คนเลี้ยงแพะท่าบ่อเฮ!!..สมาคมผู้เลี้ยงแพะ-แกะแห่งประเทศไทย หนุนสร้างเครือข่ายจากรายย่อยเป็นรายใหญ่ แปรรูปแพะเนื้อขายสร้างรายได้

       วันที่ 29 มิ.ย. 2561 ที่ สหกรณ์การเกษตรท่าบ่อ จำกัด อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย สมาคมผู้เลี้ยงแพะ-แกะแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยสมาชิกในเครือข่ายจัดประชุมขับเคลื่อนอาชีพการเลี้ยงแพะในอำเภอท่าบ่อ โดยมีนายจักรชินบุษย์ ชื่นอารมณ์ ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับดูแลและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สนง.พาณิชย์จังหวัดหนองคาย เป็นประธานกล่าวเปิดพร้อมบรรยายพิเศษเรื่อง เศรษฐ์กิจการค้าการลงทุนตามแนวชายแดน มีนายวสันต์ วโรกร นายกสมาคมผู้เลี้ยงแพะ-แกะแห่งประเทศไทย ได้เป็นเกียรติบรรยายเรื่องวิธีการเลี้ยงแพะเนื้อและแผนการตาด รวมทั้งมีผู้เชี่ยวชาญด้านปศุสัตว์แพะ-แกะ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของวงการแพะ-แกะแถวหน้าของเมืองไทย เข้าร่วมประชุมด้วย

         ในการจัดประชุมครั้งนี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือกับเกษตรกรที่เลี้ยงแพะรายย่อยได้พัฒนาไปสู่รายใหญ่  เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้ด้วยการแปรรูปเนื้อแพะ ถือเป็นการสนับสนุนนโยบายปรับเปลี่ยนพื้นที่เกษตรกรรมของรัฐบาล รวมถึงการศึกษาวิเคราะห์ลักษณะโครงสร้างตลาด หน้าที่การตลาด พฤติกรรมตลาด วิถีการตลาดตามแนวชายแดน และส่วนเหลื่อมการตลาดของแพะเนื้อ เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อส่วนเหลื่อมการตลาด และประสิทธิภาพการตลาด โดยมีเครือข่ายในพื้นที่อำเภอท่าบ่อร่วมประชุม 119 คน.

แอ่งเล็ก เช็คอิน!!..จังหวัดหนองคาย โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดหนองคาย แถลงข่าวเปิดตัวโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี “แอ่งเล็ก เช็คอิน” กับ 40 แหล่งท่องเที่ยวชุมชนแห่งใหม่ หวังกระจายรายได้สู่เศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง มั่นคง ยั่งยืน

       วันที่ 28 มิ.ย. 2561 ที่ โรงแรมหนองคายธาวิลล่า อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย นายจิรศักดิ์  ศรีคชา  รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี กิจกรรมเตรียมความพร้อมการเป็นชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี   ต่อสื่อมวลชน  โดยมี นายภควัตร คำพวง รักษาราชการแทนพัฒนาการจังหวัดหนองคาย  นางมนนิภา โกวิทศิริกุล ประธานกรรมการบริษัทประชารัฐรักสามัคคีหนองคายฯ  นายวรากร เจียรเสริมสิน นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย และ ผู้แทนจากสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดหนองคาย ร่วมแถลงข่าว

        สำหรับการแถลงข่าวครั้งนี้  เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ภายใต้สโลแกน “แอ่งเล็ก เช็คอิน” ร่วมเช็คอินกับ 40 แหล่งท่องเที่ยวชุมชนแห่งใหม่ของจังหวัดหนองคาย  ที่สามารถเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวเมืองหลัก เพื่อกระจายเข้าสู่เมืองรอง  ซึ่งจะเป็นการพลิกโฉมนวัตกรรมโอท็อป ยกระดับผลิตภัณฑ์สร้างอาชีพและรายได้แก่ชุมชน สร้างตลาดใหม่เชื่อมโยงท่องเที่ยวชุมชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ หวังกระจายรายได้สู่เศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง มั่นคง ยั่งยืน

       นายจิรศักดิ์  ศรีคชา  รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี  เป็นการดำเนินงานภายใต้โครงการ “ไทยนิยมยั่งยืน” ที่มีเป้าหมายสำคัญเพื่อสร้างชุมชนเข้มแข็ง ยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และรายได้ให้แก่ชุมชน การสร้างตลาดใหม่และการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ OTOP เข้ากับการท่องเที่ยว ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเชิงพื้นที่ เพื่อสร้างและพัฒนาอาชีพในชุมชน และการท่องเที่ยวชุมชนเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนที่มากจากการท่องเที่ยวโดยการใช้เสน่ห์ ภูมิปัญญา วิถีชีวิตวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์มาเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP และผลิตภัณฑ์ชุมชน  โครงการดังกล่าว จึงนับได้ว่าเป็นการพัฒนาบุคลากรเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจและให้แนวทางการดำเนินโครงการฯ แก่ส่วนราชการ ,เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน และผู้นำชุมชนจากหมู่บ้านเป้าหมาย ให้มีความรู้ความเข้าใจในการวิเคราะห์ศักยภาพของชุมชน และดึงศักยภาพของชุมชนให้สามารถพัฒนาสินค้า และบริการชุมชนในการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนให้สามารถรองรับกิจกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัด

เป็นพลเมืองที่ดีในยุคดิจิทัล!!..วัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย จัดการอบรม “ค่ายเยาวชนคุณธรรม สร้างสรรค์สื่อดี” ภายใต้โครงการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมในมิติวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ2561

      วันที่ 28 มิ.ย. 2561 ที่โรงแรมรอยัลนาคารา คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ อ.เมือง จ.หนองคาย นายเผด็จ สุขเกษม วัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในการเปิดการอบรม “ค่ายเยาวชนคุณธรรม สร้างสรรค์สื่อดี” ภายใต้โครงการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมในมิติวัฒนธรรม  โดยมี นางสาวสุดา ชัยกำเนิด นักชาการวัฒนธรรมชำนาญการ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ในการจัดการอบรม

       สำหรับหารจัดการอบรม ค่ายเยาวชนคุณธรรม สร้างสรรค์สื่อดี” ภายใต้โครงการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมในมิติวัฒนธรรม  ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินงานสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมในมิติวัฒนธรรมให้แก่ภาคส่วนต่างๆ ขยายและพัฒนาเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม  พร้อมทั้งสามารถดำเนินงานด้านเฝ้าระวังทางวัฒนธรรมอย่างมีประสิทธิภาพ  อีกทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนเกี่ยวกับการเป็นพลเมืองที่ดีในยุคดิจิทัล และเป็นการสืบสานเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ความเป็นไทยของชุมชน องค์กรและประชาชน

       ในการอรมยังมีวิทยากรมาให้ความรู้ในด้านต่างๆ ประกอบด้วย หัวข้อ “ท่องเที่ยววิถีไทย ใส่ใจคุณธรรม” โดยรับเกียรติจากหัวหน้าแผนกวิชาการท่องเที่ยว วิทยาลัยอาชีวะหนองคาย ,หัวข้อ”ทำไมวัยรุ่นไทย จึงกลายเป็นผู้ใหญ่ในข้ามคืน”โดยนายชนินทร์ แก่นอินทร์ นักวิเคาระห์นโยบายและแผนชำนาญการ สสจ.นค.หัวข้อ”การพนันออนไลน์ ผิดกดหมายทำลายสังคม” โดยอัยยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และหัวข้อ”การผลิตสื่อคุณธรรมนำความพอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา โดยหัวหน้าศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ วิทยาลัยอาชีวศึกษา โดยมีนักเรียน นักศึกษาในศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมในสถานศึกษา จังหวัดหนองคาย ทั้ง 12 แห่ง และผู้สังเกตการณ์ จำนวน 140 คน

รณรงค์แก้ไขปัญหาขยะมูลฝอย..ตามแนวทาง 3Rs !!..เทศบาลเมืองหนองคาย อบรมสมาชิกกองทุนสงเคราะห์จากขยะรีไซเคิลเทศบาลเมืองหนองคาย เพื่อชี้แจงผลการดำเนินการในรอบ 2 ปี ให้กับสมาชิกได้รับทราบ

       วันที่  27 มิ.ย. 2561 ที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองหนองคาย  อ.เมือง จ.หนองคาย สำนักงานการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองหนองคาย ได้จัดการอบรมสมาชิกกองทุนสงเคราะห์จากขยะรีไซเคิลเพื่อชี้แจงผลการดำเนินการในรอบ 2 ปี และกระตุ้นให้สมาชิกมีความรู้เรื่องการคัดแยกขยะตามแนวทาง 3Rs เพื่อลดและใช้ประโยชน์จากขยะอินทรีย์ ตามนโยบายของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีนายกำภล เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเป็นประธานในการเปิดการอบรม พร้อมด้วยนายวีระชัยโชค มงคลภูมิรัตน์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย และสมาชิเทศบาลเข้าร่วม

       นายทวนทอง เปียจำปา ผู้อำนวยกองการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองหนองคาย กล่าวว่า ปัญหาขยะมูลฝอยที่เป็นปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นและสั่งสมมาเป็นระยะเวลานาน และการแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่ผ่านมายังไม่สามารถตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เทศบาลเมืองหนองคาย ได้รณรงค์แก้ไขปัญหาขยะมูลฝอย ตามแนวทาง 3Rs ผ่านกิจการกองทุนสงเคราะห์จากเทศบาลเมืองหนองคาย มาตั้งแต่งบประมาณ 2559 โดยให้ประชาชน คัดแยกขยะรีไซเคิลตั้งแต่ต้นทาง จากบ้านเรือน/ชุมชนแล้วนำมาขายขยะให้กับกองทุนหากมีสมาชิก ในครัวเรือนเสียชีวิตจะได้รับเงินสงเคราะห์โดยหักจากสมาชิกทั้งหมด ครัวเรือนล่ะ 20 บาท ซึ่งในปัจจุบันกองทุนสงเคราะห์ขยะรีไซเคิลของเทศบาลเมือง มีสมาชิก จำนวน 1,860 ครัวเรือน จาก 42 ชุมชน สมารถลดปริมาณขยะ ตั้งแต่เดือน พ.ค. 59 ถึงปัจจุบัน จำนวน 542.70 ตัน และมีรายได้จากการขายขยะรีไชเคิล จำนวน 1,750 999 บาท และมีสมาชิกที่เสียชีวิตจำนวน 43 ราย ได้รับเงินสงเคราะห์เป็นเงิน 1,063,720 บาท สำหรับการอบรมในครั้งนี้มีสมาชิก เข้าร่วมในการอบรม จำนวน 300 คน