หนองคาย - ไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง เสียหายไม่ต่ำกว่า 5 แสน ยังดีเจ้าของบ้านออกไปซื้อกับข้าว คาดไฟฟ้าลัดวงจร

     วันที่ 7 มี.ค. 62 เวลา19.09 น. ร.ต.อ.กฤษณะ ธรรมจิตร รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองหนองคาย ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเพลิงไหม้บ้านไม้ยกสูง ใกล้ตลาดสดวัดธาตุ และกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เกรงจะลามติดบ้านข้างเคียง หลังรับแจ้งจึงประสานไปขอสนับสนุนรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองหนองคาย และหน่วยงานอื่นๆ จำนวน 5 คัน เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

       ที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านกำลังช่วยกันดับไฟที่กำลังลุกไหม้บ้านทั้งหลัง เป็นบ้านไม้ยกสูง เลขที่ 194 หมู่ 1 ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย ของนายพงษ์พันธุ์ พรหมประกาย อายุ 56 ปี  ตรวจสอบภายในบ้านพบว่ามีทรัพย์สินข้าวของเครื่องใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นตู้เสื้อผ้า โทรทัศน์ ตู้เย็น  รถสามล้อ มอเตอร์ไซค์  สร้อยทอง 1 บาท แหวนทอง 1 สลึง พระเครื่องจำนวนหนึ่ง และธนบัตรเก่าถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง  ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการดับไฟประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมไว้ได้

       สอบถามนายพงษ์พันธุ์ พรหมประกาย อายุ 56 ปี  เจ้าของบ้าน เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนออกไปซื้อกับข้าวไม่มีใครอยู่บ้าน จนกระทั่งมีคนโทรมาบอกว่าไฟไหม้บ้าน ตนจึงรีบกลับมาดู ก็พบบ้านของตนถูกไฟไหม้วอดทั้งหลังเสียแล้ว

       เบื้องต้น จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ คาดว่า น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวสร้างมานาน สายไฟก็ไม่เคยเปลี่ยนจึงอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร จนเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ส่วนมูลค่าความเสียหายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท

หนองคาย - นายอำเภอท่าบ่อ นำประชาชนจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” รวมทำความสะอาด ปัดกวาด ล้างลานวัด กำจัดผักตบชวาและวัชพืช ปรับภูมิทัศน์วัดศรีชมภูองค์ตื้อ เพื่อรองรับสาธุชนเที่ยวงานสืบสานประเพณีบุญเดือน 4 ประจำปี 2562

     วันที่ 7 มี.ค. 62 ที่วัดศรีชมภูองค์ตื้อ บ้านน้ำโมง ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย  นายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร นายอำเภอท่าบ่อ นำประชาชนจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ทุกภาคส่วนรวมกว่า 500 คน ดำเนินการ ทำความสะอาด ปัดกวาด ล้างลานวัดและถนน  ปรับภูมิทัศน์ และขุดลอกผักตบชวาและวัชพืช บริเวณลำห้วยโมงหน้าวัดศรีชมภูองค์ตื้อ  เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับคลื่นสาธุชนเที่ยวงานสืบสานประเพณีบุญเดือน 4 นมัสการหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 15 - 21 มีนาคม 2562 นี้ และเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามัคคี ความสำนึกรักในแผ่นดินถิ่นเกิด

        โดยประชาชนจิตอาสาทุกภาคส่วน ได้นำเครื่องมือ และอุปกรณ์ทำความสะอาด นำรถบรรทุกน้ำทำการฉีดพ่นบริเวณที่มีฝุ่นละออง ล้างคราบสิ่งสกปรกรอบๆ บริเวณลานวัดและวิหารหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ พร้อมร่วมกันกำจัดผักตบชวาและวัชพืชในลำห้วยโมงหน้าวัด ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรม "บ้านสวย เมืองสะอาด" ทำความ ดี ด้วยหัวใจ อีกทั้งเพื่อเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา รวมทั้งส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ด้วย

เพื่อไทย หัวใจคือประชาชน! "เอกธนัช อินทร์รอด" ผู้สมัคร สส.พท.เขต 3 หนองคาย เดินเครื่องลุยหาเสียงพื้นที่ตำบลบ้านถ่อน อ.ท่าบ่อ ชูสโลแกน "เศรษฐกิจแย่ คนแก้ต้องพรรคเพื่อไทย" แนวนโยบายเพื่อเกษตรกรไทย มุ่งเน้นการจัดโครงสร้างการเกษตรแบบบูรณาการ พบชาวบ้านอยากได้ 30 บาทรักษาทุกโรคกลับมา

      วันที่ 6 มี.ค. 62 นายเอกธนัช อินทร์รอด ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้งจังหวัดหนองคาย เขต 3 เบอร์ 16 พรรคเพื่อไทย พร้อมทีมงานและเครื่องขยายเสียง เดินสายหาเสียงแนะนำตัวให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลบ้านถ่อน อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย โดยเดินเท้าขอคะแนนเสียงกับขาวบ้านตามหมู่บ้านต่างๆ ในพื้นที่ตำบลบ้านถ่อน ประกอบด้วย บ้านโพนงาม, บ้านโพนเจริญ, บ้านโนนศิลา, บ้านถ่อนใต้, บ้านดอนแดง, บ้านถ่อนเหนือ, บ้านหนองกก และบ้านถ่อนโพธิ์ศรี

        ทั้งนี้ นายเอกธนัช อินทร์รอด ได้กล่าวทักทายพร้อมแนะนำตัวบอกหมายเลขให้พี่น้องประชาชนได้ทราบ โดยมีชาวบ้านที่ได้ยินเสียงต่างก็ออกมายืนรอหน้าบ้าน โบกมือให้กับผู้สมัคร ซึ่งได้รับการตอบรับจากชาวบ้านเป็นอย่างดี พร้อมกับชูสโลแกนของพรรค ว่า "เศรษฐกิจแย่ คนแก้ต้องพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคเพื่อไทย มั่นใจว่าจะหยุดวิกฤตเศรษฐกิจได้สำเร็จโดยใช้เวลาไม่นาน ทุกครั้งที่ได้มีโอกาสทำงานให้กับพี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทย ทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นทุกครั้ง ดังคำว่า "เพื่อไทย หัวใจคือประชาชน"

      นายเอกธนัช อินทร์รอด กล่าวว่า วันนี้มาแนะนำตัวให้กับพี่น้องประชาชนได้ทราบว่าตนเองเป็นผู้สมัครพรรคเพื่อไทย หมายเลข 16 ซึ่งกระแสตอบรับของพี่น้องประชาชนถือว่าให้การตอบรับที่ดี หลายคนที่มาทักทายต่างก็ชื่นชอบนโยบายของพรรค โดยเฉพาะในเรื่องของโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่สามารถให้การช่วยเหลือประชาชนในชนบทได้อย่างแท้จริง ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบการรักษาพยาบาลได้  และได้เรียกร้องอยากให้โครงการนี้กลับมา

       สำหรับนโยบายของพรรคเพื่อไทย มีแนวนโยบายเพื่อเกษตรกรไทย มุ่งเน้นการจัดโครงสร้างแบบบูรณาการ โดยมองปัญหาที่เป็นอยู่อย่างรอบด้าน และมองทางออกด้วยแนวคิดใหม่ นำมากำหนดยุทธศาสตร์หลัก ประกอบด้วย "เพิ่มทุน" คือ เติมเงินผ่านสถาบันการเงิน, ปรับโครงสร้างหนี้, ลดภาษีค่าใช้จ่าย, "เพิ่มผลผลิต" คือ เกษตรแม่นยำ, เกษตรปลอดภัย, กองทุนปรับเปลี่ยนหน้าดิน,โซนนิ่งพืชเศรษฐกิจ, "เพิ่มมูลค่าและการขาย" คือ ตลาดรูปแบบใหม่, ขายตรงและออนไลน์,ตลาดล่วงหน้า, แปรรูปสินค้าเกษตร และ"เพิ่มโอกาส" คือ ยกเลิกกฏหมายผูกขาด, ปรับปรุงอุปสรรคทางกฎหมาย, สร้างเกษตรพันธ์ุใหม่

หนองคาย - ญาตินำ 5 ศพคนไทยที่เกิดอุบัติเหตุที่ สปป.ลาว กลับถึงไทยแล้ว มีเจ้าหน้าที่ทั้งไทยและลาว อำนวยความสะดวก เพื่อนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนา

เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 62 เวลา 23.40 น. ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อำเภอเมืองหนองคาย  เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยลาว (กาแดง) สปป.ลาว ได้นำ 5 ศพ ครอบครัวศรีสวัสดิ์ จาก รพ.หลวงพระบาง สปป.ลาว กลับถึงด่านไทย  โดยมีเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างคงคาธรรมสถาน อำนวยความสะดวกให้กับญา ซึ่งก่อนเคลื่อนย้ายศพ ญาติได้จุดธูปบอกกล่าวทั้ง 5 ศพว่าได้กลับถึงไทยแล้ว และจะพาเดินทางกลับบ้าน 

      จากนั้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้นำทั้ง 5 ศพ ขึ้นรถกู้ภัยสว่างคงคาธรรมสถานอุดรธานีและหนองคาย จำนวน 4 คัน โดยมีรถตำรวจท่องเที่ยวนำขบวน เพื่อนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่ จังหวัดสมุทรปราการ  หลังจากได้เกิดอุบัติเหตุรถปิกอัพโตโยต้าสี่ประตูสีทอง ทะเบียน กฉ 4125 สมุทรปราการ ตกเหว บริเวณพื้นที่เมืองกาสี-เมืองนาน แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2562 ท่านมา  โดยมีผู้เสียชีวิต คือ นายสุภัทร์ ศรีสวัสดิ์ อายุ 74 ปี ,นางอ่อน ศรีสวัสดิ์ อายุ 73 ปี ,นายสุรพันธ์ ศรีสวัสดิ์ อายุ 54 ปี น.ส.สมพร ศรีสวัสดิ์ อายุ 49 ปี และนายสมภพ ศรีสวัสดิ์ อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ  ซึ่งทางญาติได้เดินทางไปติดต่อขอรับศพ ผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ เพื่อช่วยดำเนินการประสานทางการลาวเพื่อเคลื่อนย้ายศพกลับประเทศไทย และกลับถึงไทยเป็นที่เรียบร้อย