึงได้ทำการทิ้งของกลางและวิ่งหนี โดยสุดท้ายนายณัฐวุฒิฯ ถูก จนท.ทพ.จับกุมตัวได้ที่ป่ากล้วย และนายสิทธิกรฯ ถูก จนท.นรข.จับกุมตัวได้บริเวณริมถนน ส่วนนายธานินทร์ฯ หลบหนีไปได้  จนท.จึงได้ทำบันทึกการจับกุมและผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งให้ สภ.สังคม ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนเพื่อขยายผลและติดตามผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 




 

วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2566

วช.ลงพื้นที่หนองคาย ตรวจเยี่ยมการใช้งานวิจัยเพื่อท้องถิ่น มุ่งพัฒนาศักยภาพเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนระดับตำบล

วช. และคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้าโครงการวิจัยภายใต้โครงการ "การบริหารจัดการงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก (CBR) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปี 2566"


วันที่ 16 ต.ค. 2566 เวลา 15.30 น. สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย ดร.วิภารัตน์ ดีฮ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มอบหมายให้ นางสาวสุภาพรรณ โทขัน ผู้อำนวยการกลุ่มงานพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก วช. นำเจ้าหน้าทึ่ วช. และคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย  เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้าโครงการวิจัยภายใต้โครงการ "การบริหารจัดการงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก (CBR) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปี 2566" ณ ดอนป่าเปือยบ้านหม้อ หมู่ 7 ต.บ้านหม้อ อ. ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย โดยมี นายสนอง เข็มพรหมมา ประธานคณะกรรมการจิตอาสาพัฒนาดอนป่าเปือย พร้อมคณะกรรมการฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับพร้อมบอกเล่าประวัติบ้านหมัอและวิถึชีวิตชาวบ้าน ทั้งวิถึท่องเที่ยวเชิงนิเวศทางธรรมชาติและวัฒนธรรม วิถีธรรม วิถีพวน และพาเดินเยี่ยมชมสถานที่




ทั้งนี้ศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดหนองคาย ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัย จาก วช. ในการดำเนินโครงการวิจัยในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ตั้งแต่ปี 2557 - 2564 แบ่งเป็นจำนวน 7 ชุดวิจัย รวมกว่า 28 โครงการ เริ่มมีการศึกษาวิจัยประเด็นการท่องเที่ยวโดยชุมชน เมื่อปี 2560 และดำเนินการวิจัยเรื่องการท่องเที่ยวครบทุกพื้นที่โครงการในปี 2561



โดยปัจจุบันมีพื้นที่เป้าหมายการวิจัย 4 เครือข่าย ได้แก่ 1.เครือข่ายตำบลบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย , 2. เครือข่ายตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย , 3. เครือข่ายตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย และ 4. เครื่อข่ายตำบลนางิ้ว อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ซึ่งมีผู้ประกอบการท้องถิ่นจากหลากหลายสาขาอาชีพเข้าร่วมโครงการฯ อาทิ ผู้นำชุมชนจิตอาสาพิทักษ์ป่า กลุ่มสวนผลไม้ กลุ่มผ้าทอมือ กลุ่มบริการรถนำเที่ยว กลุ่มเรือโดยสาร กลุ่มที่พัก ร้านอาหาร รวมแล้วกว่า 272 คน



โดยโครงการ "การพัฒนาศักยภาพเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนระดับตำบล จังหวัดหนองคาย สู่การเป็นผู้ประกอบการทางสังคม" มุ่งเป้าพัฒนาภายในตำบลตนเองให้เข้มแข็ง โดยใช้กระบวนการวิจัยเพื่อท้องถิ่น (CBR) ที่ว่า "การเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือ การลงมือด้วยตนเอง" การมีส่วนร่วมของนักวิจัยในชุมชนจึงเป็นการสร้างความรู้ทักษะและนำไปพัฒนาการจัดการท่องเที่ยวในพื้นที่ตำบลตนเองให้มีการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป













รวบคาด่านมิตรภาพ!..ศุลกากรหนองคาย รวบสองหนุ่มรับจ้างขนยาบ้าเกือบ 6 หมื่นเม็ด ซุกเครื่องฟอกอากาศจากลาวเข้าไทย

จนท.ศุลกากรหนองคาย รวบสองหนุ่มรับจ้าง 1,500 บาท ขนยาบ้าเกือบ 6 หมื่นเม็ด ซุกเครื่องฟอกอากาศข้ามสะพานมิตรภาพจากลาวเข้าไทย อ้างไม่ทราบว่าข้างในเป็นยาบ้า 


เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2566 เวลา 20.00น.  ที่ ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 หนองคาย (ขาเข้า) นายพัฒนพงศ์  ตันติวัฒกุลชัย หัวหน้าฝ่ายบริการศุลกากร 1 ส่วนบริการศุลกากรที่ 1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย, ตชด.245หนองคาย , เจ้าหน้าที่ ปปส. ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดที่ซุกซ้อนมาในเครื่องฟอกอากาศ ตามนโยบายของอธิบดีกรมศุลกากร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศุลกากร เข้มงวดในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งสามารถจับกุมตัวนายชนกันต์ พรมสวัสดิ์ และนายสมัย วารินอินทร์ ขณะนำเครื่องกรองอากาศ ผ่านด่านตรวจ เข้ามาในประเทศไทย ซึ่งสามารถตรวจสอบโดยละเอียด พบว่าภายในเป็น ยาบ้า จำนวนประมาณ 58,000 เม็ด จึงควบคุมตัวมาสอบสอบสวน




จากการสอบสวนทั้งสองคนสารภาพว่า พวกตนเป็นคนขับรถรับจ้าง ว่าได้ข้ามไปยัง ประเทศเพื่อนบ้าน(สปป.ลาว) มีคนลาว ฝากของมาส่งให้คนไทย ที่ จ.อุดรธานี  โดยได้ค่าจ้าง 1,500 บาท จึงนำข้ามมา พอมาถึงด่านตรวจ ทางเจ้าหน้าที่ศุลกากร ได้ทำการตรวจค้น พบเครื่องฟอกอากาศอยู่ข้างคนนั่งเบาะหลัง พอยกขึ้นมีน้ำหนักมากกว่าปกติ จึงได้ นำเครื่องฟอกอากาศ เข้าเครื่องเอ๊กซ์เรย์ พบว่า มีของเป็นก้อนๆ จึงตรวจอย่างละเอียดและพบว่าภายในเป็นยาเสพติดยาบ้าจำนวนประมาณ 58,000 เม็ด โดยทั้งสองคนอ้างว่า ไม่ทราบว่าในเครืองฟอกอากาศจะมียาบ้าติดมาด้วย  จนท.จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคายให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนเพื่อขยายผลและติดตามผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.






วันอังคารที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ทต.โพนสา จัดแถลงข่าวการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานฯ ครั้งที่ 13 ปีนี้เน้นฝีพายภายในท้องถิ่นจังหวัดหนองคาย

เทศบาลตำบลโพนสา จัดแถลงข่าวการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 16-20 ตุลาคม 2566 ปีนี้เน้นฝีพายภายในท้องถิ่นจังหวัดหนองคาย มีทีมเรือเข้าร่วมชิงเจ้าสายน้ำแล้ว 8 ทีม


วันที่ 10 ต.ค. 2566 เวลา 10.00 น. ที่ ห้องประชุมเทศบาลตำบลโพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ว่าที่ร้อยตรีวิทยา คำพวง นายกเทศบาลตรีตำบลโพนสา พร้อมคณะผู้บริหารเทศบาลฯ ร่วมกันแถลงข่าวโครงการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 13 ประจำปี 2566 โดยมีสมาชิกสภาเทศบาลฯ  กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน  ประชาชน และผู้จัดการทีมเรือร่วมแถลงข่าว




ว่าที่ร้อยตรีวิทยา คำพวง นายกเทศบาลตรีตำบลโพนสา กล่าวว่า การแข่งขันเรือยาว ถือเป็นประเพณีพื้นบ้านอีกอย่างหนึ่งที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขงปฏิบัติสืบทอดกันมา มักจะจัดขึ้นในช่วงเริ่มเข้าพรรษาไปจนถึงวันออกพรรษา กลางเดือน 11 เนื่องจากเป็นฤดูที่มีน้ำมาก  นอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตที่มีความผูกพันกับผืนน้ำของผู้คนแล้ว ยังเป็นการบ่งบอกถึงความสมัครสมานสามัคคีของการทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ความพร้อมเพียงของคนในชุมชน ชาวบ้านโพนสาได้มีการจัดการแข่งขันเรือยาวมาเป็นเวลายาวนาน จนกลายเป็นประเพณีแข่งขันเรือยาวของชาวบ้านโพนสา ที่ได้ปฏิบัติและอนุรักษ์สืบทอดกันมา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 เป็นต้นมา  และเมื่อปี พ.ศ. 2549 เทศบาลตำบลโพนสาได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าพระราชทานถ้วยรางวัลสำหรับทีมเรือที่ชนะการแข่งขันเป็นครั้งแรก



นายกเทศบาลตรีตำบลโพนสา กล่าวอีกว่า โครงการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัฒนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในครั้งนี้ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 13 ในระหว่างวันที่ 16 - 20 ตุลาคม 2566 ณ บริเวณริมแม่น้ำโขง หลังเทศบาลตำบลโพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเพื่ออนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีอันตีงามของท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดหนองคาย ซึ่งเชื่อว่าโครงการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานฯ ของเทศบาลตำบลโพนสา จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งภายในจังหวัดหนองคาย และนักท่องเที่ยวต่างจังหวัด ให้มาเที่ยวชมและสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น และประชาชนในจังหวัดหนองคาย ต่อไป



โดยวันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เริ่มทำการแข่งขันเรือยาวใหญ่ ประเภททั่วไป 50-55 ฝีพาย ซึ่งปีนี้จัดแข่งเฉพาะฝีพายภายในจังหวัดหนองคาย ซึ่งมีทีมเรือสมัครเข้าร่วมการแข่งขันแล้ว 8 ทีม โดยในวันแข่งขันจะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันเพื่อให้ประชาชนทางบ้านและต่างจังหวัดได้รับชม ทาง TLB "ไทยลองโบท" พร้อมชมการมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะทุกลำดับ ซึ่งตลอดระยะเวลาการจัดงานยังมีกิจกรรมถนนอาหาร กับอาหารอร่อย ของดีของเด็ด สินค้าราคาถูก ผลิตภัณฑ์ OTOP สินค้าชุมชนขนมาตั้งร้านกัน เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ และสินค้าอุปโภค-บริโภคราคาถูก อาหารสะอาดรสชาติอร่อย ช่วยลดค่าครองชีพ สร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน สร้างช่องทางการตลาดแก่ผู้ประกอบการ และช่องทางการขายสำหรับผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย เพิ่มตัวเลือกให้กับผู้บริโภคและสนับสนุนผู้ค้ารายย่อย ระหว่างวันที่ 16 - 20 ตุลาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. - 24.00 น. พร้อมสำผัสริมฝั่งแม่น้ำโขง ชมการแสดงสมโภชน์ถ้วยพระราชทานฯ การแสดงของชุมชน และการแสดงวงดนตรีศิลปินนักร้องทุกค่ำคืน






จ.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา" เฉลิมพระเกียรติฯ

สนง.พช.หนองคาย ขับเคลื่อนการตำเนินงานโครงการขยายผลการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุต์สู่ "โคก หนอง นา...