ชาวบ้านดอนขม จ.หนองคาย สืบสานประเพณีตามฮีต 12 คอง 14 ทำบุญเลี้ยงบ้านและประเพณีบุญบั้งไฟ ประจำปี 2561 (มีคลิป)

หนองคาย – ชาวบ้านดอนขม ตำบลบ้านเดื่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย สืบสานประเพณีตามฮีต 12 คอง 14 ทำบุญเลี้ยงบ้านและประเพณีบุญบั้งไฟ ประจำปี 2561 เป็นความเชื่อของชาวบ้านก่อนเริ่มทำนา เพื่อให้บังเกิดความอุดมสมบูรณ์ และเป็นการรำลึกถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ให้ความคุ้มครองดูแลรักษาบ้านให้ปลอดภัย ร่มเย็น

       วันนี้ (5 พ.ค. 2561) ที่บ้านดอนขม หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านเดื่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายสัมพันธ์ บุญจำนงค์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ้านดอนขม พร้อมชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันสืบสานประเพณีตามฮีต 12 คอง 14 ทำบุญเลี้ยงบ้านและประเพณีบุญบั้งไฟ ประจำปี 2561 ตามประเพณีที่ทำสืบต่อๆกันมา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชาวบ้านในหมู่บ้าน โดยมี นายศรัญญู จันทะวงศ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดงาน  โดยก่อนเข้าสู่พิธีเปิด ได้มีจ้ำนำขบวนนางเทียมแห่บั้งไฟเสี่ยงไปที่ศาลปู่ตา สำหรับจุดเสี่ยงทายว่า ฝนฟ้าจะดีหรือไม่ดี ต่อด้วยขบวนบั้งไฟสวยงาม ขบวนฟ้อนรำ ขบวนเรื่องเล่าสืบสานตำนานบุญบั้งไฟต่างๆ เป็นต้น มีประชาชนสนใจมาร่วมงานกันจำนวนมาก

       นายสัมพันธ์ บุญจำนงค์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ้านดอนขม กล่าวว่า ประเพณีดังกล่าวชาวบ้านดอนขมได้ร่วมกันจัดขึ้นทุกๆ ปี เพื่อส่งเสริมฟื้นฟูอนุรักษ์ไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีของประชาชนในหมู่บ้าน ตามฮีต 12 คอง 14  เกิดความสนุกสนาน ความสามัคคีร่วมมือร่วมใจกันของประชาชน และส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประเพณีท้องถิ่น

       สำหรับการทำบุญเลี้ยงบ้าน ชาวบ้านเชื่อในผีบรรพบุรุษของหมู่บ้าน เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ความคุ้มครองดูแลรักษาบ้านให้ปลอดภัย ร่มเย็น หากไม่เลี้ยงบ้านจะเกิดภัยพิบัติ เป็นความเชื่อของชาวบ้านก่อนเริ่มทำนา เพื่อให้บังเกิดความอุดมสมบูรณ์ และเป็นการรำลึกถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว  การจุดบั้งไฟเสี่ยง ถ้าบั้งไฟขึ้นแสดงว่าฝนดี บั้งไฟเสี่ยงไม่ขึ้นแสดงว่าฝนจะแล้ง ข้าวปลา อาหารไม่บริบูรณ์ นางเทียมจะฟ้อนไปทำนายไประยะหนึ่งก็หยุด ปู่ตาออกจากร่างนางเทียมก็เสร็จพิธีเสี่ยง ถือเป็นขวัญและกำลังใจให้เกษตรกรก่อนจะเริ่มฤดูกาลเพาะปลูกต่อไป.

คนไทยไม่ทิ้งกัน!...มอบถุงยังชีพบรรเทาทุกข์และสังกะสีผู้ประสบวาตภัยในตำบลกอง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย 220 ครัวเรือน (มีคลิป)

หนองคาย – คนไทยไม่ทิ้งกัน!...กองทุนกู้ภัยประจักษ์จังหวัดหนองคาย ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน นำถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภค และสังกะสีไปมอบช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบวาตภัย  พายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนในตำบลกองนาง อ.ท่าบ่อ 220 ครัวเรือน

       ตามที่อำเภอบางท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ได้เกิดฝนฟ้าคะนอง ลมกรรโชกแรง และมีลูกเห็บพัดบ้านเรือนราษฎรพังเสียหาย 3 ตำบล เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะตำบลกองนางได้รับผลกระทบมากที่สุด 7 หมู่บ้าน มีทั้งหลังคาปลิวออกจากตัวบ้านและลูกเห็บตกใส่หลังคาจนเป็นรูมองเห็นแสงจากท้องฟ้า หลังคาสังกะสีได้รับความเสียหายจำนวนหลายหลังคาเรือน โครงสร้างหลังคาบางส่วนได้รับความเสียหายด้วย

       ล่าสุดวันนี้ (5 พ.ค. 2561) ที่ศาลาประชาคม หมู่ที่ 11 บ้านกองนาง ตำบลกองนาง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย กองทุนกู้ภัยประจักษ์จังหวัดหนองคาย โดย นายอภิสิทธิ์ วงศรีแก้ว ประธานกองทุนฯ ร่วมกับ ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ, ฝ่ายปกครองอำเภอท่าบ่อ, บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หนองคาย, เทศโก้โลตัส สาขาท่าบ่อ, กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พ่อค้า ประชาชนผู้มีจิตศรัทธา และอาสากู้ภัยประจักษ์หนองคาย ร่วมกันนำถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภค และสังกะสีไปมอบช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบวาตภัย จำนวน 220 ครัวเรือน โดยมี พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ พูลอำไภย์ รอง ผกก.ป.สภ.ท่าบ่อ เป็นประธานในพิธี

      นายอภิสิทธิ์ วงศรีแก้ว ประธานกองทุนกู้ภัยประจักษ์จังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จากเหตุพายุฤดูร้อนและลูกเห็บถล่มในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะตำบลกองนางมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวน 7 หมู่บ้าน สมาคมหนองคายการกุศล กู้ภัยประจักษ์จังหวัดหนองคาย โดยกองทุนกู้ภัยประจักษ์ฯ ได้ร่วมกับห้างเทศโก้โลตัส สาขาท่าบ่อ เป็นสื่อกลางในการประสานงานเพื่อหาทุนทรัพย์ สิ่งของ ข้าวสาร อาหารแห้ง และอุปกรณ์ในการซ่อมแซมบ้าน และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหลายๆ ภาคส่วน  ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้มีจิตศรัทธาที่มองเห็นความลำบากของพี่น้องชาวไทยด้วยกัน ดั่งคำกล่าวที่ว่า “คนไทยไม่ทิ้งกัน” ในยามที่ได้รับความเดือดร้อนก็จะได้รับการช่วยเหลือซึ่งกันและกันมาโดยตลอด เหมือนดั่งวันนี้ที่ทางเราได้รวบรวมสิ่งของต่างๆ ข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อมามอบให้กับพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ตำบลกองนาง ถึงจะมีจำนวนไม่มากสักเท่าไหร่ ก็พอได้ช่วยพี่น้องประชาชนบรรเทาทุกข์ได้ และเป็นขวัญกำลังใจจากผู้ที่มาร่วมมอบในครั้งนี้

นรข.เขตหนองคาย ตรวจยึดยาบ้า 1,990 เม็ด

หนองคาย - นรข.เขตหนองคาย สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 1,990 เม็ด หลังเจ้าของยาบ้าเห็นเจ้าหน้าที่ตกใจโยนทิ้งข้างทาง แล้วบิดเร่งเครื่องยนต์ขับหลบหนีไปได้หวุดหวิด

          

       วันนี้ (4 พ.ค. 2561)  ที่หน่วยเรือโพนพิสัย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขหนองคาย น.ต.การันต์  มินวงษ์ หัวหน้าหน่วยเรือโพนพิสัย, กกล.รส.จังหวัดหนองคาย, พ.ต.ท.อดุลย์ ศรีทอง รอง ผกก.สส.สภ.โพนพิสัย, พ.ต.ท.สุรกิจ  ค้วนเครือ, ฝ่ายปกครองอำเภอโพนพิสัย  ร.ต.ต.ปกรณ์ จันทวงษ์ศรี ผบ.มว.ฉก.ตชด.2455, ร.ต.ท.พินัย เกลี้ยงไธสง, ร.ต.อ.ยงยุทธ พิสัยพันธ์ และเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้า จำนวน1,990 เม็ด ได้ที่บริเวณริมถนนสายหนองคาย-โพนพิสัย (212) ติดกับห้วยลิงโลด บ้านสวยเสด็จ หมู่ที่ 14 ตำบลวัดหลวง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ภายใต้การอำนวยการของ พล.ร.ต.พิสิษฐ์ ทองดีเลิศ ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง ,นาวาเอกนิยม พึ่งโต ผบ.นรข.เขตหนองคาย

               

       การตรวจยึดยาบ้าครั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ  06.30 น.  วันนี้ (4 พ.ค.)  น.ต.การันต์ มินวงษ์ หัวหน้าหน่วยเรือโพนพิสัย ได้รับแจ้งจากสายข่าว ว่าจะมีการลักลอบส่งมอบยาบ้า ที่บริเวณป่าช้าบ้านปากสวย หมู่ที่ 14 ตำบลวัดหลวง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย  จึงรายงานให้ น.อ.นิยม  พึ่งโต ผบ.นรข.เขตหนองคาย ทราบ และวางแผนการจับกุม โดยประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพนพิสัย,มว.ตชด.2453, มว.ฉก.ตชด.2455, กกล.รส.จว.นค., ปกครองอำเภอโพนพิสัย แล้วเดินทางเข้าพื้นที่ที่ได้รับแจ้ง

       ขณะที่เจ้าหน้าที่ฯกำลังจะเข้าวางกำลังดักซุ่มตรวจ  พบบุคคลต้องสงสัย 2 คน ซึ่งทั้ง 2 โพกศีรษะปิดบังใบหน้า ด้วยผ้าลักษณะคล้ายเสื้อคลอกลมสีขาว ขับรถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันออกมาจากป่าช้าบ้านปากสวย หมู่.14 ตำบลวัดหลวง ฯ ขึ้นมาถนนสายหนองคายโพนพิสัย(212) ขับมุ่งหน้าไปทางอำเภอโพนพิสัย เจ้าหน้าที่จึงขับรถจักรยานยนต์ติดตามเพื่อจะแสดงตนขอตรวจค้น เมื่อผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 เห็นและทราบเป็นเจ้าหน้าที่เกิดอาการตกใจ พร้อมกับเร่งความเร็วรถขับหลบหนี คนซ้อนท้ายได้ทิ้งวัตถุต้องสงสัยลงข้างทาง จำนวน 1 ห่อ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบห่อวัตถุต้องสงสัย พบเป็นยาบ้า ได้ตรวจยึดของกลางมาที่หน่วยเรือโพนพิสัยเพื่อทำการตรวจนับได้ จำนวน 1,990 เม็ด จึงแจ้งข้อกล่าวหาผู้ที่หลบหนีว่า ร่วมกันมียาเสพติด ให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า)   ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำส่งพักงานสอบสวน สภ.โพนพิสัย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ฤาษีลภ  /ข่าว

สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองคาย อบรมผลิตก๊าซชีวภาพขยะอินทรีย์และของเสียในชุมชน

หนองคาย – จังหวัดหนองคาย โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองคาย จัดอบรมเชิงปฎิบัติการ การผลิตก๊าซชีวภาพจากมูลสัตว์ ขยะอินทรีย์และของเสียชุมชน เพื่อส่งเสริมชุมชนในการกำจัดขยะอินทรีย์และของเสียเพื่อนำไปสู่การเป็นชุมชนปลอดถังขยะ

       วันที่ 3 พ.ค. 2561 ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลหาดคำ อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย นายสมเกียรติ  สุสัณพูลทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฎิบัติการ การผลิตก๊าซชีวภาพจากมูลสัตว์ ขยะอินทรีย์และของเสียชุมชน โดยมี ดร.สุนันทา  เลาวัณย์ศิริ  พร้อมคณะจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ตลอดจนการสาธิตการทำบ่อหมักก๊าซชีวภาพจากมูลสัตว์ขยะอินทรีย์และของเสียชุมชน ให้กับเทศบาลตำบลหาดคำจำนวน 1 บ่อ

       การอบรมครั้งนี้ เป็นการสร้างความร่วมมือด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระดับพื้นที่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อเป็นการส่งเสริมชุมชนสู่การเป็นชุมชนปลอดถังขยะ ทำสำนักงานให้เป็นสีเขียว ติดตั้งบ่อหมักก๊าซชีวภาพกำจัดขยะ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองคาย กับมหาวิทยามหาสารคาม ได้ให้การสนับสนุนอุปกรณ์สำหรับทำบ่อหมักก๊าซชีวภาพ จำนวน 12 บ่อ 

      

         

       ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมชุมชน ในการกำจัดขยะอินทรีย์และของเสียในชุมชนโดยการนำกลับไปใช้ในการผลิตก๊าซชีวภาพ ซึ่งสามารถกำจัดขยะอินทรีย์ได้ 5-10 กิโลกรัมต่อวันต่อบ่อ หากติดตั้งทั้ง 12 บ่อ จะสามารถลดปริมาณขยะได้ถึง 3,600 กิโลกรัมต่อเดือน หรือ 43 ตัน ต่อปี ใช้ผลิตก๊าซหุงต้มเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ลดค่าใช้จ่ายในการในการซื้อปุ๋ยและลดปริมาณขยะของชุมชนได้อีกเป็นอย่างดีทั้งเป็นการทำให้สิ่งแวดล้อมดีไปด้วย  มีผู้เข้ารับการอบรมจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้ที่สนใจกว่า 20 คน

       

       นายสมเกียรติ  สุสัณพูลทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ขยะมูลฝอยถูกจัดให้เป็นวาระแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองคายได้สนับสนุนและทำงานร่วมกับองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการจัดการขยะที่ต้นทางโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ซึ่งมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 38 แห่ง ที่ดำเนินกิจกรรมกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์จากขยะรีไซเคิลเป็นรูปธรรมสามารถลดปริมาณขยะได้ 178 ตันต่อเดือน ถือว่ายังน้อย ซึ่งเป้าหมายของจังหวัดหนองคายในการกำจัดขยะในปี 61 จะต้องดำเนินการเดินหน้าลดปริมาณขยะต้นทางให้ได้ ร้อยละ 30 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองคาย จึงมีแนวความคิดที่จะจัดการขยะอินทรีย์ซึ่งมีปริมาณมาก โดยการกำจัดต้นทาง กลางทาง ปลายทาง ซึ่งมีขยะอินทรีย์ และขยะมูลฝอย หากจัดการได้ในครัวเรือนจังหวัดหนองคายจะสามารถลดปริมาณขยะได้ถึงร้อยละ 80 ซึ่งจะสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้