ท่องเที่ยว 8 เส้นทาง วันเดียวเที่ยวได้ที่หนองคาย เชื่อมโยงการตลาดท่องเที่ยวกับภาคธุรกิจ ในโครงการพัฒนาหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว (OTOP Lillage)

        วันนี้ (25 ก.ย. 2561) ที่โรงแรม อัศวรรณ อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดหนองคาย ได้จัดพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว กับภาคธุรกิจ ในโครงการพัฒนาหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว (OTOP Lillage) บนเส้นทางตามเขตพัฒนาการท่องเที่ยว 8 เส้นทาง กิจกรรม การเชื่อมโยงการตลาดท่องเที่ยวกับภาคธุรกิจ โดยมี นายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดโครงการฯ

         น.ส.อัญชนิดา กมลเพ็ชร หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า โครงการพัฒนาหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว (OTOP Lillage) บนเส้นทางตามเขตพัฒนาการท่องเที่ยว 8 เส้นทาง มุ่งเน้นการสร้างอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น  ประเพณีและวัฒนธรรมดั้งเดิม  สร้างความโดดเด่นของชุมชน  เน้นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนให้ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP  หรือผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีอัตลักษณ์โดดเด่น  ยกระดับให้เป็นสินค้าที่ระลึกเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชม  และใช้จ่ายในหมู่บ้าน  โดยนักท่องเที่ยวจะได้รับความอบอุ่น ประทับใจ ด้วยวิธีการเชื่อมโยงสินค้า OTOP  ให้สอดคล้องกับท้องถิ่น  ศิลปะวัฒนธรรม  วิถีชีวิต  แหล่งท่องเที่ยวและบริการ  โดยยึดกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในหมู่บ้าน

       จังหวัดหนองคาย  ได้รับจัดสรรงบประมาณให้ดำเนินการพัฒนาหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว (OTOP Lillage) 8 เส้นทาง  ในการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้าน  เพื่อรองรับการท่องเที่ยวดังกล่าว  2 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านผาตั้ง หมู่ 1 ต.ผาตั้ง อ.สังคม และ บ้านหมากก๋อง หมู่ 1 ต.บ้านเดื่อ อ.เมืองหนองคาย โดยแต่ละเส้นทางของทั้งสองหมู่บ้านนั้น  สามารถเดินทางไป-กลับได้ภายใน 1 วัน โดยคาดว่าจะเกิดการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับภาคธุรกิจ  และเป็นช่องทางการตลาดในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น

หนองคาย - ชาวบ้านจำนวนมากร่วมกันสืบสานประเพณีทำบุญสลากภัตและทำบุญข้าวสาก ประเพณีอันเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ

       วันนี้ (24 ก.ย. 2562) ที่ศาลาการเปรียญวัดแก้วพิจิตร  บ้านท่าบ่อ หมู่ 9 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ชาวบ้านท่าบ่อ 3 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ 5 หมู่ 9 และ หมู่ 12 จำนวนมากร่วมกันทำบุญใหญ่ของหมู่บ้าน คือประเพณีบุญสลากภัตและทำบุญข้าวสาก ที่นิยมปฏิบัติกันช่วงขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี โดยชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้านจะนำผลไม้ที่ปลูกอยู่ไร่นาสวนของตนเองและอาหารคาวหวานรวมทั้งเครื่องไทยทานต่างๆไปตั้งเป็นกัณฑ์สลากถวายพระภิกษุ สามเณร ที่จำพรรษาอยู่ในวัดของหมู่บ้าน เป็นประเพณีใหญ่สำหรับหมู่บ้านและวัด

       นอกจากนี้ ชาวบ้านยังเตรียมอาหารคาวหวานชนิดต่างๆ ห่อด้วยใบตองไว้แต่เช้ามืด รวมทั้งหมาก พลู และ บุหรี่ อย่างละเล็กอย่างละน้อย ใส่ลงไปในห่อใบตองกล้วย นอกจากนี้ยังมีพลไม้ชนิดต่างๆ เรียกกันว่าทำบุญข้าวสาก

       ต่อจากนั้น มัคทายกก็จะนำเบอร์มาติดที่กัณฑ์ฉลากของเจ้าภาพแต่ละรายแล้วเขียนเบอร์หมายเลขให้พระจับ  พระจับได้เบอร์อะไรของเจ้าภาพคนใดก็ไปรับกัณฑ์สลากที่เจ้าภาพคนนั้นนำมาถวาย เป็นการถวายทานแบบไม่เจาะจงตัวผู้รับเมื่อพระองค์ใดจับได้เบอร์ของเจ้าภาพ เจ้าภาพไม่ควรแสดงความยินดีหรือ ยินร้ายในผู้รับ เมื่อมีการจับสลากแล้วก็จะมีการยกของประเคนตามสลาก  จากนั้นพระเณรจะฉันเพล ให้พรญาติโยมจะพากันรับพรแล้วกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้ญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว

     หลังเสร็จพิธี ชาวบ้านยังนำเอาห่อข้าวสากไปวางไว้ตามบริเวณวัดและทางสี่แพ่ง  พร้อมจุดเทียนและบอกกล่าวให้ญาติมิตรผู้ล่วงลับไปแล้วมารับเอาอาหารและผลบุญที่อุทิศให้  เป็นเสร็จพิธีทำบุญสลากภัตและทำบุญข้าวสาก ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย

หนองคาย - พบศพชายวัย 27 ปี ถูกมีดแทงในห้องนอนบ้านพัก สภาพศพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ญาติ เผย ผู้ตายดื่มเหล้าเป็นประจำ คาดคิดสั้นก่อนใช้มีดฆ่าตัวตาย

      เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (21 ก.ย. 2561) ร.ต.อ.ไพฑูรย์ ชั้นเสมา รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตในบ้านพัก พื้นที่บ้านน้ำโมง หมู่ 2 ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมกำลังชุดสืบสวน สภ.ท่าบ่อ  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ  และประสานไปยังแพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานหนองคาย และกู้ภัยร่วมใจท่าบ่อ ลงพื้นที่ตรวจสอบ

        ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกสูง เลขที่ 62 บ้านน้ำโมง หมู่ 2 ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ภายในห้องนอนชั้นบนพบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อว่า นายอนุพงษ์ บัวผัน อายุ 27 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอน สภาพนอนหงาย ลิ้นจุปาก ขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณบ้าน เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน มีบาดแผลถูกของมีคมแทงที่บริเวณราวนมด้านซ้าย กว้าง 1 เซนติเมตร ลึกประมาณ 12 เซนติเมตร และข้างศพด้านขาวยังพบมีดปลายแหลม คล้ายมีดปลอกผลไม้ 1 เล่ม และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง บริเวณภายในจุดเกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านไม่มีการลื้อค้นหรือหายไป  หลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสภาพศพ คาดว่า น่าจะเป็นการฆ่าตัวตายเองไม่ใช่ถูกฆาตกรรม

        สอบถามญาติผู้ตายในเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายอาศัยอยู่บ้านคนเดียว ส่วนญาติๆ ก็ไปอยู่ที่อื่น และผู้ตายมักดื่มเหล้าเป็นประจำ จนญาติต้องพาไปบวชที่วัดโคกสว่าง บ้านดอนขม ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย หวังให้ผู้ตายเลิกเหล้า หลังบวชได้ 4 พรรษา ผู้ตายก็ราสิกขาออกมา จากนั้นก็เริ่มดื่มเหล้าเป็นประจำทุกวันและหนักกว่าเดิม จนกินข้าวไม่ได้ กินได้แต่ต้มบะหมี่และไข่ต้มเท่านั้น เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา แม่ของผู้ตายได้มาเยี่ยมที่บ้านก็ยังเห็นกันอยู่ จนกระทั้งเช้าวันนี้ก็มารู้ว่านายอนุพงษ์ตายแล้ว คาดว่าน่าจะคิดสั้นก่อนใช้มีแทงตัวเองตาย ซึ่งก็ไม่ติดใจอะไรในการคายของอนุพงษ์  เจ้าหน้าที่จึงอนุญาตให้ญาตินำศพผู้ตายไปทำพิธีทางศาสนา ต่อไป