จังหวัดหนองคายจัดงานชุมนุมลูกเสือสำรองแห่งชาติ ครั้งที่ 1 ครบรอบ 61 ปี ลูกเสือสำรองแห่งประเทศไทย จังหวัดหนองคาย ภายใต้คำขวัญ “รับผิดชอบหน้าที่ มีวินัย ไม่ตามใจตนเอง”

       วันที่ 5 ส.ค. 62 ที่โรงเรียนท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ในฐานะผู้อำนวยการลูกเสือจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือสำรองแห่งชาติ ครั้งที่ 1 ครบรอบ 61 ปี ลูกเสือสำรองแห่งประเทศไทย จังหวัดหนองคาย ทั้งนี้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ พิจารณาเห็นว่า กิจการลูกเสือสำรองมีความสำคัญในการปลูกฝังให้เด็กมีนิสัยที่ดีตั้งแต่วัยเยาว์ มีกระบวนการในการพัฒนาเยาวชนของชาติให้เป็นคนดี เป็นพลังสำคัญในการรักษาและพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญมั่นคง  อีกทั้งประเทศไทยได้ก่อตั้งลูกเสือสำรองมาครบ 61 ปีในวันที่ 5 สิงหาคม 2562 จึงมีโครงการจัดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติครั้งที่ 1 ในระหว่างวันที่ 5-6 สิงหาคม 2562

      นายชาตรี ม่วงสว่าง ศึกษาธิการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จังหวัดหนองคาย โดยศึกษาธิการจังหวัดหนองคาย ได้กำหนดจัดงานชุมนุมลูกเสือสำรองแห่งชาติ ครั้งที่ 1 ครบรอบ 61 ปี ลูกเสือสำรองแห่งประเทศไทย ระว่างวันที่ 5-6 สิงหาคม 2562 ณ โรงเรียนท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ ภายใต้คำขวัญ “รับผิดชอบหน้าที่ มีวินัย ไม่ตามใจตนเอง” โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเตรียมความพร้อมของเยาวชนลูกเสือไทย รองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซี่ยน เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความสามารถ ทักษะทางวิชาการลูกเสือ ให้กับลูกเสือสำรองและผู้บังคับบัญชาลูกเสือ  เพื่อให้ลูกเสือทำกิจกรรมร่วมกัน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน เพื่อเสริมสร้างความรักสามัคคี และความสัมพันธ์อีนดีต่อกันและกัน เพื่อให้ลูกเสือสำรองได้แสดงออกถึงความสามารถทักษะทางการลูกเสือ  โดยมีผู้เข้าร่วมชุมนุมลูกเสือสำรองแห่งชาติ ครั้งที่ 1 ในครั้งนี้จำนวน 1,100 คน ประกอบด้วย ลูกเสือและเนตรนารีสำรอง ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และผู้กำกับลูกเสือจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 1 จำนวน 72 หมู่ รวม 504 คน, เขต 2 จำนวน 46 หมู่ รวม 322 คน, เทศบาลเมืองหนองคาย จำนวน 5 หมู่ รวม 35 คน, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จำนวน 6 หมู่ รวม 42 คน รวมทั้งสิ้น 129 หมู่ 903 คน และคณะกรรมการดำเนินงานและวิทยากร จำนวน 200 คน

     สำหรับการชุมนุมแบ่งออกเป็น 6 ค่ายย่อย ใช้ชื่อตามตัวละครในนิทานเรื่องป่าดงพงพี ได้แก่ อาเคล่า  บาลู  เมาคลี  บาเกียร่า แชร์คาน  และบันเดอโล้ก  ซึ่งมีกิจกรรมประกอบด้วย 6 กิจกรรม ได้แก่ งานศิลปะ  งานฝีมือ  ทักษะลูกเสือสำรอง  การสำรวจ  นิทานป่าดงพงพี  กิจการลูกเสือสำรอง และการชุมนุมรอบกองไฟ

ยายทวด 5 แผ่นดินชาวอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย เผยเคล็ดลับที่ทำให้อายุยืน มาถึง 106 ปี

      วันที่ 2 ส.ค. 62  นายสุชน ภัยธิราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยนางรัตนมณี ฮวดเส็ง ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านหนองคาย  นายชนันนัทธ์ ธนภัทร์จิระโชติ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดหนองคาย นางสาวชุลี สงวนกิจ ผู้อำนวยการสถานพัฒนาและฟื้นฟูจังหวัดหนองคาย และเจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองคาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางเข้าเยี่ยมนางโอม ธรรมมา อายุ 106 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 5 ตำบลโพนสา อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย  ตามโครงการเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุ 100 ปี เพื่อตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่และมอบสิ่งของพร้อมเงินสงเคราะห์ให้เป็นกำลังใจ  เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2562 เมื่อคณะเดินทางไปถึงก็ได้พบกับคุณยายทวดโอม นั่งอยู่ภายในตัวบ้านพร้อมญาติพี่น้อง ซึ่งคุณยายทวดโอมมีท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใสอารมดี พร้อมกับยกมือให้พรกับทุกคน ขอให้มีร่างกายแข็งแรงเหมือนกับตน

      ทั้งนี้คุณยายทวดโอม เกิดเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2456 ซึ่งเกิดหลังจากรัชกาลที่ 6 ขึ้นเสวยราชสมบัติ เมื่อปี พ.ศ. 2453 เรียกได้ว่าเป็นคุณยายทวด 5 แผ่นดิน คุณยายทวดโอมมีพี่น้องทั้งหมดรวมกัน 5 คน เป็นชาย 2 หญิง 3 คุณยายทวดโอมเป็นที่สาวคนโต ซึ่งน้องชายทั้ง 2 คนได้เสียชีวิตไปแล้ว  และคุณยายทวดโอมนั้นไม่มีครอบรัว  ยังเป็นโสดมาเท่าทุกวันนี้ ปัจจุบันอาศัยอยู่กับน้องสาวคนเล็ก คือนางลี ลาภานิช อายุ 67 ปี กับน้องเขย คือนายสมบูรณ์ ลาภานิช อายุ 66 ปี โดยคุณยายทวดโอม ได้บอกเคล็ดลับของการทำให้ชีวิต อายุยืนยาว ว่า ชอบทานพักกับน้ำพลิก โดยเฉพาะน้ำพริกปลาป่น น้ำพริกมะเขือเทศจิ้มกับพักลวกและพักสด ชอบทานมากที่สุดก็คือปลานึ่ง  โดยเฉพาะปลาที่ตัวเล็กๆ จะทานได้ทั้งตัว ไม่ชอบทานเนื้อ เพราะไม่อร่อย ทานแต่พักและปลาเป็นหลัก และจะไม่อยู่นิ่ง ทำทุกอย่างที่ทำได้ภายในบ้าน เป็นการออกกำลังกายไปด้วย :ซึ่งสังเกตได้ว้าคุณยายทวดโอม แม้จะมีอายุมากถึง 106 ปี แต่ก็มีสุขภาพแข็งแรง

     จากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายและคณะ ได้เดินทางขึ้นรถเพื่อไปเยี่ยมผู้สูงอายุ 100 ปี ในพื้นที่อำเภอเมือง 3 ราย อำเภอโพนพิสัย 1 ราย และอำเภอรัตนวาปี 1 ราย

จังหวัดหนองคาย จัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพื้นที่ตำบลนาข่า อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย

      วันที่ 1 ส.ค. 62 ที่โรงเรียนบ้านกวดโคกสว่าง ตำบลนาข่า อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดงานขึ้นทุกจังหวัดพร้อมกันทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม-3 สิงหาคม 2562 เพื่อให้บริการแก่เกษตรกรในการแก้ไขปัญหาการผลิตได้อย่างรวดเร็ว อย่างทั่วถึงและสอดคล้องกับควมต้องการของเกษตรกร ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม และหน่วยงานที่กี่ยวข้องร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกร ได้สมารถทำการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยเป็นการปฏิบัติงานในเชิงรุกที่ทำได้ เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายที่มีปัญหาให้ได้รับบริการทางการเกษตร เช่นงานวิเคราะห์ดิน การวิจัยโรคพืช โรคสัตว์ รวมถึงการถ่ายทอกเทคโนโลยีและฝึกอบรมความรู้การเกษตรเสริมเพิ่มเติมควบคู่กันไปด้วย

        นายร่มไม้ นวลตา เกษตรจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า คลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ในครั้งนี้ มีเกษตรกรในพื้นที่ตำบลนาข่าและพื้นที่ใกล้เคียงมารับบริการกิจกรรมที่นำมาบริการครั้งรั้งนี้ ประกอบด้วยการลงนามถวายพระพร นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ การฝึกอบรมอาชีพด้านการเกษตรเฉลิมพระเกียรติ และเปิดบริการ 16 คลินิก ได้แก่ คลินิกพืช คลินิกดิน คลินิกปศุสัตว์ คลินิกประมง คลินิกชลประทาน คลินิกบัญชี คลินิกสหกรณ์ คลินิกกฎหมาย(สปก.) คลินิกข้าว คลินิกหม่อนไหม คลินิกเศรษฐกิจการเกษตร คลินิกอารักขาพืช คลินิกยางพารา คลินิกเศรษฐกิจพอเพียง และคลินิกสาธารณสุข โดยมีเกษตรกรเข้ารับบริการทางการเกษตร จำนวนกว่า 400 คน